สำหรับ บริษัท ไลฟส์ มูฟวิ่ง จำกัด ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2016 โดยเริ่มแรกบริษัทเริ่มจากการจำหน่ายจักรยานเด็กและจักรยานแม่บ้าน พร้อมเป็น Exclusive Distributor ให้กับจักรยาน ROYALBABY (Interbrand อันดับต้นของโลกในตลาดจักรยานเด็ก) โดยมีเป้าหมายหลัก เพื่อให้คนไทยได้ออกกำลังกายและใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้น ต่อมาบริษัทได้อาศัยความชำนาญในเรื่องจักรยาน ทุ่มเทเวลากว่า 2 ปี เพื่อพัฒนา “จักรยานไฟฟ้า EM” ออกจำหน่ายในปี 2018 ซึ่ง EM ได้กลายเป็นจักรยานไฟฟ้าที่ทันสมัย ตอบโจทย์การใช้งานของคนไทย มีการควบคุมคุณภาพ และรับประกันสินค้าที่ยาวที่สุดในตลาด ช่วยให้ยอดขายจักรยานไฟฟ้าของบริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว ในระยะ 6 เดือนแรก มียอดขายได้กว่า 500 คัน และในปี 2019 บริษัทสามารถทำยอดขายทะลุ 2,000 คัน ด้วยระยะเวลาไม่ถึง 2 ปีหลังจากเริ่มทำตลาด
นายธานัท ยังกล่าวต่อไปว่า จักรยานไฟฟ้า EM คือรูปแบบการริเริ่ม ให้ผู้คนหันมาเปลี่ยนแปลงคุณภาพอากาศในสังคมของพวกเขามากขึ้น เพราะการเดินทางเป็นเรื่องในชีวิตประจำวันที่ผู้คนทุกวัยต้องทำ โดยการทดสอบของบริษัท พบว่าการเดินทางโดยจักรยานไฟฟ้า EM จะใช้จ่ายเงินค่าพลังงานประมาณ 4 สตางค์ต่อกิโลเมตร ซึ่งประหยัดพลังงานกว่ารถจักรยานยนต์ ถึง 10 เท่า อีกทั้งตัวจักรยานไฟฟ้ายังมีชิ้นส่วน สิ้นเปลืองที่น้อยกว่า ทำให้ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาจักรยานไฟฟ้า EM มีน้อยกว่ารถจักรยานยนต์ ถึง 50% ซึ่งในปี 2019 ที่บริษัทขายจักรยานไฟฟ้าได้ 2,000 คัน ได้มีส่วนช่วยลดการสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 2 ล้านกิโลกรัม หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ถึง 10,000 ต้น เลยทีเดียว
ปัจจุบัน “จักรยานไฟฟ้า EM” คือโซลูชั่นของจักรยานไฟฟ้าที่มีครบทุกเซกเมนต์ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น จักรยานไฟฟ้าเพื่อครอบครัว เน้นการขับขี่ที่ประหยัดและทันสมัย, จักรยานไฟฟ้าเพื่อผู้สูงอายุ เน้นความปลอดภัยและการออกกำลังกาย, จักรยานไฟฟ้าเพื่อการขนส่ง เพื่อลดต้นทุนในการขนส่งสินค้า และจักรยานไฟฟ้าเพื่อกลุ่มคนรุ่นใหม่ เน้นความคล่องตัวและมีน้ำหนักเบา สามารถใช้ควบคู่กับรถไฟฟ้าได้สะดวก นอกจากนี้ บริษัทยังได้เสริมจุดแข็งของจักรยานไฟฟ้า EM ด้วยการรับประกันที่ครอบคลุมและยาวนานที่สุดในตลาด คือ รับประกัน 1 ปี สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า คอนโทรลเลอร์ และแบตเตอรี่, 3 ปี สำหรับมอเตอร์ไฟฟ้า, และ 5 ปี สำหรับโครงสร้างตัวถัง
ทั้งนี้ บริษัทยังออกแบบวางกลยุทธ์สร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้ ด้วยบริการครบวงจรจากทีมช่าง ONSITE SERVICE ที่มีความชำนาญพร้อมให้บริการซ่อมแซม-ดูแลรักษา ได้อย่างรวดเร็ว ตลอด 24 ชั่วโมง ในศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ กว่า 70 สาขา จัดส่งรวดเร็วให้ลูกค้าได้ทั่วไทย พร้อมให้บริการหลังการขายได้ครบครัน ทั้งยังซัพพอร์ตการบริการด้วยอะไหล่คุณภาพ จากโรงงานประกอบจักรยานไฟฟ้าของบริษัท ที่นิคมอุตสาหกรรมบางชัน สร้างการรับรู้ว่าบริษัทสามารถควบคุมมาตรฐานของสินค้าได้ดี ผลิตสินค้าได้ทันทุกความต้องการ และมีช่องทางการขายที่เข้าถึงได้ง่าย ดูแลทุกปัญหาไม่ทิ้งลูกค้ากลางคันแน่นอน
“ปี 2020 เป็นปีที่ตัวเลขในเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนอยู่มาก แต่ถึงอย่างไร บริษัทยังมั่นใจว่าปัจจัยความต้องเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมของคนไทย รวมถึงช่องว่างของจักรยานไฟฟ้า EM ที่พัฒนาขึ้นนำห่างจากคู่แข่ง ทั้งในแง่ของคุณภาพสินค้า การบริการ ตลอดจนช่องทางการจำหน่าย จะทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจและบอกต่อคุณภาพเหล่านี้ และผลักดันให้ตัวเลขการเติบโตของบริษัทสามารถโตกว่า 200% ได้
และนอกจากการเติบโตจากสินค้าในเชิง END-USER ที่มีค่อนข้างครบแล้ว บริษัทจะทำการเสริมศักยภาพด้วยการพัฒนาสินค้าไปในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านจักรยานไฟฟ้าเพื่อขนส่งแบบ HEAVY DUTY เพื่อลดต้นทุนขนส่งให้บริษัทหรือแผนพัฒนาจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์คนไทยเป็นเจ้าแรก พร้อมกับ Solution Battery Swapping รวมถึงแผนต้นแบบสร้างพลังงานสะอาดที่พัฒนาร่วมกับชุมชน เพื่อควบรวมจักรยานไฟฟ้าเข้ากับพลังงานแสงอาทิตย์ ทำให้สามารถชาร์จไฟจากแสงแดดในเวลาตากแดดได้ อีกทั้งบริษัทยังมุ่งการทำตลาดในต่างประเทศ โดยอาศัยช่องว่างจากเหตุกีดกันการค้าระหว่างจีนและอเมริกา-จีนและยุโรป เพื่อขยายจักรยานไฟฟ้า EM ส่งออกไปยังตลาดเหล่านั้น” นายธานัท กล่าวทิ้งท้าย