|
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว2ยนตรกรรมสปอร์ตพันธุ์แรงโฉมใหม่Mercedes-AMGGT C Roadster และMercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ 4-Door Coupé
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด รุกสร้างสีสันตลาดรถยนต์สมรรถนะสูงอย่างต่อเนื่องเปิดตัวรถยนต์สายพันธุ์แรงโฉมใหม่พร้อมกันสองรุ่นอย่าง Mercedes-AMG GT C Roadster ยนตรกรรมสปอร์ตโรดสเตอร์ที่มีสมรรถนะดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี นำเสนอในราคา 17,190,000 บาท และMercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ 4-Door Coupé ที่เป็นส่วนผสมที่ลงตัวของความสะดวกสบาย ความเร้าใจ และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมเพื่อการขับขี่ในทุกสถานการณ์ นำเสนอในราคา 14,990,000 บาทผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมพร้อมสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์Mercedes-AMG อย่างเป็นทางการทั้ง 14 แห่งทั่วประเทศ
มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า“ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาตลาดรถยนต์สมรรถนะสูงในประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในเซ็กเมนต์ ของตลาดรถยนต์หรูที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการสร้างสรรค์กิจกรรมทางการตลาดของแบรนด์ต่างๆเป็นการชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของตลาดเซ็กเมนต์นี้ได้อย่างชัดเจน สำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) บริษัทฯ ได้ดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ “Customer Centric” (คัสตอมเมอร์เซ็นทริค)ที่เน้นให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อเพิ่มความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวไทยแต่ละกลุ่มได้อย่างครอบคลุม นับตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของปีจนถึงปัจจุบันบริษัทฯ ได้ทำการเปิดตัวรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีรวมแล้วกว่าสิบรุ่น ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย โดยเห็นได้จากยอดขายของแบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีในประเทศไทยช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 ที่โตขึ้นกว่า 200% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา”
มร. บีเยิร์น กุซเทรารองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า“ด้วยเล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของตลาดดังกล่าว พร้อมความมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม เมอร์เซเดส-เบนซ์ประเทศไทยในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์หรูจึงได้เดินเกมรุกสร้างสีสันให้กับตลาดเซ็กเมนต์ดังกล่าวโดยในครั้งนี้บริษัทฯ ได้นำเสนอMercedes-AMG GT C Roadsterโฉมใหม่ รถยนต์สปอร์ตโรดสเตอร์ที่มีสมรรถนะดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จากการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากรถยนต์ Mercedes-AMG GT R กับระบบช่วงล่างAMG RIDE CONTROL Sports Suspension และโฉมใหม่ของรถสปอร์ต4 ประตูรุ่นแรกที่เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีพัฒนาเองภายใต้แนวคิด“ชีวิตคือการแข่งขัน – Life is a race”ทุกกระบวนการอย่าง Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+4-Door Coupé ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของความสะดวกสบาย ความเร้าใจ และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมเพื่อการขับขี่ในทุกสถานการณ์รวมถึงตัวเลือกเพื่อการปรับแต่งได้ตามรสนิยม และนวัตกรรมยานยนต์รุ่นล่าสุดเพื่อความสปอร์ตในทุกจังหวะ”
“และจากการเปิดตัว Mercedes-AMG GT C Roadster โฉมใหม่ และMercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ 4-Door Coupéโฉมใหม่ในครั้งนี้ส่งผลให้ปัจจุบันเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทยนำเสนอรถยนต์ภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMGแก่ลูกค้าชาวไทยรวมจำนวนทั้งหมด 19 รุ่นย่อยครอบคลุมรถยนต์ทุกเซ็กเมนต์ตั้งแต่รถยนต์คอมแพค รถยนต์สปอร์ต รถยนต์ซาลูนรถยนต์เอสยูวี รถยนต์สไตล์คูเป้ และรถยนต์สไตล์โรดสเตอร์ได้แก่Mercedes-AMG A 45 4MATIC,Mercedes-AMG CLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG C 43 4MATIC,Mercedes-AMGC 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG C 63 S Coupé, Mercedes-AMG SLC 43, Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG GLE 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMGE 53 4MATIC+,Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ Coupé,Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+, Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+, Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupé, Mercedes-AMG G 63, Mercedes-AMG GT S,Mercedes-AMG GT R รวมถึงรุ่นล่าสุดอย่างMercedes-AMG GT C Roadster โฉมใหม่ และ Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+4-Door Coupé โฉมใหม่ที่มาเสริมพอร์ทโฟลิโอในกลุ่มรถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูงระดับพรีเมี่ยมในประเทศไทยให้ครบครันมากยิ่งขึ้น”มร.บีเยิร์น กล่าวเสริม
Mercedes-AMG GT CRoadsterโฉมใหม่
ดีไซน์ภายนอกมีการเสริมสปอยเลอร์หลังที่ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการขับขี่ในสนามแข่งรถยนต์ที่มีช่องทางวิ่งกว้าง, ล้อหลังถูกปรับให้ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับนวัตกรรมต่างๆ ที่เพลาหลัง และเพิ่มประสิทธิภาพขณะเข้าโค้งและเสริมการยึดเกาะ, กระจังหน้าแบบ AMG-specific radiator trim เอเอ็มจี มีวัสดุบังคับลมชุบโครเมี่ยม 15ซี่เช่นเดียวกับรถแข่งรุ่น Mercedes-AMG GT 3,ฝากระโปรงหน้ายาวและทรงพลัง ทำให้รถดูกว้างขวาง อีกทั้งยังมีช่องรับอากาศที่กว้าง ช่วยให้อากาศไหลผ่านเข้าสู่ระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งช่องรับอากาศนี้สามารถเปิดหรือปิดตัวเองได้อัตโนมัติ ตามความเร็วของรถยนต์ที่ผู้ขับขี่กำหนดเอง นอกจากนั้นยังมีหลังคาผ้าใบ 3ชั้นที่มีผิวสัมผัสนุ่ม มีโครงสร้างเป็นโลหะผสมแมกนีเซียมและอะลูมิเนียมที่มีน้ำหนักเบา โดยสามารถกางเปิดหรือเลื่อนปิดได้อัตโนมัติภายในเวลา 11วินาที และใช้งานได้แม้ขณะรถวิ่งที่ความเร็วสูงสุดที่50กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ดีไซน์ภายในมาพร้อมกับเบาะหนัง Nappa ที่อยู่ต่ำเพื่อช่วยโอบล้อมผู้ขับขี่ให้รู้สึกราวกับอยู่ในรถแข่ง,พวงมาลัยเอเอ็มจีเพอร์ฟอร์มานซ์หุ้มหนัง Nappa และ เส้นใย DINAMICAMicrofibreพร้อมหน้าจอแสดงผลบนพวงมาลัยจำนวน 2 หน้าจอแบบ AMG steering wheel buttons ลงตัวด้วยหน้าจอเรือนไมล์แบบ all-digital instrument display ขนาด 12.3 นิ้วหรือสามารถสร้างความโดดเด่นให้มากยิ่งขึ้นด้วยชุดเบาะเสริมแบบเอเอ็มจีเพอร์ฟอร์มานซ์ที่สามารถปกป้องร่างกายของผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้มากขึ้นด้วยพนักพิงหลังที่มีความโค้งและเสริมด้วยวัสดุเพื่อความนุ่มสบายที่ด้านข้างมากกว่าเบาะที่นั่งแบบมาตรฐาน,แผงหน้าปัดกว้างดีไซน์ใหม่ด้วยอัตราส่วนแบบ 16:9 ขนาด 10.15 นิ้ว ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแบบ COMAND Onlineแผงควบคุมตรงกลางมีหน้าจอแสดงผลมากถึง8 จอบริเวณคอนโซลกลางแบบ AMG DRIVE UNIT ที่ออกแบบตามลักษณะเครื่องยนต์แบบ V8 ทำให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกราวกับถูกโอบล้อมด้วยปีกนกและห้องโดยสารที่สามารถเปลี่ยนสีได้หลากหลายเพื่อเพิ่มสุนทรียะในการขับขี่
นวัตกรรมและเทคโนโลยี ฝากระโปรงหน้าผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์และวัสดุ SMC (Sheet Moulding Compound)ที่ถูกพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษโดยทีมงานของ Mercedes-Benz TEC(เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทีอีซี)และผู้เชี่ยวชาญของเอเอ็มจีทำให้ฝากระโปรงรถมีน้ำหนักเบา แต่ยังคงไว้ซึ่งความทนทานและแข็งแรง,ระบบช่วงล่างเอเอ็มจีไรด์คอนโทรลแบบสปอร์ต(AMG RIDE CONTROL Sports Suspension)ของทั้ง 4ล้อมีทั้งปีกนก แกนบังคับเลี้ยว และโครงฐานคุมล้อ (hub carrier)ที่หล่อจากอะลูมิเนียมเพื่อลดน้ำหนักที่ไม่จำเป็น โดยล้อทั้ง 4จะถูกควบคุมโดยกลไกปีกนกแบบ 2ชั้น เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการหมุนของล้อและการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง
Mercedes-AMGGT CRoadster โฉมใหม่ มาพร้อมกับระบบAMG DYNAMIC SELECTที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดของเกียร์หลักได้5 แบบคือ“C” (Comfort)สำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลายและสะดวกสบาย, “S” (Sport) และ“S+” (Sport Plus)เน้นความเร้าใจในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น และ “I” (Individual) ที่สามารถช่วยจดจำรูปแบบการขับขี่ของผู้ขับได้ อีกทั้งยังมีโหมด“RACE” ที่เป็นโหมดเสริมสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความแรงและเกียร์ที่เปลี่ยนได้รวดเร็วเหมือนอยู่ในสนามแข่งรถ ซึ่งจะมาพร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ที่เร้าอารมณ์ ทั้งนี้ผู้ขับขี่สามารถสร้างข้อกำหนดทั้งหมดในแต่ละโหมดการขับขี่เองได้ด้วยการกดปุ่ม “M” (Manual)ที่อยู่ตรงกลางแผงควบคุม, ระบบเพลาหลังแบบแอคทีฟ (active rear axle steering)ที่จะหมุนเพลาล้อคู่หลังไปในทิศทางตรงกันข้ามกับเพลาล้อคู่หน้าเมื่อใช้ความเร็วสูงสุด 100กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อช่วยให้เข้าโค้งได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น และประหยัดแรงในการหมุนพวงมาลัย แต่หากความเร็วสูงสุดเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไปทั้งล้อคู่หน้าและหลังจะหมุนไปในทิศทางเดียวกันเพื่อเสริมสมดุลให้กับตัวรถ ทำให้ท้ายรถไม่ปัดเมื่อหักเลี้ยว
Mercedes-AMGGT CRoadster โฉมใหม่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8เทอร์โบคู่ ความจุกระบอกสูบ 4ลิตรระบบไดเรค อินเจคชั่น และระบบเกียร์แบบคลัทช์คู่ 7สปีด(seven-speed dual clutch transmission) ที่ช่วยทำให้รถมีความคล่องตัวยิ่งขึ้น และการตอบสนองของระบบเกียร์จะดีขึ้นตามจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ของผู้ขับขี่
รุ่น
|
เครื่องยนต์
|
ปริมาตร
กระบอกสูบ
(ซีซี)
|
แรงม้าสูงสุด
(แรงม้า/รอบต่อนาที)
|
แรงบิดสูงสุด
(นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที)
|
อัตราเร่ง
0-100
กม./ชม.
|
ความเร็วสูงสุด(กม. /ชม.)
|
Mercedes-AMG GT C Roadster
|
เบนซิน
V8
Biturbo
|
3,982
|
557 /
5,750 – 6,750
|
680 / 2,100-5,500
|
3.7
|
316
|
- Mercedes-AMG GT C Roadster ราคาเริ่มต้นที่ 17,190,000 บาท
Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ 4-Door Coupéโฉมใหม่
ดีไซน์ภายนอก ของ Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ 4-Door Coupé เป็นรถสปอร์ต 4 ประตูที่มีรากฐานมาจากทั้งรถยนต์ตระกูลSLS และ AMG GT,กระจังหน้าแบบAMG-Specific radiator grille พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์,aerofoilที่สามารถยืดและหดได้ด้วยระบบไฟฟ้า, หลังคาซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า อีกทั้งยังมีดิสก์เบรก AMG high-performance ท่อไอเสียคู่แบบ Two round twin tailpipe เฉพาะของ AMG และล้ออัลลอย AMG น้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้ว 5 ก้านคู่ และระบบไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ที่มีหลอดไฟ LED 84 หลอดต่อข้างเทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยให้ทัศนวิสัยการขับขี่ยามค่ำคืนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด
ดีไซน์ภายในเหมาะสมกับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ หน้าจอแบบ Widescreen cockpitขนาด 12.3 นิ้ว จำนวน 2 หน้าจอ ที่มาพร้อมกับระบบ COMAND Onlineที่มีฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ Apple CarPlay™ และ Android Auto, พวงมาลัยแบบ AMGPerformance สปอร์ตท้ายตัดหุ้มหนัง nappaและ Touchpad แบบใหม่ที่สะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม และระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® surround sound system โดย Mercedes-AMG GT 63S 4MATIC+ 4-Door Coupé มาพร้อมเบาะที่นั่งด้านหน้าแบบ AMG Performance seats ที่สามารถปรับให้กระชับกับสรีระ เพิ่มความสบายแต่แฝงด้วยความสปอร์ตอย่างลงตัว เบาะด้านหลังตกแต่งด้วยหนังสุดหรูระดับไฮ-คลาส พร้อมที่นั่งเดี่ยว ที่ให้ความรู้สึกสบายและผ่อนคลาย เสมือนนั่งอยู่บนเครื่องบินชั้นธุรกิจ
นวัตกรรมและเทคโนโลยี ของ Mercedes-AMG GT 63S 4MATIC+ 4-Door Coupéใช้เครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 BITURBO ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 639 แรงม้ายังมาพร้อมกับระบบควบคุมการเลี้ยวด้วยล้อหลัง (AMG Rear Axle Steering) AMG DYNAMIC PLUS package ที่ช่วยเสริมพลศาสตร์ยานยนต์และลักษณะรถยนต์แบบสปอร์ต นอกจากยางรองแท่นเครื่องยนต์และที่ยึดเกียร์แบบไดนามิกแล้ว แพ็กเกจดังกล่าวยังมีระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ตที่ปรับให้แน่นขึ้น สามารถปรับได้3 ระดับตามสไตล์การขับขี่และสภาพถนน, ระบบ AMG DYNAMIC SELECT ที่สามารถปรับได้ 3 โหมด คือ Sport, Sport+ และ Individual, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist Plus), ระบบ Active Braking Assist ที่ช่วยหลีกเลี่ยงการชนกับรถยนต์คันอื่น หรือคนเดินถนนในบริเวณทางแยก, ระบบกุญแจรถยนต์แบบ KEYLESS-GO และระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist) ที่มาพร้อมกับกล้อง 360 องศา
Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ 4-Door Coupéโฉมใหม่ ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติAMG SPEEDSHIFT TCT 9-speedที่มีชุดคำสั่งเฉพาะที่ช่วยให้ระยะทดกำลังเมื่อเปลี่ยนเกียร์สั้นที่สุดซึ่งทำให้ความเร็วของรถเพิ่มขึ้นได้เร็วกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อขับขี่ในโหมด Sport+ และโหมดกำหนดเอง
รุ่น
|
เครื่องยนต์
|
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี)
|
แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/
รอบต่อนาที)
|
แรงบิดสูงสุด
(นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที)
|
อัตราเร่ง
0-100 กม./ชม. (วินาที)
|
ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กม./ชม.)
|
Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+
4-Door Coupé
|
เบนซิน
V8
Biturbo
|
3,982
|
639 / 5,500-6,500
|
900 / 2,500-4,500
|
3.2
|
315
|
- Mercedes-AMGGT 63 S 4MATIC+4-Door Coupéราคา14,990,000บาท
ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : www.rodweekly.com
ผู้บันทึก :
www.rodweekly
date : [ 15 ต.ค. 2562 ]
|
|
error=select * from newtopic order by q_id desc |