ช่วง ถาม-ตอบ กับ การแข่งขันDiriyah E-Prix
Amiel Lindesay, หัวหน้าทีมปฏิบัติการ Formula Eการรอคอยเพื่อที่จะลงสนามนับเป็นการทดสอบความอดทนอย่างแท้จริง คุณและทีมงานรู้สึกตื่นเต้นกับการแข่งขันที่กำลังจะเกิดขึ้นที่Diriyah หรือไม่?
“เราแทบทนรอไม่ไหวที่จะได้เข้าร่วมการแข่งขันอีกครั้ง หลังจากเว้นว่างมาเป็นระยะเวลานานการเริ่มต้นฤดูกาลใหม่เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเรา จนถึงขณะนี้ เรามีการเตรียมตัวที่ดีเยี่ยม และพร้อมจะออกสตาร์ทด้วยความคาดหวังที่สูงยิ่งขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับฤดูกาลที่แล้วสาเหตุจากวิกฤติการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส ส่งผลต่อระยะเวลาการแข่งขันของฤดูกาลนี้ที่สั้นลงอย่างมาก เนื่องด้วยการยกเลิกการแข่งขันนั้นกระทบกับเราโดยตรง เมื่อพิจารณาว่าเราเป็นทีมแข่งหน้าใหม่ ซึ่งเสียเปรียบในแง่ของการสะสมประสบการณ์บนสนามตอนนี้เราทุกคนหวังว่าจะสามารถประสบความสำเร็จในฤดูกาล 2021นี้”
มีความยากลำบากอย่างไร ในการพยายามรักษาระดับความกระตือรือร้นของทีมงาน ตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมา และการเริ่มต้นด้วยชัยชนะมีความสำคัญต่อฤดูกาลแข่งขันอย่างไร?
“มันค่อนข้างท้าทายทีเดียว เราเป็นทีมแข่งรถยนต์ และเรากระหายที่จะได้ลงแข่ง การLock down ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง ถึงแม้ว่าการทดสอบแบบเสมือนจริงในหลากหลายแง่มุมเท่าที่เราสามารถทำได้ คือโอกาสในการพัฒนารถแข่ง Porsche 99X Electricเนื่องจากการยกเลิกสนามแรกของฤดูกาลในประเทศชิลี อย่างไรก็ตาม เราอยากได้ผลลัพธ์จากการพัฒนาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด การปรับตัวกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เรายังคงเปี่ยมไปด้วยสปิริต และความเป็นปึกแผ่น ดังนั้นเราทุกคนล้วนมุ่งมั่นเต็มที่ที่จะเริ่มต้นฤดูกาล 2021 แน่นอนว่าการออกสตาร์ทที่ดีเยี่ยมจะมีส่วนช่วยเราได้แต่ถึงกระนั้น สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือการตระเตรียมความพร้อมของรถแข่งให้สมบูรณ์แบบ 100% เราต่างทุ่มเททำงานตลอด 2 ถึง 3 เดือนที่ผ่านมา ถึงเวลาที่ทุกสิ่งทุกอย่างนอกเหนือจากนี้จะเป็นไปอย่างที่ควร”
อะไรคือสิ่งที่แตกต่างเมื่อเปรียบเทียบกับการออกสตาร์ทFormula Eของปีที่ผ่านมา และเป้าหมายของคุณในฤดูกาลที่ 2 คืออะไร?
“ฤดูกาลแรกของเรา ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าเราขาดศักยภาพในการยืนหยัดเพื่อยึดตำแหน่งผู้นำจนจบการแข่งขัน แต่นั่นเป็นเรื่องปกติในการแข่งขันปีแรก ตอนนี้ถึงเวลาที่เราต้องก้าวไปอีกขั้นประสบการณ์ที่เก็บเกี่ยวจากฤดูกาลเปิดตัว ช่วยให้เราสามารถโฟกัสไปที่สมรรถนะการขับขี่บนสนาม และทำให้รถแข่งของเราไปได้รวดเร็วยิ่งขึ้นหากเราทำสิ่งต่างๆเหล่านี้สำเร็จ เป้าหมายของเราจะไม่ใช่แค่ความฝันเราต้องการชัยชนะและเป็นแชมเปี้ยนโลก”
André Lotterer, นักแข่งสังกัดทีมโรงงานปอร์เช่(รถแข่งหมายเลข 36)การแข่งขัน Formula E ครั้งแรกของคุณกับปอร์เช่ เริ่มต้นด้วยการคว้าอันดับ 2 ที่สนามDiriyahอะไรคือความท้าทายสำหรับคุณในขณะนี้?
“Formula E คือรายการชิงแชมเปี้ยนที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด การจะประสบความสำเร็จต้องเกิดจากส่วนประกอบที่ลงตัวทุกอย่างพร้อมกัน
ผลงานของเราต้องมีคุณภาพสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นำรถลงสนามตลอดรอดฝั่งโดยปราศจากปัญหามีกลยุทธ์ การบริหารจัดการพลังงานที่ดีเยี่ยมและเราต้องการรถแข่งที่สมดุล ความท้าทายอันยิ่งใหญ่คือการเตรียมความพร้อมในทุกสิ่งทุกอย่างให้ครบถ้วน เพื่อที่เราจะสามารถตอบสนองได้อย่างทันทีทันใด ในกรณีที่มีบางอย่างไม่เป็นไปตามแผนการที่กำหนดนั่นคือหัวใจของความสำเร็จเราทุกคนในทีมเติบโตไปด้วยกันจากความท้าทายต่างๆเหล่านี้และนี่คือการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เมื่อเปรียบเทียบกับฤดูกาลที่แล้วถึงตอนนี้ได้เวลาที่เราจะต้องลองของจริงเสียทีโดยเฉพาะในระหว่างที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้”
สำหรับเป้าหมายของการทำงานในฤดูกาลนี้ มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่?
“ทีมงานทุกคนกำลังพบกับประสบการณ์การเรียนรู้ครั้งใหญ่ เมื่อเราคาดหวังประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยม เราได้อะไรมากมายในช่วงฤดูกาลเปิดตัวในระหว่างการขับทดสอบ เราพบว่าบรรดาวิศวกรของเราทำหน้าที่ของพวกเขาได้อย่างไร้ที่ติ ในการพัฒนารถแข่ง Porsche 99X Electricดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่เป้าประสงค์ของเราจะเปลี่ยนแปลงไป ในปีแรกเรามีเป้าหมายในการจบการแข่งขันบนโพเดี้ยม และเราสามารถทำได้ ตอนนี้เราต้องการชัยชนะ แน่นอนว่าแรงกดดันย่อมมากกว่าเดิม แต่ผมเชื่อว่าเรารับมือกับมันได้”
เมื่อคุณมีเวลาว่างมากขึ้น หลังยกเลิกการแข่งขันสนามเปิดฤดูกาลที่ Santiago de Chileคุณใช้เวลาตรงนั้นทำอะไรบ้าง?
“แผนการถูกเปลี่ยนแปลงโดยไม่คาดคิด แต่ผมปรับตัวเพื่อรับกับสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว ผมปรับแต่งโปรแกรมการเสริมสร้างร่างกายเสียใหม่ รวมทั้งเพิ่มเติมบางอย่างเข้าไปสำหรับตอนนี้ ผมเรียนวิชา kick boxingและยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกซ้อม simulator”
Pascal Wehrlein, นักแข่งสังกัดทีมโรงงานปอร์เช่(รถแข่งหมายเลข 99)
สำหรับช่วงเวลาเว้นว่างจากการแข่งขันที่ค่อนข้างนาน ทำให้คุณเฝ้ารอคอยการเริ่มต้นฤดูกาลนี้หรือไม่?
“ผมแทบจะรอไม่ไหว การพักเบรกเป็นเวลาที่นานมากสำหรับผม การลงสนามครั้งล่าสุดของผมใน Marrakesh ผ่านมาเกือบ 1 ปีเต็มเข้าไปแล้ว มันก็จริงที่เราได้ใช้เวลาทำการทดสอบ และมีกระบวนการทำงานที่ดีเยี่ยม แต่มันแทนที่การลงสนามจริงไม่ได้ ทีมงานทุกคนกระหายที่จะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทดสอบมาใช้ในสนามผมหวังจะประสบความสำเร็จในการเริ่มต้นฤดูกาลที่Diriyahและอยากให้ทุกสนามที่เหลือของปีนี้ เป็นไปตามแผนที่วางไว้”
คุณลงแข่งให้ปอร์เช่ครั้งแรกที่สนามDiriyahสิ่งนี้มีอะไรที่เป็นพิเศษสำหรับคุณ และฤดูกาลนี้มันจะออกมาแบบไหน?
“มันมีหลายอย่างที่พิเศษเอามากๆ ก่อนอื่นเลยปอร์เช่คือหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดเมื่อนึกถึงวงการมอเตอร์สปอร์ต สำหรับผมมันคือเกียรติยศและแรงกระตุ้นที่ยิ่งใหญ่ในการได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวปอร์เช่มอเตอร์สปอร์ตผมค่อนข้างคุ้นเคยกับการแข่งขันรายการ Formula E และรู้ว่าสิ่งสำคัญคืออะไรเราทดสอบทุกระบบเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่
และเราสามารถรับมือกับความท้าทายที่รอคอยอยู่เบื้องหน้าแล้ว เรามีทุกอย่างที่จำเป็นต้องใช้เพื่อคว้าชัยชนะ นั่นคือเป้าหมายของเรา”
การแข่งขันในช่วงกลางคืนแบบ night races เป็นอีกหนึ่งความท้าทายหรือไม่?
“ผมชอบการขับรถในเวลากลางคืนมากมันมีบรรยากาศที่พิเศษทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะรวดเร็วยิ่งกว่าเดิมในส่วนพื้นผิวสนามเเข่งสว่างนิดหน่อยสำหรับตัวนักแข่งคุณต้องใช้สมาธิอย่างจริงจัง เนื่องจากทัศนวิสัยรอบสนามลดน้อยลง ทำให้ยากต่อการสังเกตจุดอ้างอิงต่างๆ แต่อย่างน้อยตาเราก็ไม่พร่าจากแสงอาทิตย์”
เกี่ยวกับสนามแข่ง
รายการDiriyah E-Prix แข่งขันบนสนามstreet circuit ระยะทางรวม 2.494-กิโลเมตร ทางโค้ง 21 แห่ง เส้นทางดังกล่าววิ่งผ่านป้อมปราการโบราณ และย่านเมืองเก่าโดยเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ทำจากดินเหนียว “มันเป็นสนามที่เหมาะสมกับนักแข่งอย่างแท้จริง”André Lottererผู้ชื่นชอบการขับขี่บนสนามแห่งนี้ ซึ่งมีโค้ง 90องศา และโค้ง hairpins มากกว่าสนาม Formula E อื่นๆกล่าวว่า “ในการขับ 14 โค้งแรก คุณทำได้แค่ต้องเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ขึ้นเนิน ลงเนิน เร่งความเร็ว ลดความเร็ว ขณะที่ขับอยู่นั้น คุณจะไม่มีเวลาตรวจสอบระดับพลังงานที่ใช้ไป หลังผ่านโค้ง 14 ไปแล้วนั่นแหละ คุณถึงจะพอเหลือบสายตามองข้อมูลบนพวงมาลัยได้บ้าง” อะไรคือสิ่งที่ต้องคำนึงถึงอันดับแรก?“สิ่งที่ยากคือการปรับแต่งรถแข่งให้สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์อันหลากหลายนอกนั้นคือเทคนิคในการค้นหาจังหวะที่ลงตัวและมีสายลมที่พัดพาเอาเม็ดทรายตกลงบนผิวสนาม นั่นคือจุดที่มีความลื่นเป็นอย่างมาก”
ข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน
ภาพถ่ายชุดแรกจากสนามDiriyahจะพร้อมเผยแพร่ในฐานข้อมูล Porsche press database ตั้งเเต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ รายงานการแข่งขันจะตามมาในวันที่ 26 กุมภาพันธ์(race ที่ 1) และวันที่ 27 กุมภาพันธ์(race ที่ 2)ข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับทีมแข่ง TAG Heuer Porsche Formula E จะได้รับเผยแพร่ผ่าน Twitter channel @PorscheFormulaEข้อมูลอื่นๆของทีมงาน นักแข่ง และรายการแข่งขันสามารถค้นหาได้จากPorsche Formula E Media Guide
