หลังจากได้ทำการทดสอบจบทั้งสองวัน สมเกียรติ เปิดใจว่า “เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ร่วมทดสอบการแข่งขัน ซึ่งส่วนตัวผมนั้นค่อนข้างพอใจเป็นอย่างมาก การเทสต์ครั้งนี้เหมือนเป็นการดึงเอาความรู้สึกเดิมๆ กลับมาอีกครั้งหลังจากปิดฤดูกาลไปเกือบ 3 เดือน โดยกลางสัปดาห์นี้จะมีการเทสต์อีกครั้งที่สนามเฆเรซ ซึ่งจะใช้รถใหม่ที่จะทำการแข่งขันในฤดูกาลนี้มาทดสอบขับขี่เพื่อปรับจูนให้เข้ากับตัวเองให้ได้เร็วที่สุด”
นอกจากนั้น สมเกียรติ ยังกล่าวต่อไปอีกว่าในช่วงพักเบรกได้ลงทำการฝึกซ้อมตลอดและการได้เข้าแคมป์กับทาง ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ เป็นเวลาเกือบ 10 วัน ทางทีมก็ช่วยปรับเปลี่ยนการขับขี่และแก้ไขจุดอ่อนที่เคยประสบปัญหาในการแข่งในฤดูกาลที่แล้วได้เกือบทั้งหมด
“ช่วงต้นปีก่อนที่จะเดินทางมาแข่งขันโมโตทู ทาง ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ก็ได้นำนักแข่งในสังกัดไปเก็บตัวฝึกซ้อม ส่วนตัวผมก็ได้นำจุดบกพร่องของตัวเองในปีที่แล้วมาปรึกษาทางทีมงาน สามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ผมได้มากเลยทีเดียว อย่างเช่นเวลาเข้าโค้งต่อเนื่องจะทำอย่างไรให้เวลาคงที่ ซึ่งทางทีมงานก็ได้ช่วยปรับแก้ไขและแนะนำวิธีต่างๆ พอเราเอามาใช้จริงในการซ้อมครั้งแรกมันก็ทำให้ผมขี่ได้ง่ายขึ้น มั่นใจมากขึ้น จนสามารถทำเวลาต่อรอบได้ดี สามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งถือว่าเวลาดังกล่าวเป็นเวลาที่ผมทำได้ดีที่สุด เมื่อเทียบกับตลอด 3 ปีที่แข่งสนามแห่งนี้มาเลย”
“สำหรับเป้าหมายของผมในฤดูกาลนี้มีแข่งทั้งหมด 21 สนาม ผมตั้งเป้าว่าจะคว้าโพเดี้ยมมาครองให้ได้อย่างน้อยหนึ่งสนาม หรือหลายๆ สนามมาฝากแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทยให้ได้ โดยเฉพาะสนามโฮมเรซอย่างสนามช้างฯ ที่ผมได้ไปลงทดสอบก่อนหน้านี้ เก็บรายละเอียดต่างๆ ได้มากพอสมควร เชื่อว่ามีลุ้นโพเดี้ยมอย่างแน่นอน นอกจากนั้นก็จะพยายามติดท็อปเท็นให้ได้ครบทุกสนามในปีนี้ ฝากแฟนๆ ชาวไทยช่วยส่งแรงใจเชียร์ผมด้วยครับ” ยอดนักบิดวัย 23 ปี กล่าวปิดท้าย
อนึ่ง การทดสอบแบบส่วนตัวของศึกโมโตทูและโมโตทรี จะยังคงมีขึ้นต่อเนื่องก่อนจะเข้าสู่โปรแกรม “ออฟฟิเชียล เทสต์” ในวันที่ 19-21 กุมภาพันธ์นี้ ที่อัลการ์ฟ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศโปรตุเกส แฟนๆ ความเร็วสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH