ปัจจุบันรถยนต์อาจจะกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเราๆ ท่านๆ ที่ต้องใช้ยามเดินทาง แต่ในขณะที่การซื้อรถจะเป็นเรื่องที่พูดง่าย แต่มันก็ยังฟังดูยาก เพราะการเลือกรถที่ถูกใจต้องมาจากการสัมผัสหรือที่เราเรียกว่าการขับทดสอบรถยนต์นั่นเอง การขับทดสอบรถยนต์นั้นปัจจุบันถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้บริโภคสามารถพึงกระทำได้ และเป็นเรื่องที่มีความพยายามผลักดันทั่วโลกเพื่อให้ผู้บริโภคได้รถที่ถูกใจ แต่ดูเหมือนว่า แม้จะผลักดันเท่าไร ก็ยังไม่ได้รับการใส่ใจเท่าที่ควรมากนัก
     เมื่อไม่นานมานี้มีการวิจัยเกี่ยวกับการซื้อรถใหม่ในอเมริกา ประเทศที่ได้ชื่อว่ามีการตื่นตัวของผู้บริโภคมากที่สุดในโลก โดยการวิจัยชิ้นนี้เป็นของ Martiz Research ที่ได้ทำการวิจัยกว่าคน 80,000 คน ที่เป็นผู้ซื้อรถยนต์รุ่นใหม่ ในโฉม 2012 ซึ่งจากการสำรวจดังกล่าวก็พบว่า มีคนกว่า 11.4% จากการวิจัยนี้ที่ไม่ได้ขับทดสอบรถยนต์ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อรถยนต์คันใหม่

    แม้จะไม่น่าปลื้มที่ผู้บริโภคทิ้งโอกาสที่สำคัญไป แต่ในการวิจัยเดียวกันนี้ก็พบว่า กว่า 80% ของผู้ที่เข้าร่วมในกลุ่มตัวอย่างนี้ พวกเขามีการทำการบ้านผ่านทางสื่อออนไลน์ โดยเฉพาะเว็บไซต์กว่า 80% เช่นเดียวกับที่ส่วนใหญ่ไม่ชอบการฝึกอบรมการขายของเซลล์รถยนต์ ซึ่งดูเหมือนผู้บริโภคอยากที่จะตัดสินใจด้วยตัวเองมากขึ้นในยุคนี้ แต่เทรนด์ใหม่นี้ไม่ค่อยเป็นที่น่าชมเชยเท่าไรนัก สำหรับเรื่องราวของการขาย เพราะแม้การขับทดสอบจะเป็นสิทธิของผู้บริโภค แต่การขับรถทดสอบมักถูกมองจากผู้แทนจำหน่ายว่าคือการปิดการขายของลูกค้าให้ตัดสินใจเลือกรถยนต์รุ่นนั้นมากกว่า
   ทั้งนี้สำหรับใครที่กำลังซื้อรถใหม่เราก็ยังแนะนำว่าให้ขับทดสอบรถยนต์คันที่เลือกก่อนที่จะตัดสินใจจองรถไป เพราะแม้ว่ารถคันนั้นจะถูกใจ หรือผู้เชี่ยวชาญจะว่าดี แต่การขับทดสอบด้วยตัวเองจะตอบคำถามได้ดี ว่าทำไมคุณยังต้องเลือกรถคันนั้น