เพื่อสนับสนุนการใช้งาน media guideสำหรับสื่อมวลชน ทีมแข่ง TAG Heuer Porsche Formula E จึงนำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจในส่วนของปอร์เช่ และการแข่งขัน Formula E อันเป็นการเพิ่มความน่าสนใจให้แก่สื่อได้อย่างดี เบื้องต้นจะมุ่งเน้นไปที่รถแข่ง Porsche 99X Electric พร้อมกับการประเดิมฤดูกาลที่ 2 ของ Formula E ในDiriyahด้วยรูปแบบ 3D animationผู้ใช้งานสามารถคลิกเพื่อรับชมข้อมูลรายละเอียดของรถแข่งพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบได้อย่างหลากหลายหัวข้อ อาทิ ระบบขับเคลื่อน ระบบเบรก หรือระบบบังคับเลี้ยว โดยMartin Füchtner Technical Project Leader ของโครงการ Formula E ร่วมแบ่งปันข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ไว้ในรูปแบบภาพยนตร์สามารถเข้าถึง media guide ได้ที่https://media.porsche.com/formula-eทั้งนี้เนื้อหาจะได้รับการอัพเดททุกสนาม ตลอดฤดูกาลแข่งขัน และเพิ่มเติมสื่อในรูปเเบบinteractive
พันธมิตรทางธุรกิจ
ด้วยการสนับสนุนจาก 16 พันธมิตรทางธุรกิจ เป็นอีกครั้งที่ทีมแข่ง TAG Heuer Porsche Formula E ลงสนามฤดูกาลที่ 2 ด้วยแรงผลักดันจากบรรดาเพื่อนร่วมงานสุดพิเศษ โดยมีแปดรายที่ได้รับการติดชื่อบนตัวรถแข่งPorsche 99X Electric ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของทีมประกอบด้วยTAG Heuerในฐานะหัวเรือใหญ่ของทีม และผู้สนับสนุนด้านอุปกรณ์จับเวลา ปอร์เช่และแบรนด์นาฬิกาสุดหรูจากสวิสเซอร์แลนด์ มีประวัติความเป็นมา รวมทั้งความสำเร็จต่างๆในวงการกีฬาความเร็วร่วมกันอย่างยาวนาน เคียงข้างกับ TAG Heuer คือANSYSบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้าน simulation softwareในฐานะพันธมิตรด้านเทคโนโลยีอย่างเป็นทางการVodafoneยังคงยืนหยัดเป็นพันธมิตรด้านการสื่อสารเสริมด้วยผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ รายการ ABB FIA Formula E World Championshipกลุ่มกิจการชั้นนำด้านพลังงานและ automation technology จากสวิสเซอร์แลนด์ABBปรากฎตราสินค้าบนรถแข่งปอร์เช่เช่นเดียวกันพร้อมด้วยExxonMobil แบรนด์จาก Mobilหนึ่งในองค์กรที่มีส่วนอย่างใกล้ชิดกับการพัฒนารถแข่ง Porsche 99X Electricเเละเป็นผู้สนับสนุนด้านเทคโนโลยีสำหรับกลุ่มสินค้าแฟชั่นอย่างHugo Bossในฐานะพันธมิตรด้านเครื่องแต่งกายระดับโลกของ Porsche Motorsport และสนับสนุนอุปกรณ์ให้แก่บุคลากร ไม่ว่าจะเป็นชุดแข่งกันไฟรวมทั้งรองเท้าและกระเป๋า นอกจากนี้สมาชิกของทีมยังได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์กีฬาคุณภาพสูงจากPumaส่วนบริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์Michelinพันธมิตรที่ยืนเคียงข้างกับ Porsche Motorsport มาโดยตลอดไม่พลาดที่จะเข้ามามีบทบาทในรายการ Formula Eเช่นกัน สำหรับผู้ให้การสนับสนุนรายอื่น ของทีมแข่ง TAG Heuer Porsche Formula E ได้แก่TRILUX (อุปกรณ์แสงสว่าง)C. & A.VELTINS (โรงเบียร์)Humbel Gear Technology (เทคโนโลยี ระบบส่งกำลัง)Kärcher (เทคโนโลยี เครื่องมือทำความสะอาด)Hazet (สนับสนุนเครื่องมือช่าง)Red Bull (เครื่องดื่มบำรุงกำลัง)Stilo (หมวกนิรภัย) และSACRED Coffee (กาแฟ และชา)
รถแข่ง Porsche 99X Electric
การพัฒนารถแข่ง Porsche 99X Electricคือโอกาสนำพาปอร์เช่หวนกลับมาปฏิบัติงานกับรถแข่งเปิดล้อ ที่นั่งเดี่ยวอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปมากกว่า 30 ปี และถือได้ว่าเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จจากการเปิดตัวครั้งแรก ด้วยการคว้าอันดับ 2 ในการแข่งขันสนามเปิดฤดูกาลที่Diriyah ประเทศซาอุดิอาระเบียรถแข่งพลังงานไฟฟ้าที่ถือกำเนิดขึ้นจากศูนย์วิจัยพัฒนาWeissach ภายใต้ระบบขับเคลื่อน และแพลตฟอร์มของสายการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีชื่อว่า Porsche E Performance ด้วยเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 800โวลท์ หัวใจหลักที่พบเจอได้ในปอร์เช่ ไทคานน์(Porsche Taycan)รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบคันแรกจากปอร์เช่เช่นเดียวกันระบบบริหารจัดการพลังงานที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของความสำเร็จในโครงการ Formula E และการพัฒนารถยนต์ในสายการผลิตปกติรถแข่ง 99X Electric ให้พละกำลังสูงสุด340 แรงม้า(250 กิโลวัตต์) เมื่อทำงานใน qualification mode และ 270 แรงม้า(200 กิโลวัตต์)สำหรับ normal race modeในส่วนของAttack Mode สามารถเพิ่มพลังได้สูงสุด320 แรงม้า(235 กิโลวัตต์) และเมื่อได้รับFanboost จะเพิ่มกำลังได้ที่340 แรงม้า(250 กิโลวัตต์)ระดับการชาร์จพลังงานกลับ recuperation สูงสุดที่ 250 กิโลวัตต์ความจุแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้อยู่ที่ 52 กิโลวัตต์ชั่วโมง
รายการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้าFormula E
Formula E คือรายการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้ารายการแรกของโลกนำพาความตื่นเต้นเร้าใจของกีฬาความเร็วไปสู่ผู้ชมในเมืองใหญ่ทั่วโลก ส่งเสริมความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมยานยนต์และเทคโนโลยีสะอาดเพื่อความยั่งยืนสร้างการรับรู้ยอมรับและเข้าใจยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าให้แก่สาธารณชนทั่วโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดปัญหามลภาวะโลกร้อนรูปแบบการแข่งขันไม่ซับซ้อน การซ้อม รอบจัดอันดับ และการแข่งขันจริง จบลงภายในวันเดียว ในแต่ละสนามแข่งขันด้วยระยะเวลามากกว่า 45 นาที กับอีกหนึ่งรอบสนามทั้งนี้ Formula E ฤดูกาลปัจจุบันมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ส่งรถแข่งลงสนามเป็นจำนวนมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับรายการอื่นนับเป็นเครื่องยืนยันถึงความน่าสนใจ และความร้อนแรงของรายการนี้ ในปี 2021 ทีมแข่ง TAG Heuer Porsche Formula E ส่งรถแข่งPorsche 99X Electric เข้าร่วมประลองความเร็วเป็นฤดูกาลที่ 2
สนามแข่งขันฤดูกาล 2021*
ปฏิทินการแข่งขันอย่างไม่เป็นทางการ 8 สนาม ของรายการ ABB FIA Formula E World Championship สำหรับครึ่งฤดูกาลแรกของปี 2021
สนามที่ 1 – 26กุมภาพันธ์: Diriyah(ประเทศ ซาอุดิ อาระเบีย)
สนามที่ 2 – 27กุมภาพันธ์: Diriyah(ประเทศ ซาอุดิ อาระเบีย)
สนามที่ 3 – 10เมษายน: Rome (ประเทศ อิตาลี)
สนามที่ 4 – 24เมษายน: Valencia (ประเทศ สเปน)
สนามที่ 5 – 8พฤษภาคม: Monaco (ประเทศ โมนาโค)
สนามที่ 6 – 22พฤษภาคม: Marrakesh (ประเทศ โมรอคโค)
สนามที่ 7 – 5มิถุนายน: Santiago de Chile (ประเทศ ชิลี)
สนามที่ 8 – 6มิถุนายน: Santiago de Chile (ประเทศ ชิลี)
ABB FIA Formula E World Championship จะประกาศรายชื่อสนาม และกำหนดการแข่งขันที่เหลือของฤดูกาล 2021 ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
* กำหนดการแข่งขันอาจมีการเปลี่ยนแปลง