นางสาวจิราพร กล่าวต่อว่า ทางด้าน สปีด ทริปเปิล 1200 อาร์เอส (Speed Triple 1200 RS) ถูกออกแบบให้มีความคล่องตัว ไดนามิกและตอบสนองการควบคุมได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา สามารถกระจายน้ำหนักได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีโครงรถอะลูมิเนียมที่น้ำหนักเบาลง 17% และจุดศูนย์ถ่วงที่ขยับไปด้านหน้าและลดต่ำลง ด้วยน้ำหนักเพียง 198 กิโลกรัม (น้ำหนักเปียก) ทำให้รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่นี้เบากว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 10 กิโลกรัม มาพร้อมแฮนด์ที่กว้างขึ้น 13 มิลลิเมตร ช่วยส่งเสริมท่าการขับขี่ที่เป็นเอกลักษณ์และให้การขับขี่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ความสูงของเบาะนั่งอยู่ในระดับสะดวกสบายที่ 830 มิลลิเมตร อีกทั้งยังมีการปรับปรุงที่วางเท้าแบบใหม่ ซึ่งขยับเข้าด้านในเล็กน้อยจากรุ่นก่อนหน้า ทำให้ระยะห่างจากพื้นเพิ่มมากขึ้น โดยไม่กระทบกับพื้นที่วางขา รวมถึงติดตั้งโช้คหน้าหัวกลับ Öhlins NIX30 ในขณะที่โช้คหลังเดี่ยวเป็นระบบ Twin tube Öhlins TTX36 ซึ่งสามารถปรับความแข็งและระยะพรีโหลดได้ มาพร้อมคาลิปเปอร์เบรกหน้าคู่แบบเรเดียลโมโนบลอค Brembo Stylema® สมรรถนะสูง ด้วยดิสก์เบรกหน้าขนาด 320 มิลลิเมตรที่เบาลง ซึ่งให้กำลังเบรกที่พร้อมใช้งานในสนามแข่ง ในขณะที่ล้อหลัง มาพร้อมคาลิปเปอร์เบรกหลัง Brembo สูบคู่ นอกจากนี้ ยังมีปั๊มเบรก Brembo MCS และก้านเบรกแบบปรับได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและการควบคุมให้แก่ผู้ขับขี่ พร้อมด้วยยางประสิทธิภาพสูง Metzeler Racetec RR ในส่วนของดีไซน์รุ่นนี้นับเป็นนิยามใหม่ของความดุดัน สุขุม ด้วยสไตล์และท่าทางที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่ที่มั่นคง สะดวกสบาย มีการผสมผสาน DNA การออกแบบดั้งเดิมของสปีด ทริปเปิลเข้ากับรุ่นใหม่ล่าสุด เสริมความแข็งแกร่งด้วยล้ออะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป สีดำก้านล้อทรง V น้ำหนักเบาขนาด 17 นิ้ว รวมไปถึงการออกแบบมาเพื่อแสดงออกถึงสมรรถนะของสตรีทไบค์ที่เน้นการขับขี่บนท้องถนน และขีดความสามารถสำหรับการขับขี่ในสนามแข่ง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถสนุกกับพละกำลัง แรงบิด และการควบคุมรถได้อย่างเต็มที่
นางสาวจิราพร กล่าวเสริมว่า นอกจากนี้ สปีด ทริปเปิล 1200 อาร์อาร์ (Speed Triple 1200 RR) และ สปีด ทริปเปิล 1200 อาร์เอส (Speed Triple 1200 RS) ยังมาพร้อมเทคโนโลยีการขับขี่อันล้ำสมัยซึ่งติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ TFT แบบสี ขนาด 5 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อ My Triumph Connectivity System ระบบเบรก ABS และระบบควบคุมการยึดเกาะถนนในการเข้าโค้ง ด้วยระบบตรวจจับแรงเฉื่อย หรือ IMU (Inertial Measurement Unit) รองรับโหมดการขับขี่ 5 โหมด ได้แก่ Road Rain Sport Track และ Rider-configurable ระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์ไม่ใช้คลัตช์ (Triumph Shift Assist Up-and-Down Quickshifter) ระบบไฟ LED แบบ Full-LED พร้อมไฟหน้า DRL ที่เพิ่มความสามารถในการมองเห็นบนท้องถนน ตลอดจนระบบสตาร์ทไร้กุญแจเต็มรูปแบบ สวิตช์ควบคุมแบบเรืองแสง และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเพื่อให้สามารถขับขี่ในระยะทางไกลได้ดีขึ้น
ทั้งนี้ สปีด ทริปเปิล 1200 อาร์อาร์ (Speed Triple 1200 RR) และ สปีด ทริปเปิล 1200 อาร์เอส (Speed Triple 1200 RS) ได้สร้างมิติใหม่ในการขี่รถจักรยานยนต์สปอร์ตเน็กเก็ตไบค์ด้วยคาแรคเตอร์เฉพาะตัวและสมรรถนะที่เหมาะสำหรับการขับขี่แบบสปอร์ตและมอบความสนุกสนานสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้สำหรับการบำรุงรักษาทั้ง 2 รุ่น ยังมาพร้อมรอบการเช็คระยะที่ สูงถึง 16,000 กิโลเมตร หรือ 12 เดือน และการรับประกันคุณภาพแบบไม่จำกัดระยะทางเป็นเวลา 2 ปี ช่วยให้ลูกค้าอุ่นใจตลอดการเดินทาง โดย สปีด ทริปเปิล 1200 อาร์อาร์ มาพร้อม 2 โทนสีสุดโดดเด่น ได้แก่ สี Red Hopper/ Storm Grey และ สี Crystal White/ Storm Grey ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 799,000 บาท ทางด้าน สปีด ทริปเปิล 1200 อาร์เอส มาพร้อม 2 สีใหม่ ได้แก่ Sapphire Black ตกแต่งรายละเอียดด้วยกราฟิกสีแดงและสีเงิน และ Matt Silver Ice ตกแต่งรายละเอียดด้วยกราฟิกสีดำ สีเงิน และสีเหลือง ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 699,000 บาท
อีกทั้งยังสามารถสนุกกับการปรับแต่งรถจักรยานยนต์ ด้วยอุปกรณ์เสริมแท้จากไทรอัมพ์ โดย สปีด ทริปเปิล 1200 อาร์เอส (Speed Triple 1200 RS) มีอุปกรณ์เสริม 35 รายการ ในขณะที่ สปีด ทริปเปิล 1200 อาร์อาร์ (Triumph Speed Triple 1200 RR) มีอุปกรณ์เสริมกว่า 30 รายการ ซึ่งทั้งหมดได้รับการพัฒนาควบคู่ไปกับตัวรถจักรยานยนต์เพื่อการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้อุปกรณ์เสริมทุกชิ้นยังได้รับการทดสอบคุณภาพและความทนทาน ตามมาตรฐานอย่างเข้มงวด และทั้งหมดอยู่ในการรับประกันแบบไม่จำกัดระยะทางเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งสามารถเลือกดูอุปกรณ์เสริมทั้งหมดได้ผ่านช่องทางฟีเจอร์ทดลองแต่งรถออนไลน์ของไทรอัมพ์ นางสาวจิราพร กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้สนใจเป็นเจ้าของสุดยอดสปอร์ตเน็กเก็ตไบค์อย่าง สปีด ทริปเปิล 1200 อาร์อาร์ (Speed Triple 1200 RR) และ สปีด ทริปเปิล 1200 อาร์เอส (Speed Triple 1200 RS) สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมตลอดจนทดลองขี่รถได้ที่โชว์รูมไทรอัมพ์ ทั้ง 13 แห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เว็บไซต์ www.triumphmotorcycles.co.th ตลอดจนติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand