19 เรื่องห้ามพลาด เช็คให้ดีก่อนหยุดยาวเที่ยวปีใหม่

พอใกล้หยุดยาวมัวแต่คิดวางแผนเรื่องการเดินทาง จนลืมเรื่องความปลอดภัยของที่พักอาศัย Sanook! Home ห่วงใยในความปลอดภัยของ “บ้าน” และทรัพย์สินของพวกคุณ จึงรวบรวมเรื่องสำคัญที่อยากแนะนำให้คุณเช็คลิสก่อนก้าวขาออกจากประตูบ้านเพื่อคุณจะได้ไปพักผ่อนแบบไร้กังวล


1.ประตู ตรวจเช็คสภาพว่าประตูบ้านมีจุดชำรุด เสียหายตรงไหนหรือเปล่า โดยเฉพาะบริเวณกลอน ลูกบิด บานพับ เพราะมันอาจทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีใช้จุดเสียหายของประตูเข้ามาภายในบ้านได้ อย่างง่ายดาย รวมถึงคุณควรมีระบบล็อค ป้องกันอันตรายจากการโจรกรรมด้วย


2.หน้าต่าง ตรวจตาข่าย มุ้งลวด เหล็กดัด หรืออุปกรณ์ป้องกันตรงบริเวณหน้าต่างว่ามีจุดใดชำรุดหรือเสียหาย หากพบการชำรุดให้รีบซ่อมและแก้ไขโดยด่วน


3.ระบบล็อค ก่อนทิ้งบ้านไปหลายๆ วันต้องตรวจเช็คให้แน่ใจว่ากุญแจ แม่กุญแจ ฯลฯ ยังคงใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.กุญแจ ก่อนจะทิ้งบ้านไปต่างจังหวัดคุณต้องนำกุญแจติดตัวไปด้วย แต่เพื่อป้องกันความผิดพลาดคุณอาจนำกุญแจสำรองฝากไว้กับเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ ที่สำคัญอย่าวางกุญแจทิ้งไว้นอกบ้านไม่ว่าจะเป็นในกระถางต้นไม้ หรือตู้จดหมาย เพราะโจรอาจรู้ทัน


5.ระบบไฟฟ้า หากคุณไม่อยู่บ้านติดต่อกันหลายๆ วัน ควรตรวจตราปลั๊กไฟ เต้าเสียบไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่คุณชอบลืมเสียบทิ้งไว้หลังการใช้งาน เพราะคุณควรดึงปลั๊กออกให้เรียบร้อยทุกครั้ง


6.ระบบแก๊ส ตรวจสอบและปิดวาล์วแก๊สในห้องครัวให้เรียบร้อย พร้อมตรวจเช็คว่าไม่มีการรั่วไหล


7.ระบบน้ำ ตรวจสอบระบบน้ำ ปิดปั๊มน้ำหรือวาล์วน้ำ ก๊อกน้ำ รวมถึงจุดเชื่อมต่อระบบน้ำภายในบ้านให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในเรื่องระบบน้ำจนลุกลามกลายเป็นน้ำท่วมนองบ้านเมื่อเรากลับมาถึง


8.เคลียร์ตู้เย็นให้เอี่ยมอ่อง เมื่อเราไม่อยู่บ้านหลายๆ วัน อาหารสดในตู้เย็นก็จะกลายเป็นขยะดีๆ นี่เอง ดังนั้นควรนำของสดมาปรุงให้เรียบร้อย และวันที่คุณเดินทางไปต่างจังหวัดให้ดึงปลั๊กตู้เย็นออก เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร หรือไฟช็อตตอนเราไม่อยู่บ้าน

9.สะสางเสื้อผ้าให้สะอาด ไม่ควรกองเสื้อผ้าที่ใส่มาตลอดทั้งสัปดาห์ไว้ในตะกร้า เพราะนั่นคือจุดรวมของเชื้อโรค รวมทั้งกลิ่นเหม็นอับต่างๆ ด้วย


10.ให้อาหารสัตว์เลี้ยง ก่อนอื่นติดต่อหาสถานที่รับฝากสัตว์เลี้ยง หรือจะฝากเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เดินทางไปไหนและมีเวลาดูแลสัตว์ของคุณ หรือจะเป็นศูนย์รับดูแลสัตว์เลี้ยง แต่หากคุณไม่สามารถฝากใครได้เลย ก็ควรเตรียมอาหาร น้ำดื่ม ไว้ให้พวกมัน


