นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่าปีนี้นับเป็นปีที่ต้องจารึกในประวัติศาสตร์ของมาสด้า ด้วยการก้าวสู่ยานยนต์เจนเนอเรชั่นใหม่ รวมไปถึงการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่มากถึง 6 รุ่น อีกทั้งยังได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างเหนือความคาดหมาย วันนี้มาสด้ากำลังก้าวไปอีกขึ้น เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ด้วยการเปิดตัวแนะนำรถยนต์นั่งซิตี้ คาร์ ที่มีสมรรถนะสูงสุดและประหยัดน้ำมันดีที่สุดในตลาด New Mazda2 กำลังจะนำคุณก้าวสู่อีกขั้นของความรู้สึก พร้อมเปิดทุกประสาทสัมผัสไปกับยนตรกรรมที่สะท้อนตัวตนอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะ ตอบโจทย์ไลฟสไตล์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร เพื่อมอบประสบการณ์ที่มากกว่าคำว่าธรรมดา ตามคอนเซ็ปต์ "ไม่หยุด…แค่ความธรรมดา" เพราะความธรรมดาใครๆ ก็เป็นได้ แต่สำหรับลูกค้า New Mazda2 คุณคือคนพิเศษ
Mazda2 ถือเป็นโมเดลที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสำหรับมาสด้า นับตั้งแต่โฉมแรกที่ทำตลาดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2552 มียอดขายสะสมมากกว่า 120,000 คัน ต่อเนื่องสู่เจนเนอเรชั่นที่ 2 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีสกายแอคทีฟที่เริ่มจำหน่ายเมื่อเดือนมกราคม 2558 ประสบความสำเร็จอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ ส่งผลให้มาสด้าก้าวขึ้นครองอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่รวมทั้งอีโค คาร์ และซิตี้ คาร์ ด้วยยอดขายสะสมสูงกว่า 160,000 คัน และในวันนี้มาสด้ากำลังจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กด้วยการเปิดตัวแนะนำ New Mazda2 ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีที่สุด และประหยัดน้ำมันสูงที่สุดในตลาด
ด้าน รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า งานมหกรรมยานยนต์ในปีนี้นอกจากการเปิดตัวแนะนำ New Mazda2 แล้ว มาสด้ายังยกทัพยานยนต์รุ่นใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมจากลูกค้ามาจัดแสดงครบทุกรุ่น โดยไฮไลท์สำคัญคือรถยนต์ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ล่าสุดหลายรุ่นทั้ง All-New Mazda3, New Mazda CX-5 โดยเฉพาะเครื่องยนต์ เทอร์โบ 2.5 รวมถึงรุ่นใหญ่ใหม่แกะกล่องอย่าง All-New Mazda CX-8 ที่ล้วนอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับดีไซน์การออกแบบที่เรียบง่ายแต่งดงามของแนวคิด "Less is More" ความประณีตในทุกรายละเอียดเพื่อมอบความพรีเมียม หรูหราที่สุดในคลาส มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น แต่ยังคงให้ความประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มความมั่นใจในทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย i-ACTIVSENSE ที่ตรวจจับและคาดการณ์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น และเทคโนโลยีเชื่อมต่อการสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัด Mazda Connect ที่รองรับ Apple CarPlay
สำหรับรถยนต์ที่มาสด้าเพิ่งเปิดตัวแนะนำไปเมื่อเร็วๆ นี้ ประกอบด้วย Mazda MX-5 รุ่น Limited Edition ฉลอง 30 ปี เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ต่อด้วยการเผยโฉมยานยนต์เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด All-New Mazda3 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาซึ่งได้รับความสนใจจากแฟนๆ ที่เฝ้ารอการมาของรถรุ่นนี้แห่เข้าร่วมงานเปิดตัวนับพันคน ตามมาด้วยการปรับโฉมของ New Mazda CX-5 ที่เพิ่มขุมพลังด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน เทอร์โบ 2.5 ลิตร เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และกลายเป็น SUV ที่มอบสมรรถนะความแรงสูงที่สุดในตลาด ล่าสุดเราได้สร้างเซ็กเม้นต์ใหม่ที่ไม่เคยมีในตลาดเมืองไทยมาก่อนด้วยการเปิดตัว 3-Roll Crossover SUV ภายใต้ชื่อรุ่น All-New Mazda CX-8 เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อให้ลูกค้าคนไทยใช้รถ SUV ที่มีพื้นฐานของรถยนต์นั่งอย่างแท้จริง ส่งผลให้แบรนด์มาสด้าได้รับการกล่าวถึงจากลูกค้าต่อเนื่อง และตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงปัจจุบันมียอดขายสูงกว่า 55,000 คัน
New Mazda2 เป็นรถยนต์ที่ได้รับออกแบบภายใต้แนวคิด KODO design เจนเนอเรชั่นใหม่ที่มุ่งเน้นความเรียบง่ายแต่งดงามด้วยคอนเซ็ปต์ "Less is More" ทั้งดีไซน์ภายนอก ไปจนถึงภายในห้องโดยสาร ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร เพื่อมอบประสบการณ์ที่มากกว่าคำว่าธรรมดาตอบรับคอนเซ็ปต์ "ไม่หยุด...แค่ความธรรมดา" สะท้อนตัวตน และความมีเอกลักษณ์ของผู้ขับขี่ได้ชัดเจน สัมผัสกับความพิถีพิถันในทุกรายละเอียดแม้เพียงครั้งแรกที่เห็น ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ภายนอกที่ได้รับการออกแบบใหม่ตั้งแต่กันชนหน้าและหลัง กระจังหน้า ไฟหน้าและไฟท้าย ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้ว ภายในห้องโดยสารที่ได้รับการยกระดับความหรูหรา พรีเมียม ด้วยการคัดสรรวัสดุคุณภาพสูง อาทิ แผงคอนโซนหน้า แผงประตูด้านข้าง และเบาะดีไซน์ใหม่ที่ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของ SKYACTIV-Vehicle Architecture ที่ช่วยให้การขับขี่ทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมีระบบควบคุมขับขี่อัจฉริยะขั้นสูงหรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ที่ช่วยปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ตามการหักเลี้ยวพวงมาลัยของผู้ขับขี่ ควบคู่ไปกับการเบรกที่เหมาะสม เพื่อให้รถขับเคลื่อนไปอย่างนุ่มนวล มีเสถียรภาพ ผู้ขับขี่แก้พวงมาลัยน้อยลง ควบคุมรถง่าย และแม่นยำยิ่งขึ้น สามารถเข้าโค้ง และออกจากโค้งได้อย่างนุ่มนวล ลดอาการเมื่อยล้าสะสมจากการขับรถทางไกลของผู้ขับขี่ และการโคลงตัวไปมาของผู้โดยสาร New Mazda2 จึงเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ให้การตอบสนองดี และขับขี่สนุกที่สุดในคลาส
ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบฟังก์ชั่นและตำแหน่งการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ตามคอนเซ็ปต์ HMI (Human-Machine Interface) ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตามจากถนน อาทิ Active Driving Display จอสกรีนใสแสดงข้อมูลการขับขี่ในระดับสายตาของผู้ขับขี่, Sports Paddle Shift ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย และ Cruise Control ระบบควบคุมควมเร็วคงที่ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ การติดต่อสื่อสารไร้ขีดจำกัดด้วยระบบ Mazda Connect ที่รองรับ Apple CarPlay โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ที่ควบคุมด้วย Center Commander ปุ่มควบคุมอัจฉริยะซึ่งถูกจัดวางในตำแหน่งที่สะดวกต่อการใช้งาน
New Mazda2 มีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ คือ สกายแอคทีฟคลีนดีเซล (SKYACTIV-D) 1.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 250 นิวตัน-เมตร มาพร้อมเทอร์โบแปรผันอินเตอร์คูลเลอร์ ให้การตอบสนองที่ดีเยี่ยม ประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม./ลิตร* และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน (SKYACTIV-G) 1.3 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 93 แรงม้า และแรงบิดสูงถึง 123 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กม./ลิตร* ซึ่งทั้ง 2 เครื่องยนต์ล้วนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและได้รับมาตรฐานไอเสียยูโรระดับ 5
* ผลการทดสอบตามมาตรฐานยุโรป UN R101 Combine Mode
เทคโนโลยีความปลอดภัย i-ACTIVSENSE ใน New Mazda2 ช่วยเพิ่มความอุ่นใจตลอดการเดินทาง ด้วยการส่งสัญญาณเตือนเมื่อพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุรอบคัน อาทิ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะขณะเปลี่ยนเลน (Advanced Blind Spot Monitoring), ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลังหรือ RCTA (Rear Cross Traffic Alert), ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง พร้อมระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า เป็นต้น
New Mazda2 มีรูปแบบตัวถังให้เลือกทั้งซีดาน 4 ประตู และแบบแฮตช์แบค 5 ประตู และมีให้เลือกทั้งหมด 8 สี ประกอบด้วย สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal), สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray), สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl), สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช (Titanium Flash), สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black) และ 3 สีใหม่ ประกอบด้วย สีขาว เซรามิก เมทัลลิค (Ceramic Metallic), สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver) และสีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray) ที่มีเฉพาะรุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู
ราคาจำหน่าย New Mazda2 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮตช์แบค 5 ประตู
- New Mazda2 รุ่น 1.3 E ราคาจำหน่าย 546,000 บาท
- New Mazda2 รุ่น 1.3 C ราคาจำหน่าย 602,000 บาท
- New Mazda2 รุ่น 1.3 S ราคาจำหน่าย 627,000 บาท
- New Mazda2 รุ่น 1.3 S LEATHER ราคาจำหน่าย 648,000 บาท
- New Mazda2 รุ่น 1.3 SP ราคาจำหน่าย 690,000 บาท
ราคาจำหน่าย New Mazda2 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1.5 ลิตร ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮตช์แบค 5 ประตู
- New Mazda2 รุ่น XD ราคาจำหน่าย 782,000 บาท
- New Mazda2 รุ่น XDL ราคาจำหน่าย 799,000 บาท
ภายในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2019 มาสด้ามอบแคมเปญพิเศษส่งท้ายปี Mazda Festive Moment กับอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 0% นานสูงสุด 6 ปี ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance นาน 1 ปี ทุกรุ่น และโปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพ Mazda Added Protection สูงสุด 5 ปี
- New Mazda2 ดอกเบี้ย 1.99% และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance นาน 1 ปี
- All-New Mazda3 ดอกเบี้ย 1.99% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance นาน 1 ปี, ฟรีค่าแรงเช็คระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และโปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพ Mazda Added Protection นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
- Mazda CX-3 ดอกเบี้ยต่ำสุด 0% นานสูงสุด 6 ปี และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance นาน 1 ปี
- New Mazda CX-5 ดอกเบี้ย 1.99% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance นาน 1 ปี, ฟรีค่าแรงเช็คระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และโปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพ Mazda Added Protection นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
- All-New Mazda CX-8 ดอกเบี้ย 1.99% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance นาน 1 ปี, ฟรีค่าแรงเช็คระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และโปรแกรมขยายกการรับประกันคุณภาพ Mazda Added Protection นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
- Mazda BT-50 Pro ดาวน์เริ่มต้น 25,000 บาท และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance นาน 1 ปี
- Mazda MX-5 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance นาน 1 ปี และโปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพ Mazda Added Protection นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร