จำนวนผู้เข้าชม : 47 ครั้ง
End Page
 
 
ฮอนด้า เปิดตัว “ฮอนด้าซีวิค ใหม่ เจเนอเรชันที่ 11”สปอร์ตพรีเมียมซีดานไอคอน แรง เร้าใจกับขุมพลัง VTEC TURBO และมั่นใจทุกการขับขี่กับHonda SENSINGทุกรุ่นย่อย ยกระดับประสบการณ์ใหม่ให้สมบูรณ์แบบในทุกมิติเกินกว่าใครจะตามทัน

  • จัดเต็มสำหรับทุกรุ่นย่อย ด้วยเครื่องยนต์ VTEC TURBO 1.5 ลิตร ใหม่ ที่มอบความแรงเร้าใจแต่ยังมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ยกระดับ
    ไปอีกขั้นกับระบบใหม่Lead Car Departure Notification System (LCDN)
  • สปอร์ตพรีเมียมทุกมุมมอง ด้วยดีไซน์ประณีตทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย
  • สปอร์ตโฉบเฉี่ยวอีกขั้น ด้วยรุ่น RS ดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟที่ตกแต่งพิเศษด้วยโทนสีดำรอบคันพร้อมปลอกท่อไอเสียคู่ 
  • ครั้งแรกกับระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะพร้อมHonda Smart Key Cardมอบประสบการณ์ความสะดวกสบายสุดพรีเมียม



บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัดเปิดตัวฮอนด้า ซีวิค ใหม่
เจเนอเรชันที่
11ตอกย้ำความเป็นไอคอนของยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดานที่ได้รับการพัฒนาดีเอ็นเอ
ความสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ให้ก้าวล้ำตลอด10 เจเนอเรชันที่ผ่านมา ครั้งนี้ฮอนด้า ซีวิคเจเนอเรชันที่ 11
พร้อมแล้วที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการยานยนต์อีกครั้ง ด้วยดีไซน์ภายนอกสปอร์ตพรีเมียมในทุกมุมมองเสริมความโฉบเฉี่ยวเร้าใจด้วยรุ่น RS ดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟสไตล์สปอร์ตที่ตกแต่งพิเศษด้วยโทนสีดำ
รอบคันพร้อมปลอกท่อไอเสียคู่
ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบายพร้อมโหมดการขับขี่ที่เลือกได้ถึง
3 โหมด
นอกจากนี้ในทุกรุ่นย่อยให้ความแรงทรงพลังเร้าใจเกินใครด้วยเครื่องยนต์ VTEC TURBO1.5 ลิตร ใหม่ พร้อมระบบเกียร์ CVT ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม17.2กม./ลิตร
ทั้งยังรองรับพลังงานทางเลือก E85และมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะฮอนด้าเซนส์ซิ่ง
(
Honda SENSING)ที่ยกระดับไปอีกขั้นกับระบบใหม่ Lead Car Departure Notification System (LCDN)สะดวกสบายแบบเหนือกว่ากับครั้งแรกของระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะพร้อม Honda Smart Key Card
ครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยโดยพร้อมให้สัมผัสได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศตั้งแต่ 6สิงหาคม 2564เป็นต้นไปด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้น964,900บาท




นายมาซายูคิ อิงาราชิหัวหน้าเจ้าหน้าที่ งานปฏิบัติการประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่นและประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัดกล่าวว่า “ฮอนด้า ซีวิค เป็นยนตรกรรมที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515ตลอดเวลาเกือบ 50 ปีได้รับการพัฒนาและสร้างมาตรฐานใหม่มาอย่างต่อเนื่องในทุกเจเนอเรชันโดยได้รับการยอมรับและความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลกด้วยยอดขายมากกว่า 27 ล้านคันในมากกว่า170 ประเทศ และวันนี้ประเทศไทย
เป็นประเทศแรกนอกทวีปอเมริกาเหนือที่จะเปิดตัว ฮอนด้า ซีวิค ซีดาน ใหม่ เจเนอเรชันที่ 11ในฐานะตลาดที่มีศักยภาพสูง อีกทั้งเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียอีกด้วย”




นายโนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัทฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้า ซีวิค ถือเป็นไอคอนของรถซีดานที่เติบโตคู่กับสังคมไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 ซึ่งตลอด 37ปี
ที่ผ่านมา ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย รวมทั้งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทย
มาโดยตลอด พิสูจน์ได้จากการเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์คอมแพคท์ ด้วยยอดขายสะสมเกือบ600,000 คัน ด้วยดีเอ็นเอความสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ทั้งในด้านดีไซน์และสมรรถนะการขับขี่อีกทั้งครบครัน
ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ ส่งผลให้ล่าสุด ฮอนด้า ซีวิคสามารถครองอันดับ 1 ในเซกเมนต์ถึง 5 ปีซ้อนและในวันนี้ ผมเชื่อมั่นว่าฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เจเนอเรชันที่ 11 จะเข้ามายกระดับคอมแพคท์ซีดานให้เหนือกว่าทุกรุ่นที่เคยมีมาอีกครั้ง ด้วยดีไซน์ที่สปอร์ตพรีเมียมผสานสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและประหยัดน้ำมัน
ด้วยขุมพลัง VTEC TURBO พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย ที่จะมาสร้างตำนานบทใหม่ ให้สมกับเป็นยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดานที่ทุกคนรอคอย”

 




ดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมในทุกมุมมองโดดเด่นกว่าด้วยความประณีต...ในทุกรายละเอียด

ฮอนด้า ซีวิค เจเนอเรชันที่ 11มาพร้อมการออกแบบที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของความสปอร์ตพรีเมียม โดดเด่นด้วยเส้นสายโฉบเฉี่ยวรอบคันหรูหราในทุกมุมมองด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ มาพร้อมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED
สไตล์เอกลักษณ์เฉพาะตัว เสาอากาศแบบครีบฉลาม ท่อไอเสียแบบคู่ และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่

ยกระดับความสปอร์ตในรุ่น RSด้วยดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟรอบคันโดดเด่นด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้า
ดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ RS ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอก
คู่หน้าและไฟท้ายแบบLED กระจกมองข้างสีดำ มือจับประตูด้านนอกสีดำ เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ สปอยเลอร์หลังสีดำพร้อมสัญลักษณ์ RS ด้านท้าย ท่อไอเสียแบบคู่พร้อมปลอกท่อไอเสีย และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต
ขนาด 17นิ้ว ภายในห้องโดยสารสะท้อนความสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต และสะกดทุกสายตาด้วย สีแดงอิกไนต์(เมทัลลิก)เฉพาะรุ่น RS

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง มอบความสะดวกสบาย ตกแต่งด้วยวัสดุพรีเมียม มาพร้อมเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกล้ำสมัย พร้อมเชื่อมต่อคุณและรถยนต์ให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีที่หลากหลาย*
สำหรับรุ่น RS อาทิใหม่ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะพร้อม Honda Smart Key Cardดีไซน์เรียบหรู พกพาสะดวก ให้คุณล็อกและปลดล็อกรถได้อย่างสะดวกสบาย เพียงแค่พกการ์ดไว้กับตัวมาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touchรองรับการเชื่อมต่อApple CarPlayแบบไร้สายและระบบสั่งการด้วยเสียง Siriอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
แบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา และ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์ที่ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน เป็นต้น

สำหรับรุ่น EL+ และ ELอาทิ มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7นิ้ว แบบ Advanced Touchรองรับการเชื่อมต่อApple CarPlayและระบบสั่งการ
ด้วยเสียง Siri ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท ระบบปรับอากาศอัตโนมัติเป็นต้น

 


ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSINGทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการทำงานหลัก ๆ ดังนี้

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)ระบบช่วยเตือน
    ผู้ขับขี่ให้ลดความเร็วเมื่อมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน หรือคนเดินถนนที่อยู่ในระยะไม่ปลอดภัย และเมื่อมีความเสี่ยงต่อการชนระบบจะช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนหรือลดความรุนแรง
    จากอุบัติเหตุ
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACCwith LSF)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
  • ใหม่ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยที่ครบครัน*อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor) กล้องส่องภาพด้านหลัง
ปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ Auto Brake Holdระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง (Front Passenger and Rear Seat Belt Reminder)และไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)เป็นต้น


 

การขับเคลื่อนที่ไม่ใช่แค่ความแรง แต่เปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง

แรงทรงพลังที่มอบความเร้าใจเกินใครกับขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBOใหม่ 4 สูบ
16 วาล์ว
ที่พัฒนาไปอีกขั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์มาพร้อม Turbo Charger ที่อัดอากาศ
เข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็วให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 - 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT ให้อัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมัน
ที่ดีเยี่ยมสูงถึง 17.2 กิโลเมตร/ลิตร
อีกทั้งยังรองรับพลังงานทางเลือก E85พร้อมโหมดการขับขี่ที่เลือกได้ตามสไตล์ 3 โหมด ได้แก่

  • ECON Mode - โหมดการขับขี่แบบประหยัด พร้อมปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการ
    ขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น
  • Normal Mode - โหมดการขับขี่แบบปกติ สำหรับการขับขี่ใช้งานโดยทั่วไป
  • เพิ่มเติมด้วย Sport Mode - โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต ที่การทำงานของเครื่องยนต์ตอบสนองการเร่ง
    ได้ดียิ่งขึ้นเพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ(เฉพาะรุ่น RS)

 

ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อยได้แก่

  • รุ่น RS              ราคา 1,199,900บาท
  • รุ่น EL+            ราคา 1,009,900บาท
    • รุ่น EL              ราคา 964,900บาท

สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สีได้แก่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก)เฉพาะรุ่น RSพร้อมด้วย สีใหม่ สีฟ้ามอร์นิงมิสต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น EL+และ ELและสีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)อีกทั้งสีขาวแพลทินัม (มุก) สีดำคริสตัล (มุก)สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีภายใน มีทั้งหมด2 สีได้แก่ สีดำ และสีเทาเบจ ซึ่งขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและสีภายนอก

 

มาพร้อมข้อเสนอพิเศษเพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ได้ง่ายขึ้นกับ ดอกเบี้ย 2.99% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปีและบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่6สิงหาคม 2564 -31สิงหาคม2564

นอกจากนี้ยังเสริมความสปอร์ตไปอีกขั้นด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) ที่มาพร้อมกับแนวคิดMake the CIVIC 3F (Fashion, Function and Featured)”โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก อาทิสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก ราคา 10,000 บาท แป้นวางเท้าแบบสปอร์ต ราคา 1,800 บาท คิ้วบันได LED ราคา 5,100 บาท ฝาครอบกระจกมองข้าง ราคา 1,000 บาท คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า ราคา 1,950 บาท ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ราคา 5,250 บาท คิ้วตกแต่งกระจังหน้าราคา 3,900 บาท คิ้วตกแต่งกันชนหลัง ราคา 5,900 บาทไฟส่องสว่างที่เท้า ราคา 2,200 บาทเป็นต้น

 

หรือเลือกตกแต่งในรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน ทั้งหมด 4แพ็กเกจ ได้แก่

  • Exhaust Pipe Finisher Package ราคา 1,950 บาท ประกอบด้วยปลอกท่อไอเสียสเตนเลส 2 ชิ้น
  • Sport Packageราคา 8,900บาท ประกอบด้วย คิ้วตกแต่งกระจังหน้า และคิ้วตกแต่งกันชนหลัง
  • Exclusive Sport Packageราคา 17,200 บาท ประกอบด้วย คิ้วตกแต่งกระจังหน้าคิ้วตกแต่งกันชนหลัง และ สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก
    • Modulo Aero Packageราคา 18,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตข้าง และสเกิร์ตหลัง

 

สัมผัสฮอนด้า ซีวิค ใหม่ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศตั้งแต่ 6สิงหาคม 2564เป็นต้นไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชทกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์www.honda.co.thหรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ที่www.honda.co.th/civicทั้งนี้ลูกค้าสามารถทดสอบสมรรถนะได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

 

หมายเหตุ

-          *อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น

-          สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาทและสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท

-          ราคาอุปกรณ์ตกแต่งไม่รวมVAT 7%

-          ดูรายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้ที่https://hondaaccess.co.th/line-up/honda-civic/



ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : www.rodweekly.com แหล่ง ซื้อขายรถมือสอง กรุงเทพและปริมณฑล  
 ผู้บันทึก : www.rodweekly.com แหล่ง ซื้อขายรถมือสอง กรุงเทพและปริมณฑล
date : [ 09 ส.ค. 2564 ]
 


 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

ข่าวสารยานยนต์

error=select * from newtopic order by q_id desc