ข้อควรรู้ในการดูแลรถยนต์ที่รัก

รถweekly

รถใคร...ใครก็รัก. ถึงแม้ว่าทุกๆ 10,000 กิโลเมตร เราต้องนำรถไปตรวจสภาพก็ตาม แต่บางครั้งมันก็มิวายเกิดปัญหาระหว่างที่เราใช้ ดังนั้นถ้าเรามีวิธีดูแลรักษารถและหมั่นคอยตรวจสอบ บางปัญหาอาจจะไม่เกิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นการถนอมรถที่เรารักให้มีสภาพที่ดีด้วยค่ะ เพื่อความไม่ประมาท เราจึงมีวิธีการดูแลรักษารถเบื้องต้นแบบง่ายๆฉบับคนรักรถมาแนะนำกันค่ะ
1.การตรวจลมยาง ตรวจง่ายๆด้วยสายตาว่ามันอ่อนหรือเปล่า ดูทุกเส้นนะคะ เพราะถ้าลมยางของแต่ละล้อไม่เท่ากันจะมีผลต่อการทรงตัวของรถ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ และทำให้อายุของยางสั้นลง
2.ตรวจดูรอยหยดรั่วของน้ำและน้ำมันต่างๆ ใต้ท้องรถ ถ้าพบว่ารั่วที่ล้อและเป็นน้ำมันเบรก จะต้องงดใช้งาน รีบปรึกษาช่างทันทีค่ะ ถ้าเป็นน้ำระบายความร้อนรั่วหยดให้หาที่มาของการรั่ว ส่วนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ หรือน้ำมันเฟืองท้าย ก็ควรรีบปรึกษาช่างเช่นเดียวกันค่ะ เพื่อความปลอดภัยต่อกลไกดังกล่าวของรถยนต์ค่ะ
3.การดูแลน้ำระบายความร้อน เพียงตรวจโดยการเปิดฝาหม้อน้ำออกถ้าพบว่าน้ำพร่องน้อยลงไปก็ใช้น้ำสะอาดเติมลงไปให้เต็ม ถ้ามีขวดพลาสติกที่เก็บน้ำอยู่และมีท่อเล็กๆ ต่อไปถึงหม้อน้ำ ก็ไม่ต้องเปิดฝาหม้อน้ำค่ะ ให้ดูระดับน้ำที่ขวดเก็บน้ำสำรองแทน เพราะเรื่องนี้ก็ละเลยไม่ได้ค่ะ อาจส่งผลให้เครื่องยนต์เสื่อมสภาพเร็วได้นะคะ
4.ระดับน้ำมันเครื่อง เพราะถ้าน้ำมันเครื่องพร่องหรือแห้งจะทำให้เกิดการสึกหรอภายในเครื่องยนต์ โดยดึงเหล็กวัดออกมาเช็ดทำความสะอาดแล้วใส่กดลงไปยังตำแหน่งเดิมให้สุด จากนั้นดึงออกมาตรงๆในแนวดิ่ง ระดับน้ำมันจะสังเกตได้จากรอยคราบน้ำมันที่เกาะอยู่ปลายเหล็กวัด ซึ่งระดับน้ำมันจะต้องอยู่ระหว่างกลางขีดที่มีอักษร L(Low) และ F(Full)
5.การตรวจน้ำเบรกในกระบอกเก็บน้ำมันเบรกที่แม่ปั๊มเบรก ถ้ามีระดับสูงก็ไม่ต้องเติมค่ะ แต่ถ้าพร่องต่ำกว่าขีดที่กำหนดให้เติมจนได้ระดับที่ถูกต้อง เพราะถ้าน้ำมันเบรกนั้นพร่องมากๆทุกวัน จะต้องรีบนำรถไปปรึกษาช่างนะคะ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายกับเจ้าของรถและผู้ขับขี่บนท้องถนนด้วยค่ะ


เพียงเท่านี้ก็สามารถยืดอายุการใช้งานของรถที่เรารักได้แล้วนะคะ อีกทั้งเป็นวิธีที่ตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง เพราะถึงแม้ว่ารถของเราจะเป็นรถมือหนึ่งหรือรถมือสอง ก็ต้องการการดูแลและเอาใจใส่ไม่ต่างกัน