นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 15 ส.ค.60 พบผู้ป่วยแล้ว 67,233 ราย เสียชีวิต 10 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ 15-24 ปี รองลงมา 10-14 ปี และ 25-34 ปี ตามลำดับ โดยจังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ระยอง กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ จันทบุรี และลำพูน ในสัปดาห์นี้ได้รับรายงานพบผู้ป่วยอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่เป็นกลุ่มก้อน 2 เหตุการณ์ในกรุงเทพมหานคร และที่จังหวัดตากมีผู้ป่วยสงสัยไข้หวัดใหญ่เสียชีวิต 2 ราย
ทั้งนี้ขอแนะนำประชาชนให้ดูแลตนเองโดย “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด" ปิด คือ ปิดปาก ปิดจมูกเมื่อมีอาการไอจามหรือใส่หน้ากากอนามัย ล้าง คือ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำ และสบู่ เลี่ยง คือ เลี่ยงการอยู่ใกล้กับผู้ที่มีอาการป่วย มีไข้ ไอ จาม และการอยู่ในพื้นที่แออัด หยุด คือ หยุดเรียน หยุดงาน หยุดทำกิจกรรมเมื่อมีอาการป่วย เพื่อให้หายป่วยได้เร็วขึ้นและไม่ไปแพร่เชื้อให้กับบุคคลอื่น ถ้ามีอาการไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอ มีน้ำมูก โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้มีโรคประจำตัวเช่น เบาหวาน หอบหืด โรคหัวใจ ผู้สูงอายุ เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี หญิงตั้งครรภ์และผู้ที่มีภาวะอ้วน ให้รีบพบแพทย์ ส่วนบุคคลทั่วไป ควรทานยาลดไข้ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
ทั้งนี้ ประชาชนทุกคนควรเอาใจใส่ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ดังนี้
1.ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่หากป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่จะมีอาการรุนแรง ได้แก่ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หญิงมีครรภ์ ผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ผู้มีภูมิต้านทานต่ำ และผู้มีโรคอ้วน ควรไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ กระทรวงสาธารณสุขจะให้วัคซีนฟรีแก่กลุ่มเสี่ยงดังกล่าวเป็นประจำทุกปี
2. ผู้ที่เป็นหวัด สวมหน้ากากอนามัยปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม ด้วยกระดาษทิชชู หรือแขนเสื้อของตนเองเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
3.ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ เช็ดทำความสะอาดพื้นผิว และสิ่งของที่มีคนสัมผัสบ่อยๆ ด้วยน้ำผงซักฟอกหรือน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป
4.หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้กับผู้ป่วย ในระยะ 1 เมตร และในพื้นที่ที่มีการระบาด ไม่ควรเข้าไปในสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรค เช่น สถานที่ที่มีผู้คนแออัดและอากาศถ่ายเทไม่สะดวกเป็นเวลานาน หากจำเป็นเข้าไปในสถานที่ดังกล่าวต้องป้องกันตนเองอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงควรสวมหน้ากากอนามัย