นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การที่บริษัทแม่ได้นำรถปิกอัพ บีที-50 ไปจัดแสดงอวดโฉม ณ สำนักงานใหญ่ในเมืองฮิโรชิม่า เพื่อให้พนักงาน พันธมิตรทางธุรกิจ ลูกค้า และชาวญี่ปุ่น รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนได้มีโอกาสสัมผัสถึงความสง่างามที่ถูกผลิตขึ้นจากฝีมือคนไทย เนื่องจากสำนักงานใหญ่มาสด้า ถือเป็นจุดเช็คอินเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกที่ต่างหลั่งไหลเดินทางมาเยี่ยมชมเทคโนโลยีการผลิตและชมพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงรถยนต์มาสด้า และเรื่องราวประวัติศาสตร์ความเป็นมาของมาสด้าตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน โดย บีที-50 ถูกจัดแสดงคู่กับรถแข่งมาสด้า 787B ร่วมกับรถยนต์มาสด้าเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ที่สำคัญเนื่องโอกาสครบรอบ 30 ปี ของการชนะเลิศการแข่งขันรายการ เลอ มังส์ 24 ชั่วโมง หรือการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบสุดหฤโหดในปี 1991 อันเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของมาสด้าและเป็นต้นกำเนิดของฮิโรชิม่าสปิริตที่ชาวมาสด้าภาคภูมิใจ และปิกอัพ บีที-50 คือผลผลิตแห่งความภาคภูมิใจของชาวมาสด้าทั้งในประเทศไทยและญี่ปุ่น
รถปิกอัพ ALL-NEW MAZDA BT-50 เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล B-Series ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1961 โดยใช้ชื่อว่า B1500 ซึ่งได้ถูกพัฒนาปรับโฉมมาแล้วถึง 9 เจนฯ จนถึงปัจจุบัน และได้วางจำหน่ายในหลายภูมิภาคหลักทั่วโลก ทั้งในกลุ่มประเทศในแถบโอเชียเนีย อาเซียน อเมริกากลางและอเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา รวมถึงในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ปิกอัพรุ่นนี้ไม่ได้วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ดังนั้น การจัดแสดงครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่ลูกค้าชาวญี่ปุ่น รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากทุกสารทิศทั่วโลกจะได้มีโอกาสสัมผัสถึงความสง่างามที่แฝงไว้ด้วยพลัง ซึ่งมีชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจและเข้าชมอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา