จำนวนผู้เข้าชม : 423 ครั้ง
End Page
 
 
“พีทีจี” เร่งขยายสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ

“พีทีจี” คาดปี 56 เตรียมขยายสาขาเพิ่ม 155 สาขาทั่วประเทศ พร้อมปรับปรุงภาพลักษณ์ใหม่ เผยงบปี 55 ยอดขายโต 50% จากการเพิ่มสถานีบริการน้ำมันและรถบรรทุกน้ำมันที่เพิ่มขึ้น




 นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันพีที เปิดเผยว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2556 นี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะเพิ่มสถานีบริการน้ำมัน และปรับปรุงภาพลักษณ์ใหม่ รวมถึงการเพิ่มปริมาณรถบรรทุกน้ำมันให้มากขึ้น โดยบริษัทฯ จะเพิ่มจำนวนสถานีบริการน้ำมัน PT ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศซึ่งจะเพิ่มจำนวนสถานีบริการน้ำมัน PT ทั้งในส่วนของสถานีบริการน้ำมันที่เป็นของบริษัทและบริหารงานโดยบริษัท (สถานีบริการน้ำมัน COCO) และสถานีบริการน้ำมันที่เป็นของตัวแทนจำหน่ายน้ำมันของบริษัท (สถานีบริการน้ำมัน DODO)
          โดยสิ้นสุดปี 2555 บริษัทฯ มีสถานีบริการน้ำมันทั้งหมดรวม 574 สาขา โดยแบ่งเป็นสถานีบริการน้ำมัน COCO จำนวน 397 สาขา และสถานีบริการน้ำมัน DODO จำนวน 177 สาขา ปัจจุบันบริษัทฯ มีสถานีบริการน้ำมัน COCO มากที่สุดเป็นอันดับ 1 และมีแผนขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยในปี 2556 บริษัทฯ มีแผนขยายสาขารวม 155 สาขา โดยจะเน้นลงทุนในสถานีบริการน้ำมัน COCO เป็นหลัก ซึ่งตั้งเป้าขยายสาขาประมาณ 130 สาขาในปีนี้และเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 100 สาขาใน 5 ปีข้างหน้า  ในส่วนของสถานีบริการน้ำมัน DODO คาดว่าจะเพิ่มเฉลี่ยประมาณ 25 สาขา   โดยประเมินว่าบริษัทฯ จะมีสถานีบริการน้ำมัน COCO ประมาณ 527 สาขา และสถานีบริการน้ำมัน DODO ประมาณ 202 สาขา
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนเพิ่มจำนวนรถบรรทุกน้ำมันเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และรองรับปริมาณการขนส่งน้ำมันที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคตจากการลงทุนขยายเพิ่มสถานีบริการน้ำมันและการเติบโตของธุรกิจค้าส่งน้ำมันเชื้อเพลิง โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะซื้อรถสิบล้อบรรทุกน้ำมันและรถพ่วงบรรทุกน้ำมันในช่วง 5 ปี ข้างหน้า เฉลี่ยปีละประมาณ 30 คัน และประมาณ 50 คัน ตามลำดับ




นอกจากนี้ ในส่วนของด้านการบริการ บริษัทฯ มีแผนลงทุนร้านกาแฟสดในสถานีบริการน้ำมัน PT โดยใช้ชื่อร้านกาแฟว่า “กาแฟพันธุ์ไทย” เพื่อช่วยตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการภายในสถานี ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ มีแผนจะขยายสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทยรวมถึงลงทุนเพิ่มจำนวนร้านสะดวกซื้อ คือ ร้านแมกซ์มาร์ท ภายในสถานีบริการน้ำมัน PT ประมาณ 20 สาขา
    นายพิทักษ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการขยายสาขาสถานีบริการน้ำมันในปีนี้ อาจจะมุ่งเน้นขยายไปยังภาคอีสานมากขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ มองเห็นช่องทางในการเติบโต เพราะในภาคอีสานมีความต้องการใช้น้ำมันสูงสุดเมื่อเทียบกับภาคอื่นๆ และเป็นการขยายโอกาสไปยังผู้ใช้บริการเพื่อให้มีสถานีบริการน้ำมันที่ทันสมัยและครอบคลุมทั่วประเทศ อีกทั้งต้องการให้สถานีบริการน้ำมันพีทีเป็นที่รู้จักและอยู่ในใจของผู้ใช้บริการด้วยภาพลักษณ์ที่ทันสมัยและบริการที่ดีเยี่ยม
นางศรัณยา กระแสเศียร กรรมการบริหาร บริษัท เซจ แคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า  สำหรับการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ของพีทีจีนั้น อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)  และเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนคาดว่าจะนำมาใช้ในส่วนของการขยายสถานีบริการน้ำมัน COCO และ DODO การซื้อรถสิบล้อบรรทุกน้ำมันและรถพ่วงบรรทุก รวมถึงการเปิดร้านกาแฟพันธุ์ไทย และขยายสาขาร้านแมกซ์มาร์ท อีกทั้งบริษัทฯ มีแผนการลงทุนเพื่อปรับปรุงภาพลักษณ์ของสถานีบริการน้ำมัน PT และการปรับปรุงพัฒนาซอฟท์แวร์




อย่างไรก็ดี ในส่วนของผลการดำเนินงานปี 2555 สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2555 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าและให้บริการ 41,723.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13,906.97 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 359.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 133.57 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 59% ซึ่งมาจากการขยายสาขาสถานีน้ำมันบริการที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเพิ่มปริมาณรถบรรทุกน้ำมันเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและการขยายตัวไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น  
    นายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย เปิดเผยว่า  ความน่าสนใจของพีทีจีนั้นอยู่ที่ บริษัทฯ มีสถานีบริการน้ำมัน COCO เป็นจำนวนมากซึ่งทำให้บริษัทฯ สามารถควบคุมการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับบริษัทฯ มีกลยุทธ์สำคัญที่เรียกว่า “ป่าล้อมเมือง” คือ สถานีบริการน้ำมันส่วนใหญ่ของพีทีจีจะกระจายอยู่ตามต่างจังหวัด และถนนสายรองซึ่งมีคู่แข่งน้อย  
    ในด้านของนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ปี 2556 อุตสาหกรรมจำหน่ายน้ำมันจะมีอัตราการเติบโต 7 – 8% ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) 1.5 เท่า จากคาดการณ์ประมาณ 4.8% การเติบโตที่สูงกว่าการเติบโตโดยรวมนั้นส่วนหนึ่งได้รับอานิสงส์มาจากนโยบายรถคันแรก ซึ่งมีการใช้สิทธิอย่างล้นหลามกว่าล้านคัน ส่งผลต่อความต้องการใช้น้ำมันในอนาคตซึ่งน่าจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้ใช้ที่มากขึ้น



ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : รถ weekly  
 ผู้บันทึก : รักษ์ชนม์ จิตระทาน
date : [ 25 มี.ค 2556 ]
 


 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

ข่าวสารยานยนต์

error=select * from newtopic order by q_id desc