“เราเล็งเห็นว่า พื้นที่บริเวณใกล้เคียงนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร เป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก มีพนักงานมากกว่า 8 หมื่นคน นับเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ และเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเรา ด้วยเหตุนี้ เราจึงตัดสินใจที่จะเปิดโชว์รูมรถยนต์ MG ในบริเวณดังกล่าว และคาดว่า จะเป็นอีกหนึ่งสาขา ที่จะสร้างความแข็งแกร่งด้านยอดขายให้เราอย่างแน่นอน”
นอกจากนี้ “เบส ออโต้เซลส์” ได้ขยายการบริการหลังการขายให้ครอบคลุมและครบวงจรมากยิ่งขึ้น โดยลงทุนสร้างศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง เพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง ที่สาขาเพชรเกษม 65 แล้วเสร็จและพร้อมดำเนินการอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา กับสาขาบางนา - ตราด กม.5 จะเริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการ ในช่วง ต้นปี 2021
ปัจจุบัน “เบส ออโต้เซลส์” มีโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์ MG ทั้งหมด 10 แห่ง ได้แก่ พื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ เพชรเกษม65, บางนา-ตราด กม.5, รามคำแหง 62, พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ มหิดล, แม่โจ้, หางดง และพื้นที่จังหวัดชลบุรี จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ ศรีราชา, บายพาส ชลบุรี, พัทยา ล่าสุด สาขาอมตะ (ชลบุรี)
พร้อมกันนี้ “เบส ออโต้เซลส์” ยังได้สนับสนุนนโยบายของบริษัทแม่ เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้าน Car Sharingเพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ต้องการอิสระในการใช้บริการรถยนต์ และเพิ่มปริมาณการใช้รถพลังงานไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ“บริษัท ฮ้อปคาร์ จำกัด” ผู้ให้บริการเช่าและแชร์รถรูปแบบใหม่ที่ทันสมัย ผ่านแอพพลิเคชั่น รายแรกในประเทศไทย ภายใต้ชื่อโครงการ “EV Car Sharing”โดยส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า New MG ZS EV จำนวน 40 คัน เพื่อให้ผู้สนใจสามารถเลือกใช้บริการรถยนต์ไฟฟ้า ระบบ Car Sharingบนมือถือได้ตลอด 24 ชม. เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Haup จาก App Store หรือ Google Playจากนั้นทำการจองระยะเวลาในการใช้งาน ชำระเงินผ่านบัตรเครดิต และรับรหัสสำหรับสตาร์ทรถ เพียงเท่านี้ ก็สามารถนำรถยนต์ไปใช้งานได้อย่างอิสระ
“EV Car Sharing” จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ภายในโชว์รูมและศูนย์บริการของ “เบส ออโต้เซลส์” ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล, เชียงใหม่ และชลบุรี พร้อมให้บริการในพื้นที่ใกล้ศูนย์การค้า, มหาวิทยาลัย และคอนโดมิเนียมในช่วงแรก จะเปิดให้บริการบริเวณย่านจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สามย่าน และสยาม พารากอน กับในโชว์รูมและศูนย์บริการ MG สาขาเพชรเกษม 65,แม่โจ้ จ.เชียงใหม่ และพัทยาจ.ชลบุรี จะเริ่มเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม เป็นต้นไป
นายคณิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของท่านประธานบริษัทฯ “ณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ” ในการวางกลยุทธ์หลักในการบริหาร 3 แนวทาง ได้แก่ 1.การคำนึงถึงความพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ ทั้งในด้านการขายและบริการหลังการขาย 2.การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เน้นกลยุทธ์การขายที่แตกต่างและหลากหลาย
-3-
เพื่อให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ 3.การเลือกทีมงานมืออาชีพ ที่มีประสบการณ์ในการดูแลลูกค้าทั้งด้านการขายและบริการหลังการขาย ทำให้ “เบส ออโต้เซลส์” ประสบความสำเร็จอย่างสูง และก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับแนวหน้าของผู้จำหน่ายรถยนต์ MG ด้วยยอดขายรถไฟฟ้าสูงสุดในประทศไทย นับตั้งแต่ปี 2019 ถึง มิถุนายน 2020 โดยสามารถทำยอดขายได้ถึง 232 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 15.51% ของยอดขายรถไฟฟ้าโดยรวม จำนวน 1,495 คัน และในอีก 2 เดือนข้างหน้า คาดว่า “เบส ออโต้เซลล์” จะสามารถทำยอดขายรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก 50 คัน หรือประมาณ 50% ของอัตราการเติบโตของตลาดรถไฟฟ้าโดยรวม ที่คาดว่าจะมีตัวเลขยอดขายเพิ่มขึ้นอีก 100 คัน ทำให้ตัวเลขรถไฟฟ้าในตลาดรวมของไทยเพิ่มขึ้นเป็น 1,595 คัน ขณะที่ยอดขายสะสมรวมสูงสุดของกลุ่มเบส ออโต้เซลส์มีจำนวน 11,721 คัน นับตั้งแต่ปี 2015 ถึงปัจจุบัน
ที่สำคัญ “เบส ออโต้เซลล์” ยังได้รับได้รับรางวัลผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจี ยอดเยี่ยมอันดับ 1 ของโลก ระดับ 5 ดาว 3 ปีซ้อน (Global Five Star Award ปี 2017-2019)อันแสดงให้เห็นถึงทิศทางและแนวนโยบายที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างดี แม้ในช่วง 6 เดือนแรก อุตสาหกรรมยานยนต์จะต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 และส่งผลกระทบต่อยอดขาย โดยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตลดลงกว่า 37.3%
แต่ “เบส ออโต้เซลส์”กลับได้รับผลกระทบจากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยในช่วง 6 เดือนแรก สามารถทำยอดขายได้ถึง 1,357 คัน หรือคิดสัดส่วนเป็น 41% ของเป้ายอดขายที่ตั้งไว้ และในปีนี้ คาดว่า จะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน คือ 3,257 คัน
ทั้งนี้ ด้วยแนวนโยบายของ “ทีโอเอ เวนเจอร์โฮลดิ้ง” ที่ให้ความสำคัญกับบุคลากรเป็นหลัก โดยมีการพัฒนาประสิทธิภาพของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ทั้งสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่พนักงานในช่วง สถานการณ์ดังกล่าว โดยพนักงานทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพื่อให้มีภูมิคุ้นกันโรค และไม่มีการปรับลดเงินเดือน ทั้งยังช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ด้วยการคืนเงินออม 50% ให้แก่พนักงาน และเมื่อสถานการณ์โควิด-19 เริ่ม
คลี่คลาย “เบส ออโต้เซลส์” จึงมีความพร้อมที่ดำเนินนโยบายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน