คู่มือดูแลยางรับหน้าฝน: ดูแลยางอย่างไรให้ใช้ได้อย่างปลอดภัยและอุ่นใจ

www.rodweekly.com

หน้าฝนที่กำลังจะใกล้เข้ามานี้ เจ้าของรถไม่ว่าจะมือใหม่หรือมือโปรก็คงเตรียมรับมือกับความเปียกชื้นบนท้องถนนและความปลอดภัยในการขับขี่ที่อาจจะทำให้มีความท้าทายในการดูแลรถไปอีกขั้น แต่พอมาถึงเรื่องของยางรถยนต์แล้ว เรียกได้ว่ามีความสำคัญและต้องให้ความใส่ใจสูงสุดเพราะจะช่วยลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุบนถนนเปียกลื่นได้ เจ้าของรถจึงควรศึกษาวิธีต่างๆ ที่จะช่วยรักษาหน้ายางให้ยึดเกาะถนนได้อย่างปลอดภัย


 



  1. 1.      การตรวจเช็กลมยาง


วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้รถยึดเกาะถนนได้ดี คือการตรวจเช็กลมยางอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพราะลมยางที่อ่อนหรือแข็งเกินไปจะทำให้หน้ายางสัมผัสกับพื้นถนนได้น้อยลง และไม่สามารถรีดน้ำออกจากหน้ายางได้ตามปกติ ซึ่งทำให้ควบคุมรถได้ยากและเกิดการลื่นไถลของรถโดยเฉพาะเมื่อขับขี่ในขณะฝนตก หากเป็นไปได้ควรตรวจสอบลมยางที่ศูนย์บริการที่คุณไว้ใจ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด


 



  1. 2.      การสลับยาง


หลายคนอาจมีคำถามว่า “สลับยางไปทำไมในเมื่อยางก็ใช้ได้ดีอยู่” อันที่จริงแล้วการสลับยางคือขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมีข้อดีคือทำให้เรายืดอายุการใช้งานของยางให้นานขึ้น และช่วยให้การสึกหรอของดอกยางใกล้เคียงกันระหว่างยางคู่หน้าและหลัง เพื่อสมรรถนะสูงสุดในการขับขี่และลดการลื่นไถลบนพื้นถนนที่เปียก เมื่อฤดูฝนมาถึงหากไม่ได้สลับยางมาเป็นเวลานาน แนะนำให้สลับยางทั้ง 4 ล้อ พร้อมทั้งทำการถ่วงล้อทั้ง 4 ในเวลาเดียวกัน เพื่อให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย และยังยืดอายุการเปลี่ยนยางได้อีกด้วย โดยเจ้าของรถควรสลับยางอย่างน้อยทุกๆ 10,000 กิโลเมตร


 



  1. 3.      การปะยางแบบดอกเห็ด


บางครั้งที่ต้องวิ่งบนถนนที่ไม่ได้ลาดยางในหน้าฝน ดินที่ถูกฝนชะล้างไปอาจมีกรวดหรือหินแหลมที่ทำให้ยางรั่วได้ ซึ่งจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จึงควรรู้วิธีปะยาง หรือก็คือการอุดรูรั่วบนยางเพื่อจัดการกับสถานการณ์เฉพาะหน้าที่อาจเกิดขึ้น โดยวิธีปะยางที่มีความปลอดภัยและได้รับการยอมรับจากบริษัทผู้ผลิตยาง คือการปะยางแบบดอกเห็ด ซึ่งเป็นการปะยางจากด้านในของยางซึ่งไม่ได้ใช้ความร้อนที่ทำให้ยางเกิดความเสียหาย และขอให้หลีกเลี่ยงการปะแบบใยไหมหรือตัวหนอนเพราะทำให้ฝุ่นหรือน้ำสามารถเล็ดลอดเข้าไปภายในโครงสร้างยางและก่อให้เกิดความเสียหาย รวมทั้งวิธีการปะแบบสตีมซึ่งใช้ความร้อนและทำให้ยางเกิดความเสียหายได้



  1. 4.      การเปลี่ยนยาง


เมื่อความลึกของดอกยางลดลงจากการใช้งานจนถึงสะพานยางเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ายางหมดอายุและต้องเปลี่ยนยางแล้ว อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้เปลี่ยนยางก่อนที่จะถึงสะพานยางหรือเมื่อความลึกดอกยางต่ำกว่า 3 มม. เพราะความลึกของดอกยางที่น้อยจะมีผลให้ระยะการเบรกยาวขึ้นกว่าปกติ และการทรงตัวของรถบนถนนเปียกลดน้อยลง ควรปรึกษากับช่างเทคนิคโดยตรงที่ศูนย์บริการยางและรถยนต์ใกล้บ้านว่ารถของคุณสมควรเปลี่ยนยางแล้วหรือยัง เพื่อความปลอดภัยต่อการขับขี่ในช่วงหน้าฝน ซึ่งการเลือกซื้อและเปลี่ยนยางในศูนย์บริการที่มีคุณภาพไว้วางใจได้ พร้อมตัวเลือกยางรถยนต์คุณภาพระดับโลกที่หลากหลาย และช่างผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ จะช่วยเพิ่มความมั่นใจว่ารถของคุณพร้อมลุยขณะฝนตกถนนลื่นได้อย่างปลอดภัยแน่นอน


 



  1. 5.      การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์


ความปลอดภัยเป็นเรื่องที่หลายคนอาจอุ่นใจกว่าถ้าฝากรถไว้ในมือผู้เชี่ยวชาญ เจ้าของรถสามารถเข้ารับคำปรึกษาจากช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญของศูนย์บริการยางและรถยนต์ใกล้บ้าน หรือศูนย์บริการฟาสต์ฟิตที่ให้ความไว้วางใจ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการดูแลรถง่ายๆ ด้วยตนเอง ระยะเวลาการตรวจเช็คสภาพ หรือการดูแลยางรถยนต์ โดยปัจจุบันมีศูนย์บริการมากมายที่สามารถช่วยตรวจสภาพรถเบื้องต้นให้ได้ฟรี หรือมีค่าบริการในราคาย่อมเยา


 


ทั้งนี้ ควิกเลน เป็นศูนย์บริการยางและรถยนต์ประเภทเร่งด่วน ที่มีมาตรฐานระดับโลก การันตีด้วย 1,000 สาขาทั่วโลก ที่พร้อมให้บริการโดยช่างเทคนิคมากประสบการณ์ซึ่งผ่านการอบรม มีความเชี่ยวชาญด้านการบำรุงรักษารถยนต์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเช็คสภาพรถฟรี 30 รายการ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรอง ตรวจซ่อมระบบช่วงล่าง และยังพร้อมให้คำปรึกษาและบริการเกี่ยวกับยางรถยนต์หลังการขาย ทั้งยังมียางรถยนต์คุณภาพมาตรฐานระดับโลกให้เลือกในราคาที่เข้าถึงได้มากมาย