สตุ๊ทการ์ท.การเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงเวลาครึ่งแรกของปี 2022 ปอร์เช่มีรายได้จากการขาย และผลกำไรจากการดำเนินงานของ Porsche AG ในระยะเวลา 6 เดือนแรกของปี มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ด้วยตัวเลข 17.92 พันล้านยูโร และ 3.48 พันล้านยูโรตามลำดับ ในส่วนของผลตอบแทนจากการขายช่วงครึ่งแรกของปี 2022 เพิ่มขึ้นเป็น 19.4 เปอร์เซ็นต์ จาก 16.9 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า โดยใน 6 เดือนแรกของปี 2021 ปอร์เช่มีรายได้จากการขายที่ 16.53 พันล้านยูโร และผลกำไรจากการดำเนินงานที่ 2.79 พันล้านยูโร แสดงให้เห็นถึงอัตราการเติบโตขึ้น 8.5 เปอร์เซ็นต์ในส่วนของรายได้ และ 24.6 เปอร์เซ็นต์ในส่วนของผลกำไร เป็นอีกครั้งที่ ปอร์เช่ บริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตซึ่งมีฐานบัญชาการตั้งอยู่ในสตุ๊ทการ์ท สามารถสร้างผลสำเร็จจากการดำเนินงานได้อย่างยอดเยี่ยม ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ในขณะเดียวกัน ปอร์เช่ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าต่อไปตามแนวทางกลยุทธ์เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน และสรรสร้างนิยามใหม่ให้กับ ยนตกรรมสปอร์ตหรูหราระดับพรีเมียม
Lutz Meschke รองประธาน และสมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผู้กำกับดูแลส่วนงานการเงิน และเทคโนโลยีสารสนเทศของ Porsche AG กล่าวว่า “เรามีความภูมิใจที่สามารถสร้างการเติบโตในส่วนของรายได้จากการขาย และยังทำกำไรได้ภายใต้สถานการณ์ของตลาดในสภาวะที่ยากลำบากเช่นนี้ แต่ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ด้วยความพยายามของทีมงาน ทั้งบุคลากร และผู้บริหาร โดยนับตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงมิถุนายน ปอร์เช่มียอดส่งมอบรถยนต์ใหม่ถึงมือลูกค้าทั่วโลกรวม 145,860 คัน (ช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วทำได้ที่ 153,656 คัน) และมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนจากการขายอยู่ที่ 19.4 เปอร์เซ็นต์ในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งปัจจัยสนับสนุนหลักคือความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ยานยนต์อันหลากหลาย และผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน รวมไปถึงองค์ประกอบทางธุรกิจอื่น ๆ
จากมุมมองของประสิทธิภาพการดำเนินงานในครึ่งแรกของปี 2022 Oliver Blume ประธานกรรมการบริหารของ Porsche AG มีความคิดเห็นเกี่ยวกับอนาคตว่า "ปอร์เช่ยึดมั่นในฐานะผู้ผลิตยนตกรรมสปอร์ต ที่มากพร้อมด้วยความหรูหราร่วมสมัย ด้วยหลักการดังกล่าว เรามองถึงสถานะของตนเองที่จะดำรงอยู่บนหัวแถวของอุตสาหกรรมยานยนต์" ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการศึกษา และทำนายถึงการเติบโตของธุรกิจรถยนต์สปอร์ตระดับพรีเมียม รถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ SUVs ระดับหรู ในระยะเวลาไม่กี่ปีข้างหน้า "เราเชื่อมั่นในสถานะภาพที่ดีเยี่ยมของปอร์เช่ในธุรกิจนี้ " Blume กล่าวต่อ "เรามั่นใจว่าเราก้าวล้ำนำหน้าผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์หรูรายอื่น ด้วยความแข็งแกร่งจากการมุ่งเน้นตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน เรามีวิสัยทัศน์แบบองค์รวมทั้งในเชิงของนิเวศวิทยา สังคม และการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เรามีความปรารถนาที่จะเป็นองค์กรปราศจากคาร์บอนให้ได้ภายในปี 2030
