นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย กล่าวว่า จากการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ โมโตจีพี เป็นปีที่ 3 โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้ดำเนินการ ประกอบไปด้วย คณะทำงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่ทำงานร่วมกันอย่างหนัก รวมทั้งความร่วมมือจากภายในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียง ขณะนี้ทุกฝ่ายเร่งเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ เพื่อผลักดันให้งานกีฬาระดับ World Event สร้างความสุขความประทับใจให้กับคนทั่วโลกอีกครั้ง และด้วยฝีมือคนไทยเชื่อว่างานในปีนี้จะยิ่งใหญ่ ยังคงได้รับการยอมรับว่าเป็นโมโตจีพีที่ดีที่สุด สามารถครองใจผู้ชมสูงสุดและรักษาแชมป์สนามที่มีผู้ชมมากที่สุดได้อีกครั้ง
“ในนามของการกีฬาแห่งประเทศไทย ผมขอขอบคุณทุกท่านในความร่วมมือในการจัดกรังด์ปรีซ์ อันดับหนึ่งของโลกบนผืนแผ่นดินไทย ภายใต้ชื่อ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์” ระหว่างวันที่ 30 กันยายน - 2 ตุลาคม 2565 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ถือเป็นอีเวนท์กีฬาระดับโลกงานแรกของประเทศไทยหลังจาก 2 ปีที่ประเทศต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องโควิด-19 จะเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะช่วยให้กระตุ้นให้เศรษฐกิจประเทศไทยกลับมาฟื้นตัว ทั้งยังสร้างประวัติศาสตร์งานระดับโลกฝีมือคนไทย สร้างภาพจดจำให้กับชาวโลกอีกด้วย”
“จากการจัดการแข่งขันในปี 2018 และ 2019 สร้างรายได้เข้าประเทศจำนวนมหาศาล ต้องยอมรับว่ามาตรฐานการจัดการแข่งขัน 2 ครั้งที่ผ่านมา ประเทศไทยเราทำได้อย่างไร้ที่ติ ดังนั้นการจะยกระดับให้ได้ดีกว่าครั้งก่อนๆ จึงเป็นโจทย์ที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อสร้างสิ่งที่ดีที่สุดให้ประเทศไทยสู่สายตาชาวโลก” นายทนุเกียรติ กล่าว
ทั้งนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทยร่วมมือกับทุกภาคส่วนจัดเตรียมความพร้อมเอาไว้ในทุกๆมิติ นอกจากการแข่งขันที่สนุก เข้มข้น เร้าใจแล้ว ยังมีสีสันความบันเทิงในงาน อย่างเช่น มวยไทยวิถีอิสานใต้ และการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง การแสดงศิลปะวัฒนธรรม และการจำหน่ายสินค้าที่ระลึกในงาน โดยการนำสินค้าของดีบุรีรัมย์ในแต่ละท้องถิ่นมาออกร้าน นอกจากนี้ยังมีโซนกิจกรรม “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ เอ็กซ์โป” จัดเต็มตลอดสุดสัปดาห์ ไปด้วยพาวิลเลียนขนาดยักษ์ กิจกรรมที่น่าสนใจจากภาครัฐและเอกชน, Meet & Greet นักบิดระดับโลกจากค่ายรถจักรยานยนต์ รวมทั้งร้านค้าต่างๆ มากกว่า 100 ร้าน
นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับจังหวัดบุรีรัมย์ในฐานะเจ้าบ้านที่ได้มีโอกาสจัดกีฬาระดับโลกเป็นปีที่ 3 นำเสียงสะท้อนมาปรับปรุงแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นจุดที่ดีต้องทำให้ดียิ่งขึ้น จุดที่บกพร่องจากประสบการณ์ที่เป็นเจ้าภาพถึง 2 ครั้งต้องได้รับการแก้ไข ส่วนในเรื่องการอำนวยความสะดวก ผู้ชม นักท่องเที่ยว มีบุคลากรเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว (Ask Me) ซึ่งเป็นอาสาสมัครกว่าพันคน มาจากนักศึกษา และประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงาน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ Gu เก็บ ที่มาคอยดูแลเรื่องความสะอาดในงาน การจัดงานครั้งนี้ จะเป็นแม่แบบ และสร้างความเชื่อมั่น ประกาศศักยภาพฝีมือการบริหารจัดการของคนไทยในการจัดแข่งขันกีฬาระดับสากลต่อไป
ผู้สนใจ สามารถซื้อบัตรชมการแข่งขันได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศและ www.allticket.com หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ Chang Circuit Buriram