ฮอนด้าพร้อมมุ่งหน้าฝ่าทุกสถานการณ์ ไม่หยุดส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง เตรียมเปิดตัวรถ 5 รุ่นตลอดปี 2021 ตั้งเป้าเติบโต 3%
เอ.พี. ฮอนด้า ผู้นำวงการรถจักรยานยนต์ไทย วางกลยุทธ์พร้อมรับทุกสถานการณ์ในปี 2021 ด้วยรถรุ่นใหม่และบริการหลังการขายที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้ามากที่สุด มองตลาดเติบโตขึ้น 1% แตะระดับ 1.54 ล้านคัน พร้อมเปิดตัว All New PCX160 และ All New Wave110iรุกตลาดตั้งแต่ต้นปี
มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ท้าทายที่สุดในทศวรรษ คนไทยต้องพบกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 แบบไม่ได้ตั้งต้ว ส่งผลต่อทั้งการดำเนินชีวิต ความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจ การจ้างงาน ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยเองก็ได้รับผลกระทบค่อนข้างมากเช่นเดียวกัน แต่ด้วยความร่วมแรงร่วมใจจากเครือข่ายร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐที่ค่อนข้างต่อเนื่องได้ทำให้สถานการณ์ในช่วงปลายปีมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยฮอนด้าสามารถรักษาความเป็นผู้นำตลาดไว้ได้อย่างต่อเนื่องด้วยยอดจำหน่าย 1.18 ล้านคัน จากยอดรวมของประเทศ 1.52 ล้านคัน”
“สำหรับปี 2021 แม้ประเทศไทยยังต้องเผชิญกับการแพร่ระบาด COVID-19 แต่สถานการณ์โดยรวมยังถือว่าดีกว่าหลายประเทศ อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกจากการเตรียมนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับทุกภาคส่วน ในขณะที่ภาครัฐเองก็มีประสบการณ์ในการรับมือมากขึ้นทำให้มาตรการต่างๆ มีความชัดเจนขึ้น เราคาดการณ์ว่าตลาดรถจักรยานยนต์ไทยน่าจะเติบโตขึ้นเล็กน้อยไปอยู่ระดับ 1.54 ล้านคัน เติบโตขึ้น 1% ในขณะที่ฮอนด้าตั้งเป้าไว้ที่ 1.22 ล้านคันหรือเติบโตขึ้นประมาณ 3%”
“ในปีนี้ฮอนด้ามีความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มายกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของคนไทยให้ทันสมัย และ สะดวกสบายมากขึ้น โดยมีแผนเปิดตัวรถใหม่อย่างน้อย 5 รุ่น เริ่มจากโมเดลที่เป็นท็อปรันเนอร์ในด้านเทคโนโลยีอย่าง All New Honda PCX 160 รถพรีเมียมเอ.ที. รุ่นใหม่ล่าสุดของโลก ที่ถูกพัฒนาให้เป็นที่สุดในคลาสในทุกด้าน ไม่เพียงเฉพาะดีไซน์ใหม่หมดทั้งคันที่ผสานความสปอร์ตและความหรูหราได้อย่างสมบูรณ์แบบเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับสมรรถนะจากเครื่องยนต์ใหม่ eSP+ 4 วาล์ว ขนาด 157cc และเฟรมใหม่ ที่ให้ความคล่องตัวในการขับขี่ยิ่งกว่าเดิม ตามด้วยการเปิดตัว All New Wave110iรถยอดนิยมอันดับหนึ่งของไทย ซึ่งในครั้งนี้จะเป็นเจเนอเรชันใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ Honda Smart Engine ประหยัด แรง ทนทาน โดยมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงถึง 76.9 กม./ลิตร และด้วยเฟรมใหม่ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระและรองรับกับถังน้ำมันที่ใหญ่ขึ้น ทำให้รถรุ่นนี้เป็นรถที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกครอบครัว”
“นอกจากรถรุ่นใหม่ที่ยกระดับเทคโนโลยีใหม่ทั้งหมดแล้ว ฮอนด้ายังได้วางกลยุทธ์เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ควบคู่ไปกับการรักษาฐานลูกค้าเดิมผ่านเครือข่าย Honda Wing Center ด้วยการยกระดับบริการครบวงจรมาตรฐาน 6S โดยนำเทคโนโลยี Data Management เข้ามาใช้อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้สามารถหยั่งรู้ความต้องการของลูกค้าและพัฒนาการส่งมอบประสบการณ์ผ่าน Touchpoint ต่างๆได้อย่างเหนือความคาดหมาย โดยล่าสุดนี้เราได้พัฒนาแอพพลิเคชัน My Honda Moto เทคแคร์ดี สะดวก เช็คง่าย เพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการเช็คข้อมูลรถ แจ้งเตือนสถานะการซ่อมและบอกประวัติการเข้ารับบริการต่างๆ ประเมินราคาอะไหล่เบื้องต้น และจองคิว ให้ลูกค้าฮฮนด้าได้เข้าถึงทุกบริการจากศูนย์ Honda Wing Center, Honda BigWingรวมถึง CUB House by Honda ได้อย่างง่ายดายด้วยปลายนิ้วสัมผัส”
“นอกจากการส่งมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าแล้ว ในฐานะผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ไทย ฮอนด้ายังมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือสังคมโดยไม่ได้จำกัดอยู่ในธุรกิจของตนเองเท่านั้น นอกเหนือจากการสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถจักรยานยนต์แล้ว ปีที่ผ่านมาฮอนด้ายังได้ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือสังคมจากสถานการณ์ COVID-19 และในปีนี้ ฮอนด้ายังได้เพิ่มการช่วยเหลือในโครงการ Tree for Blue Skies เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่ป่าทั่วประเทศ และลดปัญหาภาวะโลกร้อน โดยร่วมมือกับเครือข่าย Honda Wing Center ที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ“
“ท่ามกลางอุปสรรคที่กำลังเกิดขึ้น ฮอนด้ายังมีความตั้งใจที่จะฝ่าฟันไปด้วยแนวคิด What Stops You? มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด โดยมีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบสิ่งดี ๆ ให้กับคนไทย ทั้งผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพระดับโลก รวมถึงการช่วยเหลือสังคมให้ก้าวผ่านวิกฤติการณ์ไปด้วยกันอย่างมั่นคง” ประธานกรรมกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด กล่าวปิดท้าย
ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : www.rodweekly.com
ผู้บันทึก :
www.rodweekly.com
date : [ 07 ม.ค. 2564 ]
|