“ในปี 2565 นี้ KIAT มีแผนในการเพิ่มรายได้ทั้งจากธุรกิจหลักที่เกี่ยวกับการขนส่งและจากธุรกิจใหม่อย่างบริการ “สิบล้อลีสซิ่ง” สินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง ล่าสุด บริษัทฯ เพิ่งได้งานประมูลขนส่งที่มีมูลค่ารวมถึง 466 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย งานขนส่ง LNG ให้กับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR มูลค่า 270 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานขนส่ง LNG จาก PTT LNG Terminal ไปยังลูกค้าภาคอุตสาหกรรมทั่วประเทศ เป็นระยะเวลา 5 ปี รวมทั้งงานขนส่งก๊าซอุตสาหกรรมให้กับ บริษัท ลินเด้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มูลค่า 150 ล้านบาท เป็นงานขนส่งออกซิเจนเหลวไปโรงพยาบาล และไนโตรเจนเหลวไปยังโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ระยะเวลา 5 ปี และงานขนส่ง LNG ให้กับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มูลค่า 46 ล้านบาท ไปยังโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ระยะเวลา 2 ปี โดยจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งนับเป็นความสำเร็จที่ KIAT ได้รับความไว้วางใจจากคู่ค้าที่มองเห็นศักยภาพและความเชี่ยวชาญด้านการขนส่งวัตถุอันตรายและสินค้าพิเศษ รวมทั้งมาตรฐานในการควบคุมคุณภาพการบริการ ควบคู่กับความปลอดภัยในการขนส่งที่บริษัทฯ” นางสาวมินตรา กล่าว
นางสาวมินตรา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าในการเร่งเพิ่มรายได้จากบริการ “สิบล้อลีสซิ่ง” สินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง ซึ่งเป็นบริการใหม่ที่ บริษัท เคจีพี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ KIAT ได้เริ่มเปิดตัวเมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา โดยในปีนี้บริษัทฯ เตรียมที่จะเพิ่มทุน บริษัท เคจีพี จำกัด อีก 62.5 ล้านบาท เพื่อเตรียมพร้อมขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง “สิบล้อลีสซิ่ง” สินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง ให้ได้เติบโตเฉลี่ยปีละไม่น้อยกว่า 25% โดยในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าบริการ “สิบล้อลีสซิ่ง” ขยายพอร์ตสินเชื่อเกิน 200 ล้านบาท เนื่องจากตลาดรถบรรทุกมือสองเป็นตลาดที่มีความต้องการสูง โดยเฉพาะในสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ผู้ประกอบการต้องหาทางออกในการใช้เงินลงทุนให้คุ้มค่าที่สุด ในขณะที่ต้องรัดเข็มขัดเพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย รวมทั้งต้องการสภาพคล่องในการใช้จ่ายเพื่อการดำเนินธุรกิจ
อย่างไรก็ดี ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี ของการเป็นผู้นำในการให้บริการด้านการขนส่งวัตถุอันตรายและสินค้าพิเศษ ที่เน้นความปลอดภัยสูง ปัจจุบัน KIAT มีรถบรรทุกขนาดใหญ่ให้บริการขนส่งทั้งสิ้นกว่า 400 คัน ให้บริการแก่ลูกค้าองค์กรกว่า 30 ราย ทั้งการขนส่งทางถนน และรถไฟ ภายใต้การบริหารจัดการขนส่งที่ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล และยังคงเดินหน้าพัฒนาการบริหารฟลีทขนส่ง โดยให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยสูงสุดด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ อาทิ ระบบบริหารจัดการฟลีทขนส่ง (Fleet Management System) และระบบป้องกันการหลับในและละสายตาของพนักงานขับรถ (Driver Fatigue & Distraction Prevention) ที่นำเข้าจากออสเตรเลีย