สตุ๊ทการ์ท. ปอร์เช่ยังคงรักษาระดับการส่งมอบรถยนต์ใหม่ได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรกของ 2022 ในท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทาย โดยภาพรวมของบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตชื่อดังระดังโลกมีตัวเลขจำนวนยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่ให้แก่ลูกค้าทั่วทุกมุมโลก 145,860 คัน ในระหว่างเดือนมกราคม ถึงเดือนมิถุนายน แต่คิดเป็นสัดส่วนลดลง 5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า โดย Detlev von Platen สมาชิกคณะกรรมมการบริหาร ผู้กำกับดูแลส่วนงานขาย และการตลาด ของ Porsche AG กล่าวว่า “ถือได้ว่าบริษัท และผู้จัดจำหน่ายต่างประสบความสำเร็จในการดำเนินงานช่วงครึ่งแรกของปี แต่ด้วยภายใต้ปัจจัยภายนอก และความไม่แน่นอน รวมไปถึงความยากลำบากที่เกิดขึ้นจากการกลับมาแพร่ระบาดอีกระลอกของ COVID ทั้งในประเทศจีน และตลาดอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อ supply-chain และการขนส่งที่เกี่ยวข้องกับเรา ในขณะที่ความต้องการ รวมทั้งความนิยมในผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของเรายังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง เราหวังว่าในครึ่งปีหลังจะสามารถรักษาแนวโน้มที่ดีเอาไว้ได้ เช่นเดียวกับเมื่อปีที่แล้ว เราเล็งเห็นถึงอนาคตที่สดใส และตัดสินใจเดินหน้าเต็มกำลังสำหรับระยะเวลาที่เหลืออยู่ในปีนี้”
อัตราการเติบโตในเยอรมนี และทวีปยุโรป
สถานการณ์ของตลาดทั่วโลกในระยะเวลาครึ่งปีแรกเต็มไปด้วยความหลากหลาย รวมไปถึงยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่ที่แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค และสภาวะตลาด โดยในทวีปยุโรป มีจำนวนยอดส่งมอบเพิ่มขึ้นเป็น 43,087 คัน หรือคิดเป็นสัดส่วนสูงขึ้น 7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นับเป็นผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยม เช่นเดียวกับตลาดในประเทศบ้านเกิดอย่างเยอรมนี มีรถยนต์ปอร์เช่ 13,785 คันที่ถูกจำหน่ายใน 6 เดือนแรกของปี 2022 หรือคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว สำหรับในประเทศจีน ปอร์เช่ทำยอดส่งมอบได้ 40,681 คัน แม้ว่าจะเกิดการ lockdowns เป็นระยะเวลาหลายเดือนในหัวเมืองใหญ่บางแห่ง ส่งผลให้ตัวเลขยอดส่งมอบปรับตัวลดลงตลอดครึ่งปีแรก คิดเป็นอัตราส่วนถึง 16 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า และเมื่อพิจารณาในแง่มุมของตลาดรถยนต์ระดับ premium/luxury ที่หดตัวลงในประเทศจีน (ลดลง 23 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงเดือนพฤษภาคม) แต่อย่างไรก็ตามบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตสัญชาติเยอรมนียังคงมีผลงานที่น่าประทับใจในตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของปอร์เช่
รถยนต์ปอร์เช่รวม 62,245 คัน ได้รับการส่งถึงมือลูกค้าในภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก แอฟริกา และตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ Porsche Asia Pacific กำกับดูแลอยู่ คิดเป็นอัตราส่วนยอดส่งมอบที่ลดลง 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปีที่แล้ว
ในประเทศสหรัฐอเมริกา ปอร์เช่มียอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ 32,529 คัน ถึงแม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยุ่งยากในส่วนของการขนส่ง และการส่งมอบรถมีตัวเลขลดลงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับผลงานของปีที่แล้ว ซึ่งนับว่าเป็นสถิติที่ดีที่สุดในช่วงครึ่งปีแรกเท่าที่เคยมีมา
ปอร์เช่ คาเยนน์ (Cayenne) ยังคงได้รับความนิยมสูงสุด
จากความต้องการที่ติดอันดับสูงอยู่ตลอดเวลาของรถยนต์สปอร์ต SUV ยังคงไม่เสื่อมคลายมีลูกค้ากว่า 41,947 ราย ตัดสินใจเป็นเจ้าของปอร์เช่ คาเยนน์ (Cayenne) เป็นอันดับ 1 ตามมาด้วยอันดับ 2 คือปอร์เช่ มาคันน์ (Macan) ด้วยตัวเลขยอดส่งมอบ 38,039 คัน สำหรับยนตกรรมสปอร์ตระดับตำนาน ปอร์เช่ 911 มียอดส่งมอบถึงมือลูกค้าทั่วโลก 21,616 คัน และปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) ทำยอดจำหน่ายได้ที่ 18,877 คัน ถึงแม้กำลังการผลิตจะมีข้อจำกัดอันเกิดจากสถานการณ์ขาดแคลนวัตถุดิบ จนกระทั่งส่งผลกระทบบางส่วนต่อรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าของปอร์เช่รุ่นนี้ก็ตาม ทางด้านปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) มีตัวเลขยอดส่งมอบที่ 15,604 คัน ขณะที่ปอร์เช่ 718 บ๊อกสเตอร์ (718 Boxster) และ 718 เคย์แมน (718 Cayman) มีลูกค้ารับไปครอบครองถึง 9,777 คัน
“เรากำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 ด้วยพลัง และความคาดหวังเต็มพิกัด นอกเหนือจากยอดส่งมอบ เรายังมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ในแบรนด์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครให้แก่ลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่อง” Detlev von Platen กล่าวเสริมทิ้งท้าย
Porsche AG ยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่
|
มกราคม – มิถุนายน
|
2021
|
2022
|
อัตราการเติบโต
|
ทั่วโลก
|
153,656
|
145,860
|
-5%
|
ทวีปยุโรป
|
40,435
|
43,087
|
+7%
|
ประเทศเยอรมนี
|
13,094
|
13,785
|
+5%
|
ทวีปอเมริกา
|
44,023
|
40,528
|
-8%
|
ประเทศสหรัฐอเมริกา
|
36,326
|
32,529
|
-10%
|
เอเชีย-แปซิฟิก แอฟริกา และตะวันออกกลาง
|
69,198
|
62,245
|
-10%
|
ประเทศจีน
|
48,654
|
40,681
|
-16%
|
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม ภาพยนตร์ และภาพถ่าย ได้ที่ Porsche Newsroom: newsroom.porsche.com
Porsche Asia Pacific1 กำกับดูแล 13 ประเทศในภูมิภาค ประกอบด้วย: บรูไน, กัมพูชา, เฟรนช์ โปลีนีเซีย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, มองโกเลีย, นิว แคลิโดเนีย, นิวซีแลนด์, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ศรีลังกา, ไทย และเวียดนาม