เชฟโรเลตแนะเคล็ดลับประหยัดน้ำมันในยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ด

www.rodweekly.com

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก หน้าเศรษฐกิจระบุว่า ราคาน้ำมันสูงขึ้น50 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน และหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานสูงขึ้น ในส่วนของประเทศไทยกระทรวงพาณิชย์ได้มีการคาดการณ์เงินเฟ้อปีนี้ที่0.8-1.6เปอร์เซ็นต์ขณะที่อัตราเงินเฟ้อกระตุ้นให้รัฐบาลทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้บริโภคผ่านการอุดหนุนพลังงานเชื้อเพลิงผู้บริโภคสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้ด้วยการปฏิบัติตามเคล็ดลับการประหยัดน้ำมันที่แนะนำโดยเชฟโรเลต ดังนี้


 


ปรับตั้งเครื่องยนต์อย่างถูกต้อง


สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐหรืออีพีเอ(Environmental Protection Agency -EPA)เผยว่า เครื่องยนต์ที่มีการปรับตั้งที่ถูกต้องจะช่วยประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ การแก้ไขปัญหาที่สำคัญเช่น เซ็นเซอร์วัดปริมาณออกซิเจนทำงานผิดปกติจะสามารถช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่ได้มากขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์และผู้ขับขี่ไม่ควรละเลยสัญญาณไฟเตือนให้นำรถเข้าไปตรวจสอบ


 


ตรวจสอบแรงดันลมยาง


การเติมลมยางที่เหมาะสมสามารถเพิ่มระยะทางในการขับขี่ได้มากขึ้นถึง3.3 เปอร์เซ็นต์ และช่วยให้ปลอดภัยและใช้งานได้ยาวนานขึ้น ยางที่มีลมยางอ่อนอาจทำให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น0.3 เปอร์เซ็นต์สำหรับทุกหนึ่งปอนด์ต่อตารางนิ้วของความดันลมยางที่ตกลงทั้งสี่ล้อทั้งนี้ สำหรับการตรวจสอบลมยาง ผู้ขับขี่ไม่ควรตรวจสอบแค่จากในระบบเพียงอย่างเดียวแต่ควรตรวจเช็คสภาพลมยางด้วยอุปกรณ์วัดลมยางที่ดีอย่างน้อยเดือนละครั้งและหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมโปรดอ่านคู่มือการใช้งานรถยนต์ของคุณ


 


แก้ไขปัญหาสิ่งอุดตัน


หากคุณหายใจไม่ออก คุณก็จะเคลื่อนไหวได้ยากลำบากเครื่องยนต์ก็เช่นกัน เครื่องกรองอากาศที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างหนัก และสิ่งแปลกปลอมอาจทำลายเครื่องยนต์ได้ การเปลี่ยนไส้กรองที่อุดตันจะช่วยเพิ่มการประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์ ตามข้อมูลของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐหรืออีพีเอ ระบุว่า ในรถยนต์สมัยใหม่การเปลี่ยนไส้กรองที่อุดตันและสกปรกจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้รถยนต์มีการเร่งความเร็วที่ดีขึ้น


 


เลือกใช้น้ำมันเครื่องให้เหมาะสม


การใช้น้ำมันเครื่องจะช่วยลดการเสียดสีของเครื่องยนต์ เพราะการเสียดสีนั้นจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ยากขึ้นดังนั้น การใช้น้ำมันเครื่องตามที่บริษัทผู้ผลิตรถแนะนำจะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้นอีก 1-2 เปอร์เซ็นต์


 


ตรวจสอบฝาถังน้ำมัน


ฝาถังน้ำมันที่หลวมหรือปิดไม่สนิทไม่เพียงแต่จะทำให้ “ไฟเตือนรูปเครื่องยนต์”แจ้งเตือน แต่ยังเป็นเหตุทำให้น้ำมันระเหยไปหลายล้านลิตรในทุกๆ ปี ฝาถังน้ำมันที่หลวมหรือปิดไม่สนิทจะทำให้การประหยัดน้ำมันลดลง 1-2 เปอร์เซ็นต์


 


หลีกเลี่ยงสิ่งของที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ


การมีล้อขนาดใหญ่เต็มซุ้มล้อ และยางอัลตราโลว์โปรไฟล์อาจจะทำให้รถดูน่ามอง แต่จะเพิ่มอัตราการบริโภคน้ำมันให้สูงขึ้นนอกจากนี้ ล้อและยางที่มีขนาดใหญ่ยังทำให้แรงต้านการหมุนของล้อเพิ่มขึ้นเพิ่มน้ำหนักใต้สปริงของช่วงล่าง (Un-sprung weight) และส่งผลต่อหลักอากาศพลศาสตร์ซึ่งทำให้ใช้น้ำมันมากขึ้น และอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่ในกรณีร้ายแรงอาจเป็นอันตรายต่อการเบรกและการควบคุมรถ


                       


วางแผนการเดินทางของคุณ


            ควรวางแผนการเดินทางให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการพาลูกไปโรงเรียน การไปซื้อของใช้จำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีการจราจรติดขัด


 


นำสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจากรถ


การบรรทุกสัมภาระที่มากเกินไปทำให้รถของคุณต้องใช้กำลังและสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนเพิ่มขึ้นสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐหรืออีพีเอ ระบุว่า น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น 45 กิโลกรัม จะทำให้ประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันลดลง2 เปอร์เซ็นต์และอาจจะลดลงมากขึ้นสำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก การบรรทุกของหนักบนราวบนหลังคารถยนต์ทำให้ประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันลดลงถึง5 เปอร์เซ็นต์ น้ำมันประมาณหนึ่งในสี่ลิตรของน้ำมันเชื้อเพลิงจะถูกเผาผลาญเมื่อรถต้องต้านกับแรงลมดังนั้น เมื่อรถมีการบรรทุกสัมภาระไว้บนหลังคาจะทำให้การประหยัดน้ำมันลดลง


