สำหรับคนรักรถ ส่วนใหญ่แล้วก็จะไม่ชอบให้รถที่รักมีฝุ่น หรือคราบที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะกระจก ไม่ต้องพูดถึง สกปรกยิ่งกว่าอะไร วันนี้เราจึงไปลองหาหลากหลายวิธีทำความสะอาดกระจกรถยนต์ กระจกบ้าน กระจกออฟฟิศสำนักงาน ลองนำวิธีที่แนะนำเหล่านี้ไปลองปฏิบัติตามกันดูได้นะครับ เพราะรถยนต์ของเราจะได้มีกระจกที่สะอาดปราศจากสิ่งสกปรกใสปิ๊งๆ สวยงามสดใส ทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ได้ดีขึ้น ช่วยให้เราลดอุบัติเหตุได้จากความชัดเจนที่มากขึ้น ดังนี้
1.แอมโมเนียหยดลง 2-3 หยด ผสมกับในน้ำครึ่งถัง ใช้ล้างกระจกเงาและกระจกหน้าต่าง จะเป็นเงางามไม่สกปรกง่าย
2.โซดาที่ใช้ทำขนม (โซดาไบคาร์บอเนต) สามารถนำมาทำความสะอาดกระจกได้ จะช่วยให้กระจกดูใสมากขึ้น
3.แอลกอฮอล์ผสมกับน้ำอย่างละเท่า ๆ กัน ราดบนแผ่นหนังสือพิมพ์ ใช้ขัดกระจกเป็นเงางาม
4.นำกระดาษหนังสือพิมพ์ขยุ่มชุบน้ำเช็ดกระจก จะใสสะอาดกว่าใช้สบู่หรือผงซักฟอก และใช้แทนน้ำยาเช็ดกระจกได้ และเวลาทำความสะอาดหน้าต่างให้เช็ดสลับกัน ด้านหนึ่งใช้เช็ดตามขวางของแผ่นกระจก อีกด้านหนึ่งเช็ดตามยาวจะเห็นรอยสกปรกได้ชัดกว่าเช็ดไปตามทางเดียวกัน
5.กลีเซอรีน ใช้ถูกระจกให้ทั่ว ป้องกันกระจกเปียกชื้น หรือน้ำค้างเกาะกระจกเป็นฝ้า
6.สารส้มผสมเบียร์ ใช้ทากระจกที่มัวเป็นฝ้าแล้วใช้ผ้าขัด กระจกจะใสแวววาว
7.ดีเกลือผสมเบียร์ ใช้เช็ดกระจกกันฝ้าขุ่นมัว
8.แอมโมเนียกับน้ำส้มสายชูผสมกัน ใช้เช็ดกระจกให้ใสสะอาด หมดคราบมัน
9.วิธีเช็ดยางขอบเทปที่ติดกระจกให้ออก ให้ใช้น้ำมันเบนซินหรือทินเนอร์ชุบสำลีเช็ดกระจก
10.กระจกฝ้ามัว ให้ใช้ผ้าเปียกถูกับสบู่ก้อน แล้วเช็ดบนกระจก จากนั้นล้างออกแล้วเช็ดตามด้วยผ้าแห้ง ส่วนรอยขีดข่วนบนกระจกกำจัดง่ายๆด้วยยาสีฟัน เพียงใช้ยาสีฟันถูให้ทั่วแผ่นกระจก แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดออก เท่านี้ก็เรียบร้อย
11.นำเกลือผสมกับน้ำ คนให้ละลาย ใช้ล้างสิ่งสกปรกเปรอะเปื้อนจากกระจกได้ง่าย
12. ล้างกระจกด้วยน้ำยาทำความสะอาดทั่ว ๆ ไป เช็ดกระจกให้แห้ง ด้วยผ้าดิบฟอก และใช้น้ำยาเคลือบกระจกเคลียร์วิว ชุบผ้าหรือฟองน้ำเช็ดกระจกให้ทั่ว ปล่อยทิ้งไว้จนแห้ง เช็ดออกด้วยผ้าแห้ง กระจกจะใสแจ๋ว น้ำจะไม่จับเกาะกระจก
สุดท้ายกระจกรถคุณใสๆปิ๊งๆ แล้วอยากฝากอีกสำหรับคุณที่ชอบล้างรถด้วยคนเองว่า ไม่ควรล้างรถเองในตอนเย็น เพราะหากล้างแล้วจอดทิ้งไว้ อาจทำให้เกิดสนิมในจุดที่เราเช็ดไม่แห้ง เว้นเสียแต่ว่าจะมีเครื่องเป่าน้ำให้แห้ง หรือไม่ก็ต้องยอมเปลืองน้ำมันเอารถออกไปขับไกลๆ ให้ลมช่วยทำให้ทุกซอยทุกมุมแห้งสนิท และไม่ควรล้างรถกลางแดด เพราะนอกจากคนล้างอาจไม่สบายได้แล้ว แสงแดดจะทำให้น้ำแห้งเร็วจนเช็ดไม่ทัน อาจทำให้เกิดคราบน้ำบนผิวสีรถได้ รวมทั้งไม่ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดรถแทนการล้างรถ เพราะจะเป็นการทำลายสภาพสี ผงฝุ่นต่างๆ ที่ติดบนผ้าจะทำให้เกิดรอยขนแมวยิ่งเช็ดรถมากครั้งขึ้นเท่าไหร่ การเกิดรอยก็จะมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ไม่ควรใช้ไม้ขนไก่ หรือแปรงปัดฝุ่นทุกชนิด ปัดฝุ่นเพื่อทำความสะอาด เพราะมันเหมือนกับการใช้กระดาษทรายเช็ดรถเลยทีเดียว ในขณะที่ปัดฝุ่น ไม้ปัดฝุ่นจะลากถูฝุ่นหรือเม็ดทรายไปตามผิวสีรถ ทำให้เกิดริ้วรอยได้