“การจะเป็นรถที่ลูกค้าทั่วโลกไว้วางใจได้นั้นเราต้องเติมความเหนือชั้นให้ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่แบบรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ที่บึกบึน เสถียรภาพในการขับขี่ สมรรถนะเพื่อการเดินทางออฟโรด ขุมพลัง และประสบการณ์ขับขี่ในภาพรวม”
“ฟอร์ดมีความเชี่ยวชาญในรถกระบะ” เกรแฮม กล่าวเสริม “เราต้องการมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าในด้านสมรรถนะและประสิทธิภาพในการขับขี่ เพิ่มความไว้วางใจให้ฟอร์ดเป็นตัวเลือกของรถเพื่อการทำงาน และยังเป็นรถกระบะที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันมากที่สุด ด้วยรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวมากขึ้น เทคโนโลยีที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น และความสะดวกสบายที่เหนือชั้น”
ระบบส่งกำลังที่ตอบโจทย์การทำงาน การเป็นรถครอบครัว และการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน
ปรีติกา มหาราช ผู้จัดการโครงการฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ กล่าวว่า ไม่ว่าลูกค้าจะมองหารถที่ประหยัดน้ำมันให้ความสะดวกสบาย หรือใช้เพื่อบรรทุกสัมภาระเราเชื่อว่าเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังในรถฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่จะพร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรอบด้าน
ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่มาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบเดี่ยว และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียงที่ทรงประสิทธิภาพ
เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบเดี่ยวมาพร้อมตัวเลือก 2 แบบ คือ รุ่นที่ให้พละกำลัง 150PS ที่ 3,500 รอบต่อนาทีและแรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,750 รอบต่อนาที และรุ่นที่ให้กำลัง 170PS ที่ 3,500รอบต่อนาทีและแรงบิด 405 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที
ส่วนเครื่องยนต์เทอร์โบคู่2.0 ลิตรของฟอร์ด มอบพละกำลัง210PS ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที โดยเครื่องยนต์นี้ยังมีอยู่ในฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่เช่นเดียวกัน เครื่องยนต์ดังกล่าวมีระบบบายพาสที่ชาญฉลาด สามารถปรับการทำงานของเครื่องยนต์เพื่อมอบประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน กล่าวคือ เทอร์โบชาร์จ 2 ตัวจะทำงานร่วมกันที่รอบต่ำเพื่อเพิ่มกำลังแรงบิดและการตอบสนอง หรือปรับทำงานโดยไม่ผ่านเทอร์โบขนาดเล็ก เพื่อให้เทอร์โบขนาดใหญ่ส่งกำลังได้เต็มที่เมื่อต้องการ
“เรารู้ดีว่าลูกค้าจะใช้งานฟอร์ด เรนเจอร์ แบบสุดกำลังความสามารถของรถ เราจึงทดสอบรถด้วยวิธีเดียวกัน” ปริติกา กล่าว “เราเริ่มจากการนำรถไปทดสอบหลายแบบบนเครื่องไดนาโมมิเตอร์ ทั้งการบรรทุกน้ำหนักสูงสุด ความทนทานต่ออุณหภูมิไปจนถึงการใช้งานเครื่องยนต์อย่างเต็มพิกัด จากนั้นเราจึงนำรถไปทดสอบในประเทศที่มีอากาศหนาวจัดอย่างยุโรปและนิวซีแลนด์ รวมถึงในเขตร้อนชื้นแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
“เราได้จำลองการใช้งานขั้นสุดของลูกค้าโดยติดเครื่องยนต์และเร่งความเร็วสูงสุดไว้นานกว่า 700 ชั่วโมงต่อเนื่อง เทียบได้กับการเหยียบคันเร่งจนมิดวิ่งวนรอบโลก6 รอบ และเรายังทดสอบในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิตั้งแต่ -40 ไปจนถึง50 องศาเซลเซียส” ปรีติกากล่าว
ระบบเกียร์ในฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ มาพร้อมตัวเลือกเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบเดียวกับที่ใช้ในฟอร์ด F-150 และฟอร์ด F-150 แร็พเตอร์ซึ่งได้รับการทดสอบมามากกว่า6 ล้านกิโลเมตรและยังใช้การแข่งออฟโรดระยะทางกว่า 3,900 กิโลเมตรซึ่งในการทดสอบนั้นยังรวมถึงการแข่งขัน Baja 1000ด้วย โดยระบบเกียร์ดังกล่าวนี้มีในรถฟอร์ดที่มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร ทั้งในเรนเจอร์ และเอเวอเรสต์
นอกเหนือจากเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ซึ่งมีอยู่ในเรนเจอร์รุ่นปัจจุบัน ฟอร์ด เรนเจอร์เจเนอเรชันใหม่ ยังมาพร้อมตัวเลือกใหม่ ได้แก่ เกียร์ธรรมดา 5 สปีดและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่จับคู่กับเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบเดี่ยว