จำนวนผู้เข้าชม : 191 ครั้ง
End Page
 
 
ฮอนด้าเปิดตัว “ฮอนด้าซิตี้ ใหม่” เจเนอเรชันที่ 5ครั้งแรกในโลก

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัดเปิดตัวฮอนด้าซิตี้ใหม่ เจเนอเรชันที่ 5 ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย อีกขั้นแห่งยนตรกรรมซิตี้คาร์ที่พร้อมขับเคลื่อนพาคุณให้ไปไกลเกินกว่าทุกความคาดหมายและเปิดทุกความเป็นไปได้ด้วยอีกขั้นแห่งความสปอร์ตหรูหราของดีไซน์ภายนอก ภายในห้องโดยสารกว้างขวางและหรูหราเกินคลาสพร้อมท้าทายทุกการขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเทอร์โบเครื่องยนต์1.0ลิตรVTEC TURBO 122 แรงม้า ที่ทรงพลังและให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม ครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยพิเศษครั้งแรกกับรุ่น RS
ที่พร้อมตอกย้ำความสปอร์ตเร้าใจ ด้วยชุดแต่งสไตล์ RS รอบคัน อีกทั้งนวัตกรรมเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่าง
ผู้ขับขี่และรถยนต์ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เจเนอเรชันล่าสุดมาพร้อมสีใหม่ สีแดงอิกไนต์(Ignite Red)ร่วมสัมผัสฮอนด้าซิตี้ ใหม่ ได้ที่งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 (The 36th Thailand International Motor Expo 2019)ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน –10 ธันวาคม 2562 และพบกันที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศตั้งแต่วันที่24ธันวาคม 2562 เป็นต้นไปสำหรับลูกค้าที่จอง ฮอนด้าซิตี้ ใหม่ ตั้งแต่วันที่25พฤศจิกายน2562 - 31ธันวาคม2562และรับรถภายในวันที่ 31 มกราคม2563พร้อมรับนาฬิกาFitbit Smart Tracker  รุ่น Charge3 สี Graphite/Black  มูลค่า 6,490 บาท




มร.มาซายูคิอิงาราชิหัวหน้าเจ้าหน้าที่ งานปฏิบัติการประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น และประธานกรรมการบริหารและซีอีโอบริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า
มอเตอร์ จำกัด
กล่าวว่า “ฮอนด้าซิตี้นับเป็นหนึ่งในยนตรกรรมที่สำคัญของฮอนด้าที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นยนตรกรรมสำหรับภูมิภาค (Regional Model)โดยเปิดตัวเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียเมื่อปี พ.ศ. 2539  และได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เจเนอเรชัน 1 ถึง เจเนอเรชัน 4 ด้วยยอดขายสะสม
ใน 60 ประเทศทั่วโลกกว่า 4 ล้านคัน ซึ่งภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียเป็นตลาดที่สำคัญของฮอนด้าซิตี้ เห็นได้จากยอดขายกว่า 100,000 คัน ในปี 2562 (มกราคม – กันยายน2562) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า70%จากยอดขายฮอนด้าซิตี้ทั่วโลก และประเทศไทย ถือเป็นตลาดหลักของฮอนด้าซิตี้ทั้งในแง่ของการเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงอีกทั้งเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของฮอนด้าในภูมิภาคอีกด้วยในวันนี้ลูกค้าชาวไทยจะได้สัมผัสกับ ฮอนด้าซิตี้ ใหม่ เป็นครั้งแรกในโลก โดยจะเป็นยนตรกรรมที่จะมาสร้างปรากฏการณ์ที่เหนือความคาดหมายของลูกค้าและสร้างมาตรฐานใหม่ให้ตลาดรถยนต์ไทยได้อีกครั้งหนึ่ง”




นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัดเผยว่า“ฮอนด้าซิตี้ เป็นยนตรกรรมที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในระดับรถซิตี้คาร์ด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสามารถครองตำแหน่งผู้นำในตลาดซับคอมแพคท์จากความสำเร็จของฮอนด้าซิตี้กว่า 2 ทศวรรษ การพัฒนาฮอนด้าซิตี้เจเนอเรชันใหม่จึงถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญ โดยจะเป็นรถซิตี้คาร์ที่พัฒนาให้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมและเหนือกว่ารถในระดับเดียวกันในทุกด้านแต่ยังเพิ่มความคุ้มค่า   ด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ซึ่งมาพร้อมราคาที่ปรับลดลงในทุกเกรด ด้วยคุณค่าใหม่นี้ ฮอนด้าซิตี้   เจเนอเรชันที่ 5 จะเข้ามาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอีกครั้ง”




 

ฮอนด้าซิตี้ ใหม่ มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตและสง่างามสะกดทุกสายตาด้วยเส้นสายที่เฉียบคม
โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LEDกระจังหน้าแบบโครเมียมเสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารเปลี่ยนทุกสุนทรียภาพให้กว้างขวางกว่าที่เคยด้วยการออกแบบพื้นที่ให้สอดคล้องกับสรีระเพื่อความสะดวกสบายในทุกที่นั่งทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารมาพร้อมความหรูหราและสวยงามยิ่งขึ้นในโทน
สีดำ หรือเบาะหนังและภายในสีทูโทน ไอเวอรี่/ดำ (เฉพาะรุ่น SV) คอนโซลหน้าแบบ Piano Black  มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียมตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม อาทิ มาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด8 นิ้ว แบบ Advanced Touchรองรับการเชื่อมต่อ  Apple CarPlayและระบบสั่งการด้วยเสียง SIRIพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติเป็นต้น




ครั้งแรกกับ ฮอนด้าซิตี้ ใหม่ รุ่น RSที่เปลี่ยนมุมมองรถซิตี้คาร์ให้สปอร์ตหรูหรามากกว่าที่เคย ด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตแบบ RS รอบคันโดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Gloss Black และสัญลักษณ์ RS มาพร้อมกันชนหน้าและกระจังหน้าสไตล์สปอร์ตไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกแบบLED กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยวในตัว สปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black พร้อมสัญลักษณ์ RS และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว ภายในห้องโดยสารสะท้อนความสปอร์ตยิ่งขึ้น
ด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมมาตรวัดเรืองแสง
สีแดง และดึงดูดทุกสายตาด้วยสีภายนอกใหม่ สีแดงอิกไนต์(Ignite Red) เฉพาะรุ่น RS

ท้าทายข้อจำกัดทุกการขับขี่ด้วยขุมพลังเทอร์โบใหม่เครื่องยนต์1.0ลิตรDOHC VTEC TURBO3 สูบ
12 วาล์ว มาพร้อม Turbo Charger ที่อัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็วให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 173นิวตัน-เมตรที่ 2,000 - 4,500 รอบต่อนาทีให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร (เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม)และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตรผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT)ให้อัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตรตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7สปีด สะดวกสบายด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติโดยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานไอเสียยูโร 5 (EURO 5)
ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่99กรัม/กิโลเมตร
และสามารถรองรับน้ำมัน E20 ได้อีกด้วย

เพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย
G-Force Control หรือ G-CON ปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทางด้วยถุงลม6 ตำแหน่งระบบเบรกป้องกันล้อล็อก(ABS)  พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist - VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist - HSA)และกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ(Multi-angle Rearview Camera)




ฮอนด้าซิตี้ ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นได้แก่

  • รุ่น RS     ราคา739,000บาท
  • รุ่น SV     ราคา665,000บาท
  • รุ่น V       ราคา609,000บาท
  • รุ่น S       ราคา579,500บาท

และมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีแดงอิกไนต์(เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น RSสีขาวแพลทินัม (มุก)เฉพาะรุ่น RS และรุ่น SV สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) และสีขาวทาฟเฟต้าเฉพาะรุ่น V และรุ่น Sโดยมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ สำหรับลูกค้าที่จอง ฮอนด้าซิตี้ ใหม่ ตั้งแต่วันที่25พฤศจิกายน2562 - 31ธันวาคม2562และรับรถภายในวันที่ 31 มกราคม2563 รับนาฬิกาFitbit Smart Tracker รุ่น Charge 3 สี Graphite/Black  มูลค่า 6,490 บาท




เสริมความสปอร์ตในสไตล์คุณไปอีกขั้นด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) รอบคันที่มาพร้อมกับ
แนวคิด“Stage Up Booster” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือกเช่นสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกราคา8,150บาทแป้นคันเร่งและเบรกดีไซน์สปอร์ตราคา1,300บาทคิ้วบันไดLED ราคา4,400บาทล้ออัลลอยขนาด
15 นิ้วลายสปอร์ตราคา3,600บาท(ราคาต่อ1วงไม่รวมยาง)ไฟตัดหมอกแบบLED ราคา5,500บาทและกล้องหน้ารถราคา3,850บาท

นอกจากนี้ยังมีให้เลือกในรูปแบบแพ็กเกจทั้งหมด3แพ็กเกจได้แก่

  • Modulo Aero Packageราคา15,500บาทประกอบด้วยสเกิร์ตหน้าแบบ2ชิ้นสเกิร์ตข้างและสเกิร์ตหลังแบบ2ชิ้น
  • Modulo Aero RS Packageราคา17,900บาทประกอบด้วยสเกิร์ตหน้าแบบ2ชิ้นสเกิร์ตข้างและสเกิร์ตหลังแบบ2ชิ้น
  • Modulo Aero Sport Packageราคา23,500บาทประกอบด้วยสเกิร์ตหน้าแบบ2ชิ้นสเกิร์ตข้างสเกิร์ตหลังแบบ2ชิ้นและสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก




ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : www.rodweekly.com  
 ผู้บันทึก : www.rodweekly
date : [ 25 พ.ย. 2562 ]
 


 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

ข่าวสารยานยนต์

error=select * from newtopic order by q_id desc