 


ขับรถให้ช้าลง


การขับรถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าจะใช้น้ำมันมากกว่าการรักษาความเร็วให้คงที่ เหยียบคันเร่งอย่างนุ่มนวลเมื่อออกจากทางแยกหรือสัญญาณไฟจราจร หลีกเลี่ยงการเร่งรถอย่างรวดเร็วการใช้ความเร็วมากเกินไปและการเบรกอย่างรุนแรง ซึ่งจะทำให้การประหยัดน้ำมันลดลง 33 เปอร์เซ็นต์ บนทางหลวง และลดลง 5 เปอร์เซ็นต์สำหรับการขับรถในเมือง การขับรถที่ความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ 10-15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งประหยัดกว่าการขับด้วยความเร็ว104กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามข้อมูลทางทรัพยากรธรรมชาติของประเทศแคนาดา (Natural Resources Canada)ความเร็วที่ช่วยประหยัดน้ำมันมากที่สุดสำหรับรถส่วนมากจะอยู่ระหว่าง50-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง


 


หลีกเลี่ยงการจอดรถแบบติดเครื่องยนต์นานเกินไป


เมื่อคุณต้องขับรถอยู่ท่ามกลางการจราจรที่ติดขัด หากอากาศไม่ร้อนเกินไป ขอแนะนำให้ดับเครื่องยนต์ การจอดรถโดยที่ติดเครื่องยนต์ไว้จะเผาผลาญน้ำมันอย่างไร้ประโยชน์ รถคันหนึ่งจะกินน้ำมันศูนย์กิโลเมตรต่อหนึ่งลิตรเมื่อเครื่องยนต์ไม่ทำงาน ขณะที่การสตาร์ทรถใหม่จะใช้น้ำมันเพียงเล็กน้อยแต่การจอดรถติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ 15 นาที จะเผาผลาญน้ำมันเกือบหนึ่งลิตร


 


ใช้ระบบปรับอากาศอย่างชาญฉลาด


เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ลดประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันลง10 เปอร์เซ็นต์ ถ้าสภาพอากาศภายนอกเอื้ออำนวย แนะนำให้ปรับเพิ่มแรงลมให้สูงขึ้นเพื่อหมุนเวียนอากาศแทนการปรับลดอุณหภูมิลง และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องปรับอากาศหากขับขี่ด้วยความเร็วต่ำกว่า64 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดยสามารถปิดแอร์และเปิดหน้าต่างแทนได้ถ้าอากาศดีแต่ถ้าหากขับด้วยความเร็วเกินกว่า 72 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วเปิดหน้าต่างรับอากาศจากด้านนอก แรงฉุดของลมที่ไหลเวียนเข้ามาทางหน้าต่างจะทำให้รถกินน้ำมันมากกว่าการเปิดแอร์


 


ใช้เกียร์สูง


เมื่อขับรถด้วยเกียร์ธรรมดาให้ใช้เกียร์สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อรักษารอบเครื่องยนต์ให้ต่ำเนื่องจากการหมุนรอบเครื่องยนต์ต่ำจะใช้น้ำมันที่น้อยกว่า แต่ไม่ควรขับขี่เช่นนี้มากเกินไป เพราะจะฉุดกำลังเครื่องยนต์ทำให้เครื่องยนต์หยุดทำงาน หากขับขี่รถเกียร์อัตโนมัติ ควรผ่อนคันเร่งเล็กน้อย ในจังหวะที่ระบบเกียร์เปลี่ยนไปสู่เกียร์ที่สูงขึ้น รถเชฟโรเลตทุกรุ่นใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ซึ่งมีอัตราการทดเกียร์ที่สูงกว่า ช่วยลดรอบเครื่องยนต์ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่และประหยัดน้ำมัน


 


ใช้ระบบควบคุมความเร็วให้คงที่อัตโนมัติ(ครูสคอนโทรล)


ถ้ารถของคุณมาพร้อมระบบครูสคอนโทรล ให้เปิดใช้ระบบนี้ โดยเฉพาะการขับรถบนทางหลวงระบบครูสคอนโทรลจะช่วยป้องกันไม่ให้ขับรถเร็วเกินกำหนด และช่วยประหยัดน้ำมัน ผ่านการเร่งและผ่อนความเร็วอย่างนุ่มนวล ซึ่งระบบจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับโหมด “ประหยัด” หรือโหมด“ออโต้” ทั้งนี้ไม่ควรใช้ระบบดังกล่าวในช่วงที่ฝนตกหนักหรือบนถนนที่เปียกลื่น


 ดความเร็วลงอย่างนุ่มนวลหรือเปลี่ยนเกียร์จากเกียร์สูงมาเกียร์ต่ำจนรถจอดสนิท


          เมื่อขับรถเกียร์อัตโนมัติในสภาพการจราจรที่หนาแน่น คุณสามารถขับรถเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆเพราะรถจะแล่นไปข้างหน้าโดยอัตโนมัติ หากขับรถเกียร์ธรรมดา ให้ลดเกียร์ลงอย่างต่อเนื่องจนรถจอดสนิท ผู้ขับขี่สามารถถอนคันเร่งออกขณะที่ยังใส่เกียร์เดินหน้าอยู่ได้เครื่องยนต์สมัยใหม่แทบจะไม่ใช้น้ำมันและเพียงพอต่อการเลี้ยงเครื่องยนต์ไม่ให้ดับ เครื่องยนต์จะใช้น้ำมันมากกว่าถ้าอยู่เกียร์ว่างขณะรถจอดนิ่ง