นายมาร์ค เวลส์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และการออกแบบอุตสาหกรรม รอยัล เอนฟิลด์ โกลบอล กล่าวภายในงานเปิดตัวบุลเล็ต ไทรอัลส์ว่า “รอยัล เอนฟิลด์มีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่น่าภาคภูมิใจในการสร้างรถมอเตอร์ไซค์ที่เป็นอมตะและมีความทนทานซึ่งบุลเล็ตคือรถมอเตอร์ไซค์ที่ทนทานและมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานที่สุด ภาพของรถมอเตอร์ไซค์บุลเล็ต ไทรอัลส์ที่ขี่โดยจอห์นนี บริทเทนนั้นเป็นสิ่งที่เราไม่เคยลืม ภาพเหล่านั้นทำให้เรารำลึกถึงสมรรถนะอันล้นเหลือของรถมอเตอร์ไซค์ที่อยู่เหนือเส้นทางอันท้าทายและความสำเร็จในการแข่งขันไทรอัลส์
โดยรถมอเตอร์ไซค์บุลเล็ต ไทรอัลส์ ปี 2019 ได้แรงบันดาลใจจากรถไทรอัลส์ของจอห์นนี บริทเทนที่คว้าแชมป์มากกว่า
50ครั้งระหว่างปี 1948 ถึง 1965 และยังเป็นการอุทิศให้แก่รากฐานของการออกแบบและความเชี่ยวชาญทางวิศวกรรมของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบจนเกิดเป็นช่วงล่างแบบสวิงอาร์มครั้งแรกในรถบุลเล็ตในปี 1949 และในปีนี้ เราร่วมรำลึกครบรอบ70 ปีแห่งชัยชนะในรายการ ISDT ของบุลเล็ต ไทรอัลส์ ที่นับเป็นการนำเสนอช่วงล่างแบบสวิงอาร์มเป็นครั้งแรกในปี 1949 ผมมั่นใจว่ารถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้จะได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ที่มีความหลงใหลต่อแบรนด์รอยัล เอนฟิลด์ใน
ประเทศไทย”
ประวัติศาสตร์ของการแข่งขันไทรอัลส์สามารถย้อนกลับไปได้ถึงต้นยุคทศวรรษ 1920 เมื่อผู้ผลิตรถจักรยานยนต์มักให้รถของตนเข้าร่วมการแข่งขันรถที่เรียกว่าไทรอัลส์ โดยให้คำนิยามการแข่งขันว่า “ไทรอัลส์ที่ไว้ใจได้” (Reliability Trials)เนื่องจากเป็นการโชว์สมรรถนะและศักยภาพในการยึดเกาะถนน ความสามารถในการควบคุมทิศทาง และความทนทานโดยรวมที่ไว้ใจได้ โดยร่วมการแข่งขันในสหราชอาณาจักรและทั่วทั้งภูมิภาคยุโรป อย่างไรก็ตามเมื่อพื้นผิวถนนถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 20 การแข่งขันแบบไทรอัลส์ได้เปลี่ยนสนามไปสู่การแข่งขันบน“เส้นทางออฟโรด”ที่จัดขึ้นเป็นโดยเฉพาะซึ่งพื้นผิวเส้นทางที่ท้าทายคือบททดสอบอันหนักหน่วงสำหรับทั้งคนและตัวรถ
รอยัล เอนฟิลด์ บุลเล็ตเปิดตัวครั้งแรกในปี 1932พร้อมกับการได้ชื่อว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ “สมบูรณ์แบบสำหรับการขับขี่แบบทัวริ่งหรือแข่งขันไทรอัลส์” หลังจากเปิดตัวไม่นาน บุลเล็ตสามารถสร้างความสำเร็จจากการแข่งขันรายการ International Six Days Trial (ISDT)ในปี 1935 โดยที่ทีมรอยัล เอนฟิลด์ เป็นรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติอังกฤษหนึ่งเดียวที่ไม่ถูกตัดแต้มแม้แต่คะแนนเดียว จากนั้นในปี 1937 นักขี่เอนฟิลด์ สร้างสถิติคว้าถ้วยรางวัลถึง37 ใบและเหรียญทองอีก
6 เหรียญในการแข่งขัน ISDT จากนักขี่ในตำนานอย่างชาร์ลี โรเจอร์ส (Charlie Rogers)จอร์จ โฮลด์เวิร์ธ (George Holdworth) และแจ็ค บุ๊คเกอร์ (Jack Booker) ซึ่งขี่บุลเล็ต250 ซีซี และ350 ซีซี รวมถึงเวอร์ชั่นคัสตอมพิเศษสำหรับการแข่งขันขนาด 500 ซีซี สู่ชัยชนะ
แต่ความสำเร็จที่แท้จริงเกิดขึ้นในช่วงหลังสงครามโลก รอยัล เอนฟิลด์ กลายเป็นบริษัทแถวหน้าในการแข่งขันไทรอัลส์อย่างแท้จริงด้วยบุลเล็ตขนาด 350 ซีซี รุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งออกแบบโดยเท็ด พาร์โด (Ted Pardoe)และโทนี่ วิลสัน โจนส์
(Tony Wilson-Jones) ซึ่งปฏิวัติวงการด้วยการผสมผสานช่วงล่างแบบสวิงอาร์มเข้ากับโช้คอัพน้ำมันเป็นครั้งแรกในรถจักรยานยนต์รุ่นผลิตจำหน่ายเชิงพานิชย์ การพัฒนาดังกล่าวพลิกโฉมการออกแบบรถมอเตอร์ไซค์ไปตลอดกาล
โดยบุลเล็ตที่มาพร้อมช่วงล่างแบบสวิงอาร์มของรอยัล เอนฟิลด์ได้ฉีกขนบดั้งเดิมของการเปิดตัวรถด้วยการเผยโฉมที่การแข่งขันไทรอัลส์ด้วยรถต้นแบบ3 คันในการแข่งขัน Colmore Cup ปี 1948 หลังจากนั้น รถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ได้รับการคัดเลือกให้ร่วมทีม British Trophy ในการแข่งขัน ISDT ปี 1949 จัดขึ้นในเมืองซานเรโม ประเทศอิตาลี ความสำเร็จตามมาพร้อมกับนักขี่บุลเล็ตทั้งสองคน ชาร์ลีโรเจอร์ส(Charlie Rogers) และวิค บริทเทน (Vic Brittain) คว้าเหรียญทองได้สำเร็จและส่งให้ทีมจากอังกฤษคว้าชัยชนะอันดับหนึ่ง บุลเล็ต ไทรอัลส์มาพร้อมช่วงล่างสวิงอาร์มจึงกลายหัวใจสำคัญของรถรุ่นนี้ต่อมาอีกถึง14 ปี
นายวิมัล ซุมบ์ลี หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก รอยัล เอนฟิลด์ กล่าวภายในงานเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ว่า “รอยัล เอนฟิลด์ บุลเล็ต มีฐานลูกค้าที่มีความภักดีและหลงใหลอย่างยิ่งอยู่ทุกมุมโลกมาตลอด8 ทศวรรษที่ผ่านมา บุลเล็ต ได้รับการยอมรับว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ระดับไอคอนและมีชื่อเสียงในด้านความทรหดทนทานและใช้งานได้ยาวนาน อีกทั้งมีประเพณีการส่งต่อรถมอเตอร์ไซค์จากรุ่นสู่รุ่น เพื่อสานต่อตำนานแห่งไทรอัลส์ของบุลเล็ตในปี 2019 เรามีความยินดีที่จะประกาศการจัดจำหน่ายบุลเล็ต ไทรอัลส์ในประเทศไทย”
การบอกเล่าเรื่องราวการครองความเป็นเจ้าสนามแข่ง ISDT ของบุลเล็ต ไทรอัลส์ไม่อาจสมบูรณ์แบบได้ถ้าไม่มี
จอห์นนีบริทเทน ผู้ซึ่งกวาดชัยชนะการแข่งขันไทรอัลส์กับรถบุลเล็ต ไทรอัลส์ 350 มานาน 15 ปี จอห์นนีเป็นลูกชายของตำนานนักขี่รายการไทรอัลส์อย่างวิค บริเทน (Vic Brittain) จอห์นนีร่วมทีมรอยัล เอนฟิลด์ตอนอายุ 18 ปีและคว้าเหรียญทองแรกจากการแข่งขัน ISDT ในปี 1950 ด้วยรถไทรอัลส์ บุลเล็ต350 ซีซีอันโด่งดัง ประทับหมายเลข HNP 331 โดยจอห์นนีคว้าชัยชนะ Scottish Six Days Trial ซึ่งเป็นการแข่งขันระยะทาง 900 ไมล์ภายในระยะเวลา 6 วันเต็ม อย่างยิ่งใหญ่ถึงสองครั้ง(ปี 1952 และ 1957) ชนะการแข่งขัน Scott Trial สุดท้าทายอีกสองครั้ง (ปี 1955 และ 1956) และ British Experts Trial ที่มีความหฤโหดอีกสองครั้ง ซึ่งเขาเป็นผู้ชนะเลิศที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา (ปี 1952 และ 1953) อีกทั้งยังคว้าแชมป์รายใหญ่อีกกว่า 50 รายการและคว้าอันดับหนึ่งในการแข่งขันโอเพ่นไทรอัลส์อีกมากมายในช่วงเวลากว่า 15 ปี
รถมอเตอร์ไซค์ บุลเล็ต ไทรอัลส์ ปี 2019 คือการอุทิศให้แก่รถบุลเล็ต ไทรอัลส์ ปี 1949 ซึ่งจอห์นนี บริทเทนควบทะยานในการแข่งขันไทรอัลส์หลายรายการ รถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ถ่ายทอดรูปลักษณ์และความรู้สึกของรถในช่วงต้นยุค 1950 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมติดตั้งฟีเจอร์ยุคใหม่อย่างระบบดิสก์เบรกคู่พร้อมเอบีเอส และระบบหัวฉีดอิเลคโทรนิค EFI บุลเล็ต ไทรอัลส์ 500 จะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ UCE ขนาด 498 ซีซีและบุลเล็ต ไทรอัลส์ 350 จะใช้เครื่องยนต์ UCE ขนาด
348 ซีซี
เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่รถไทรอัลส์ของรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ บุลเล็ต ไทรอัลส์มีอุปกรณ์ตกแต่งของแท้จาก
รอยัล เอนฟิลด์มากกว่า 30 รายการให้เลือกสรร ทั้งนี้ รอยัล เอนฟิลด์ ได้ออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์ตกแต่งรถมอเตอร์ไซค์สุดพิเศษสำหรับบุลเล็ต ไทรอัลส์โดยเฉพาะจำนวน 5 รายการ ได้แก่ การ์ดป้องกันเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ตะแกรงครอบไฟหน้า บอร์ดประทับหมายเลขแข่งการ์ดกันแคร้งใต้เครื่องอลูมิเนียม และปลอกสวมครอสบาร์