11.ทิ้งขยะ ก่อนเดินทางไปต่างจังหวัดควรเทขยะทุกใบในบ้านทิ้งให้เรียบร้อย จากนั้นล้างและทำความสะอาดคว่ำไว้ เพราะหากคุณปล่อยให้ถังขยะในบ้านเต็มมันก็จะอบอวลไปด้วยกลิ่นขยะอย่างแน่นอน


12.เก็บของมีค่าไว้ในที่ปลอดภัย ก่อนออกจากบ้านไปหลายๆ วันควรนำของมีค่าและเอกสารสำคัญเก็บไว้ในที่ปลอดภัย และมีกุญแจล็อคอย่างเรียบร้อย บ้านไหนมีตู้เซฟก็เก็บของมีค่าเหล่านั้นไว้ในตู้เซฟ แต่ถ้าไม่มั่นใจจะนำของมีค่าและเอกสารเหล่านั้นไปฝากไว้ที่ธนาคารก็ได้


13.ตรวจสอบสัญญาณกันขโมย หากที่บ้านติดสัญญาณกันขโมย กล้องวงจรปิด คุณควรตรวจเช็คว่ามันยังสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนเดิมหรือไม่ โดยคุณอาจเชื่อมสัญญาณจากกล้องวงจรปิดต่อตรงกับสมาร์ทโฟนของคุณ ซึ่งจะทำให้คุณเห็นความเคลื่อนไหวภายในบ้านตลอดเวลา


14.ของนอกบ้านก็ต้องระมัดระวัง มีของบางชิ้นที่เรานิยมวางไว้นอกบ้าน หากเป็นไปได้ควรเก็บสิ่งของที่เสี่ยงต่อการถูกขโมยไว้ในห้องเก็บของ หรือห้องที่สามารถล็อคได้ หรือหากคุณไม่มีห้องสำหรับเก็บสิ่งของเหล่านั้น ควรหาผ้าหรือพลาสติกคลุมให้มิดชิด รวมถึงไม่ควรวางของที่สามารถใช้งัดแงะประตูบ้านได้ไว้นอกบ้าน

15.ฝากบ้านไว้กับเพื่อนบ้าน ถ้าเขาไม่ได้เดินทางไปไหน คุณอาจเลือกฝากบ้านไว้กับเขาแทนก็ได้ แต่ควรเป็นเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้


16.ต้นไม้ คุณอาจรดน้ำให้ชุ่มก่อน หรือทำระบบให้น้ำอัตโนมัติ หลังจากคุณเดินทางกลับมาถึงบ้านแล้ว ต้นไม้ของคุณจะได้สดชื่นเช่นเดิม


17.ตัดแต่งต้นไม้ หากต้นไม้รอบบ้านคุณมีขนาดพุ่มใหญ่ ควรหาโอกาสตัดพุ่มไม้สูงใหญ่นั้นทิ้งเสีย เพราะหากกิ่งก้านของมันอาจกลายเป็นบันไดให้โจรปีนเข้าบ้านคุณ หรือโจรอาจซ่อนตัวในพุ่มไม้จนยากแก่การสังเกตเห็น


18.อย่าโพสหรือบอกใครว่าคุณไปเที่ยว ก่อนจะเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือระหว่างที่คุณไปเที่ยวไม่จำเป็นต้องโพสบอกว่าคุณไปเที่ยว หรือตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน เพราะอาจมีผู้ไม่หวังดีย่องเข้าบ้านคุณในตอนที่คุณไม่อยู่บ้านก็เป็นได้


19. เข้าร่วมโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ สำหรับการฝากบ้านไว้กับตำรวจในปีนี้จะเป็นการร่วมมือระหว่างเจ้าของบ้านกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากเจ้าของบ้านติดตั้งกล้องวงจรปิด จะเพิ่มความสะดวกในการตรวจเช็คความปลอดภัย เฝ้าระวังเหตุร้าย และความเคลื่อนไหวในกรณีที่มีเหตุการณ์ผิดปกติได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ เพื่อสามารถพูดคุยกับเจ้าของบ้านได้โดยตรง หากมีเหตุเกิดขึ้นกับบ้านที่เข้าร่วมโครงการ หัวหน้าหน่วยจะรีบดำเนินการตรวจสอบและปฏิบัติอย่างใกล้ชิด โดยโครงการนี้เริ่มต้นแล้วตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 3 มกราคม 2560 ประชาชนที่สนใจสามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่