สำหรับงานInclusive Growth Days empowered byORได้แบ่งพื้นที่การจัดงานออกเป็น 5 โซนหลักได้แก่1) Main Stage – The Prospect of Business Inspirationเพื่อเปิดเผยเรื่องราวอินไซต์และแรงบันดาลใจด้วยการบรรยายพิเศษและเวทีเสวนาใน23หัวข้อน่าสนใจจาก50ผู้ทรงคุณวุฒิผู้เชี่ยวชาญและนักธุรกิจชั้นนำในหลากหลายภาคอุตสาหกรรมของไทย2) Exhibition – The Prospect of Business Anglesนิทรรศการพิเศษที่จะเผยมุมมองทางธุรกิจของโออาร์ใน4ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการพลิกโฉมธุรกิจพลังงานและการเคลื่อนที่อย่างไร้รอยต่อ การตอบโจทย์ทางเลือกการใช้ชีวิตในอนาคตสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ การแสวงหาโอกาสในตลาดระดับโลกผ่านหลากหลายสูตรสำเร็จเพื่อการเติบโต และเรื่องของนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน 3) Showcase Area – The Prospect of Business Co-creationโชว์เคสผลิตภัณฑ์บริการและแพลตฟอร์มธุรกิจใหม่ๆที่พัฒนาจากเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิตในโลกยุคใหม่จากพันธมิตรของโออาร์เอสเอ็มอีและสตาร์ตอัป4)Ownership Center – The Prospect of Business and Goodness Integrationเปิดเส้นทางในการสร้างการเติบโตของธุรกิจควบคู่ไปกับการเติบโตของผู้คนและสิ่งแวดล้อม และ 5)Relationship Station – The Prospect of Business Partnership การ เปิดพื้นที่สำหรับธุรกิจต่างๆได้มีโอกาสมาพบกันสร้างความเป็นไปได้ในการร่วมเป็นพันธมิตรกับโออาร์และพาร์ทเนอร์ที่พร้อมจะเติบโตไปด้วยกัน
โดยในส่วนของ Main Stageนั้น ตลอด 3วันของการจัดงานมีผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้บริหารจากทั้งภาครัฐและเอกชนชั้นนำ เข้าร่วมเสวนาและการบรรยายกันอย่างคับคั่งในหลากหลายหัวข้อ ซึ่งภายใต้ธีมหลักของการเสวนาทั้ง5ธีมนั้น มีประเด็นการพูดคุยที่น่าสนใจมากมาย ได้แก่
ในธีม Inclusive Growth โออาร์ได้เปิดประเด็นเรื่องของความท้าทายในโลกธุรกิจยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะความเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจและสังคมที่ทำให้ธุรกิจต้องเปลี่ยนวิธีคิด การมุ่งสร้างผลกำไรเพียงอย่างเดียวเพื่อการเติบโตเพียงลำพัง ไม่สามารถทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้ในระยะยาวอีกต่อไป แต่ต้องมุ่งสู่การยกระดับระบบนิเวศเพื่อให้ทุกภาคส่วนเติบโตไปพร้อมกันพร้อมสร้างผลเชิงบวกโดยมีสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นเป้าหมาย กลายเป็นการเติบโตร่วมกันแบบ Inclusive ของผู้คนสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ในธีม Seamless Mobilityผู้บริหารองค์กรชั้นนำมากมายได้มาแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องอนาคตของการเคลื่อนที่อย่างไร้รอยต่อ โดยเฉพาะในประเด็นด้านยานยนต์ไฟฟ้าและการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานสะอาด เพราะการใช้พลังงานในปัจจุบันมีสัดส่วนการใช้เชื้อเชื้อเพลิงฟอสซิลค่อนข้างสูง จึงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และขยายวงกว้างไปจนถึงเรื่องอุบัติภัยต่าง ๆ ที่ไม่มีใครคาดคิด รวมทั้งมลพิษทางอากาศที่ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปจนถึงคนรุ่นหลัง การเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานไปสู่พลังงานที่สะอาดขึ้นอย่างไร้รอยต่อนั้นจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำพาความเปลี่ยนแปลงแบบ Inclusive มาช่วยสร้างการเติบโตร่วมกันกับผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนและมั่นคงซึ่งยานยนต์ไฟฟ้าจะเป็นปัจจัยสำคัญของการเปลี่ยนผ่านในครั้งนี้
ในธีม All Lifestyles โออาร์ เผยบทเรียนแห่งความสำเร็จพร้อมทั้งอินไซต์จากเหล่านักธุรกิจผู้คร่ำหวอดในวงการธุรกิจไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ตั้งแต่อาหาร สุขภาพ บิวตี้ และ wellness ที่มาร่วมพูดคุยกันในหลากหลายประเด็นที่น่าสนใจ เช่น การบอกเล่าเรื่องราวของ “รสชาติแห่งความสุข” ในมุมมองของฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเค เรสโตรองท์ กรุ๊ป ที่เลือกทำธุรกิจอาหารด้วยพื้นฐานของการมอบความสุขให้กับลูกค้าในทุก ๆ รายละเอียดของการทำงาน หรือ ฐิติพัฒน์ ศุภภัทรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธัญ-ออริซ่า จำกัด เจ้าของแบรนด์ THANN ที่เปิดประเด็นเรื่อง wellness ที่เป็นมากกว่าเรื่องของการดูแลสุขภาพ แต่เป็นเรื่องของสภาวะที่ร่างกายและจิตใจ ไม่เจ็บ ไม่ป่วย สุขภาพชีวิตสมดุล และใช้ชีวิตได้อย่างมีความหมาย ฯลฯ นี่คือตัวอย่างความสำเร็จที่ผู้บริหารแถวหน้าถ่ายทอดออกมาเป็นบทเรียนให้เราได้ฟังกัน
ในธีม Global Marketเป็นเรื่องของการแชร์ประสบการณ์จากเหล่าผู้บริหารในองค์กรชั้นนำมากมายที่สามารถนำพาธุรกิจไทยไปไกลสู่ตลาดโลกได้สำเร็จ โดยเราได้ฟังบทเรียนที่น่าสนใจจากหลากวงการ เช่น เส้นทางการเติบโตในวงการแฟชั่นเทคโนโลยีของแบรนด์ “โพเมโล” ที่ก้าวสู่การเป็นธุรกิจแบบ omnichannel อย่างเต็มตัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เส้นทางการเติบโตต่อยอดไปได้ไกลทั่วโลกด้วยความมุ่งมั่นที่จะตอบเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นของกลุ่มดุสิตว่าจะต้องสร้างแบรนด์โรงแรมของไทยให้เป็นที่รู้จักด้วยมาตรฐานสากล รวมไปถึงความกล้าที่จะไปเปิดตลาดในต่างประเทศของ โออาร์ พร้อมกับน้อมรับความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่จะต้องไปพบเจออย่างแน่นอนในต่างประเทศ ตลอดจนการลองคิดใหม่ทำใหม่จนเกิดเป็นสิ่งใหม่ที่สอดรับกับความต้องการของลูกค้าในประเทศนั้น ๆ ฯลฯ
และในธีม New Innovationซึ่ง โออาร์ พร้อมผลักดัน New Innovation หรือแนวคิดใหม่ของการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสังคมโลกที่ยั่งยืน และส่งเสริมให้ธุรกิจสามารถก้าวสู่มิติใหม่สร้างตลาดใหม่และกลายเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาความยั่งยืนได้ในอนาคต โดยถอดบทเรียนจากผู้บริหารชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นคมสันต์ลีประธานกรรมการบริหารกลุ่มธุรกิจแฟลชที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์กว่าจะเป็นยูนิคอร์นตัวแรกของเมืองไทยที่ไม่ลืมความมุ่งมั่นในการช่วยลดความเหลื่อมล้ำระหว่างสังคมเมืองและสังคมชนบท หรือสมศักดิ์บุญคำผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารLocal Alike ซึ่งเปิดมุมมองใหม่ด้านการท่องเที่ยวที่ต้องทำงานร่วมกับชุมชนและสร้างแรงจูงใจให้ผู้คนในชุมชนอยากพัฒนาต่อ โดยใช้นวัตกรรมเป็นเครื่องมือผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีในชุมชนและสังคมในวงกว้าง ฯลฯ
ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของความสำเร็จในการจัดงานInclusive Growth Days empowered by OR ที่ผู้เข้าร่วมงานทุกคนได้เก็บเกี่ยวความประทับใจกลับไปตลอด 3 วันเต็ม