นายอดิศร กำเนิดศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมเป็นประธานในพิธีส่งมอบถนนต้นแบบแห่งความปลอดภัย โครงการถนนแห่งรอยยิ้ม แก่เทศบาลนครเชียงใหม่ โดยมี นายณัฐฐ์ชูเดช วิริยดิลกธรรม รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ พล.ต.ต.เกษมสันต์ บุญญกาญจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าในจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยเครือข่ายความปลอดภัยบนท้องถนน ร่วมเป็นสักขีพยานในการส่งมอบ โครงการปรับปรุงถนนให้ปลอดภัยใน 5 ภูมิภาคของประเทศไทย โดยถนนแห่งรอยยิ้ม จ.เชียงใหม่ ถือเป็นแห่งที่ 2
โครงการ ถนนแห่งรอยยิ้ม หรือ Smiling Road เป็นหนึ่งในกิจกรรมครบรอบ 50 ปีโตโยต้า ที่ร่วมส่งความสุข สร้างรอยยิ้มให้แก่คนไทย ภายใต้แนวคิด 'ถนนต้นแบบที่มีความปลอดภัย ผสานด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับชุมชน' หรือ Eco Safety Road เป็นการดำเนินงานภายใต้เครือข่ายถนนสีขาว และเครือข่ายเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ใน 5 ภูมิภาค 5 เส้นทาง 5 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี เชียงใหม่ ชุมพร ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ
สำหรับการส่งมอบโครงการ ถนนแห่งรอยยิ้มแห่งที่ 2 ในภาคเหนือ คือ บริเวณหน้าสนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ 4 แยกมีปริมาณการใช้รถใช้ถนนค่อนข้างมาก ไม่มีสัญญาณไฟจราจร มีวงเวียนซึ่งการจัดวางยังไม่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรมจราจร ก่อให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ดังนั้นโครงการถนนแห่งรอยยิ้มจากความร่วมมือของภาคีเครือข่าย รวมถึงหน่วยงานท้องถิ่นและชุมชน ได้ดำเนินการปรับปรุงถนนและเส้นทางจราจร ภายใต้หลักการทางวิศวกรรมจราจรความปลอดภัยทางถนน ผนวกกับการปรับปรุงภูมิสถาปัตย์และสิ่งแวดล้อม ให้เหมาะสมกับพื้นที่และเกิดประโยชน์สูงสุด
งานนี้ได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายในท้องถิ่น ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ สถานีตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ คณะทำงานสนับสนุนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุจราจรทางถนนในระดับจังหวัด สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานทางหลวงและสำนักงานทางหลวงชนบท สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ และผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั้ง 3 แห่ง คือ บริษัท โตโยต้า เชียงใหม่ จำกัด, บริษัท โตโยต้า ล้านนา จำกัด และ บริษัท โตโยต้านครพิงค์ เชียงใหม่ จำกัด โดยถนนแห่งรอยยิ้มแห่งที่ 2 ประกอบไปด้วย:
ด้านความปลอดภัยทางถนน
ปรับรูปแบบของวงเวียน ให้เหมาะสมและรองรับเส้นทางการเดินรถ ช่วยลดความเร็วของผู้ใช้รถ ทำให้เกิดความคล่องตัว สะดวก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ติดตั้งป้ายจราจรและตีเส้นจราจร พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎจราจร เพื่อให้คนในชุมชนรู้จักวินัยในการใช้รถใช้ถนน รวมถึงความมีน้ำใจให้กับคนเดินเท้าและผู้ใช้รถด้วยกัน
ติดตั้งกล้องวงจรปิด (Closed Circuit Television: CCTV) เพื่อสอดส่องดูแลความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน
ติดตั้งเสายางล้มลุกบริเวณเกาะกลางถนน เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ชัดเจน เกิดความระมัดระวังมากขึ้น ทำให้ชะลอความเร็วลง
ด้านสิ่งแวดล้อม
วัสดุในการก่อสร้าง เลือกใช้วัสดุรีไซเคิล และมีจำหน่ายในท้องถิ่น เพื่อลดมลพิษจากการขนย้าย รวมทั้งวัสดุที่ใช้ในการตกแต่ง เลือกเป็น 'อิฐดินเผา' ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าวัสดุอื่นๆ
การเลือกใช้สี Photo Catalytic ซึ่งจะช่วยดูดอากาศเสียเปลี่ยนเป็นอากาศดี โดยการช่วยปล่อยก๊าซอ๊อกซิเจน ช่วยให้ชุมชนได้รับอากาศที่ดี
การปลูกต้นไม้ภายในวงเวียนและรอบโครงการ เพื่อดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตามหลักการของ ดร.อาคิระ มิยาวากิ โดยจะเลือกพันธุ์ไม้ท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยให้การเจริญเติบโตเร็ว ดูแลง่าย และมีความทนทานต่อสภาพภูมิอากาศ เช่น ต้นกัญชง ต้นชาข่อย เป็นพืชบำบัดมลพิษที่ดี และเป็นพืชที่เติบโตได้ดีในภาคเหนือ
แผงโซล่าเซลล์ แหล่งพลังงานสะอาดเพื่อผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ที่ยั่งยืน โดยผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับการใช้ไฟภายในวงเวียน
การส่งเสริมให้เกิดชุมชนที่ยั่งยืนโดยรอบถนนแห่งรอยยิ้มนั้น ได้มีการให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการ ทั้งการสื่อสาร และเสนอความคิดเห็นในการปรับปรุงถนนและรูปแบบของวงเวียน การร่วมปลูกต้นไม้ในชุมชุน การนำวัสดุอุปกรณ์หรือสัญลักษณ์ประจำท้องถิ่น มาเป็นส่วนหนึ่งในการก่อสร้างวงเวียน และพื้นที่โดยรอบของถนน เพื่อสร้างความเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันดูแลรักษาของคนในชุมชน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเทศบาลนครเชียงใหม่เป็นอย่างดี ในการตรวจสอบการทำงานของแผงโซล่าเซลล์ ดูแลระดับความสูง หรือแนวการขึ้นของต้นไม้ไม่ให้บดบังป้ายจราจร หรือทัศนวิสัยของการขับขี่ เพื่อให้ถนนแห่งรอยยิ้มอยู่คู่กับชาวเชียงใหม่อย่างยั่งยืน และเป็นแบบอย่างของถนนแห่งความปลอดภัย ที่ผสานไปด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับชุมชน ก่อให้เกิดระบบการปฏิบัติงาน และการจัดการที่ดีในระดับภูมิภาค และเพื่อขยายไปสู่การทำงานในระดับจังหวัดครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนน