นายพิทยา กล่าวว่านอกจากแบรนด์ DFSK และ SERES แล้วบริษัทฯ ยังเปิดกว้างที่จะเป็นผู้จัดจำหน่ายจำหน่ายรถยนต์ SUV จากผู้ผลิตรายอื่นจากทั่วทุกมุมโลก โดยรถที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย จะต้องเป็นรถที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับสูง และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยเพื่อเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าของผู้บริโภคชาวไทย
“เราเน้นไปที่รถ SUV เพราะถือเป็นตลาดรถที่มีอัตราเติบโตอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา และอัตราเติบโตนี้จะยังคงมีอย่างต่อเนื่องในอนาคต” นายพิทยา กล่าว
ภายใต้แผนการดำเนินธุรกิจของ อีวี ไพรมัส นายพิทยากล่าวว่าบริษัทฯ จะชูกลยุทธ์ Study (ศึกษาตลาด) Screen (คัดกรองและวางสเป็ค) และ Select (สรุปเลือกผลิตภัณฑ์) ในการคัดสรรแบรนด์และรุ่นรถยนต์ที่จะนำมาทำตลาดในไทย โดยเน้นรถยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า ที่สอดคล้องกับกระแสความต้องการใช้รถยนต์ทั่วโลกในขณะนี้
การเปิดตัวแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า SERES ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทฯ ที่นำผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพพร้อมเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของลูกค้าชาวไทย อีกทั้งยังสอดคล้องกับความตื่นตัวในตลาดรถ EV กำลังขึ้นสู่กระแสสูง โดยทางบริษัทฯ ได้เตรียมพร้อมที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย อย่างน้อย 3 รุ่นในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยเตรียมแนะนำรถ SERES จำนวน 2 รุ่นแรกในประเทศไทย คือ SERES 3 และ SERES 5 ภายในปีนี้
“การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ๆ และแบรนด์ใหม่ ๆ ทำให้เรามีรถยนต์ครบทั้งแบบเครื่องยนต์สันดาปภายในและรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ในขณะเดียวกันการขยายตัวแทนจำหน่ายที่กระจายจุดขายและบริการหลังการขายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ จะเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างรากฐานที่มั่นคงในการทำตลาดระยะยาวในไทย” นายพิทยา กล่าว
นายพิทยา กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาเครือข่ายการจัดจำหน่ายและบริการหลังการขายว่าภายในปีนี้ บริษัทฯ จะขยายดีลเลอร์จากปัจจุบัน 15 แห่งครอบคลุมมากกว่า 30 จังหวัด มาเป็น 30 แห่งและสามารถครอบคลุมการขายและบริการหลังการขายได้ครอบคลุมมากกว่า 50 จังหวัดทั่วประเทศ นอกจากนี้ อีวี ไพรมัส ยังอยู่ระหว่างการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรเพิ่มเติมในด้านต่าง ๆ เพื่อเสริมความแข็งแรงและเสริมศักยภาพในการทำตลาดในประเทศไทยให้เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทฯ