การขายรถยนต์มือสองหรือรถใช้แล้วผ่านทางอินเตอร์เน็ตนั้น ควรเน้นในสิ่งต่างๆที่จะทำให้ผู้ที่สนใจจะซื้อรถยนต์มือสองได้ ทราบถึงรายละเอียดของรถยนต์มือสองอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการเอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกัน เพราะหาก มีการพบสิ่งผิดปกติในภายหลัง อาจมีการยกเลิกข้อตกลงที่ได้ทำกันไว้ก็เป็นได้ ซึ่งในการขายรถยนต์มือสองหรือรถใช้แล้วผ่านทางอินเตอร์เน็ตนั้น ท่านควรมีรายละเอียดเหล่านี้ระบุลงไปในประกาศขายของท่านด้วย
1. ภาพถ่ายของรถที่ต้องการขาย
เทคนิคเล็กๆน้อยในการถ่ายภาพรถของท่าน ประการแรก ท่านควรถ่ายภาพให้เห็นมุมต่างๆของรถยนต์มือสองหรือรถใช้แล้วอย่างชัดเจน โดยการ จัดรถ ให้ด้านที่เราจะถ่ายอยู่ในทิศที่มีแสงส่องถึง และปริมาณ แสงที่พอเหมาะ เช่น แสงในช่วงเช้า และแสงในช่วงเย็น ประมาณ 16.00 – 18.00 น. หรือท่านที่ไม่สะดวกถ่าย ภาพกลางแจ้ง ท่านสามารถถ่ายภาพในร่มได้ แต่ท่านต้องขยับ รถและหันด้านที่ท่านต้องการถ่ายไปหาแสง ไม่ใช่เดินถ่ายรอบ รถ โดยที่รถอยู่กับที่ เพราะจะมีบางมุมที่เป็นมุมอับแสง หรือไม่ โดนแสง ซึ่งมุมนั้นผู้ที่สนใจจะซื้อรถของท่าน จะไม่สามารถ มองเห็นรายละเอียดของรถได้ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ที่กำลังสนใจ จะซื้อรถของท่านเปลี่ยนความตั้งใจไปเลยก็ได้ เพราะผู้ซื้ออาจ คิดว่าท่านกำลังปิดบังรายละเอียดบางส่วนอยู่ ประการที่สอง คือ มุมต่างๆที่ท่านจะต้องถ่ายเพื่อนำมาลงในประกาศขาย เช่น ด้านหน้า,ด้านหลัง,ด้านข้างซ้าย,ด้านข้างขวา,ห้องโดยสาร, มาตรวัด(หน้าปัทม์),ห้องเครื่องยนต์,ห้องเก็บสัมภาระ และล้อ รถยนต์ อันนี้ก็แล้วแต่เว็บไซต์แต่ละเว็บไซต์ ว่าจะสามารถให้ ท่านลงภาพได้กี่ภาพ แต่จำไว้อย่างหนึ่งว่า ลูกค้าที่ซื้อของผ่าน ทางอินเตอร์เน็ต เนื่องจากต้องการความสะดวกสบาย ไม่ ต้องออกไปตะลอนหารถยนต์มือสองตามเต็นท์รถให้สิ้นเปลืองน้ำมัน หาก ภาพของท่านมีรายละเอียดที่ดีพอ และมากพอ ยิ่งจะช่วยให้ ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
โดยหลักการแล้วภาพจากกล้องดิจิตอลจะมีขนาดใหญ่แค่ไหนนั้นให้ดูที่จำนวนพิกเซล หากจำนวนพิกเซลมากก็จะสามารถนำไปอัดขยายได้ดี กว่าภาพที่มีจำนวนพิกเซลน้อยๆ เพราะจำนวนพิกเซลจะเป็นตัวกำหนดขนาดและความละเอียดของภาพ ซึ่งจำนวนพิกเซลที่เหมาะสมสำหรับงาน ประเภทต่างๆ นับวันจะมีมาตรฐานความละเอียดสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเรามาดูกันว่าจำนวนพิกเซลเท่าไหร่จึงจะเหมาะกับงานที่เราต้องการนำไปใช้
-ภาพขนาด 300,000 – 1,000,000 พิกเซล เหมาะสำหรับใช้ส่งอีเมล์ หรือประกอบเว็ปไซด์
-ภาพขนาด 2 - 3 ล้านพิกเซล เพียงพอต่อการใช้งานอัดขยายภาพขนาด 4 x 6 นิ้ว
-ภาพขนาด 4 - 8 ล้านพิกเซล ใช้ในงานอัดขยายภาพขนาดมากกว่า 8 x 12 นิ้วขึ้นไป
-ภาพขนาด 10 - 16 ล้านพิกเซล ใช้ในงานพิมพ์ภาพโฆษณาขนาดใหญ่
2. การให้ข้อมูลของรถยนต์และข้อมูลของผู้ขาย
ข้อมูลของรถยนต์มือสอง เช่น เป็นรถยนต์นั่ง 4 ประตู, เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ, กี่แรงม้า, กี่แรงบิด (2 อย่างหลังนี้ถ้าท่าน สามารถบอกได้ก็จะดี แต่ถ้าไม่บอกก็ไม่เป็นไรครับ) ที่สำคัญ อย่าลืมบอกยี่ห้อ, สี, โมเดลและปีของรถ เช่น Corolla AE101R-AEPNK ปี95 เป็นต้น ลักษณะของเกียร์ก็สำคัญ ครับ เกียร์อัตโนมัติหรือเกียร์ธรรมดาเช่นเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด หรือเกียร์ธรรมดา 5 สปีด บอกลักษณะของการขับเคลื่อนว่า เป็นขับเคลื่อน 2 ล้อหรือขับเคลื่อน 4 ล้อ เช่น ขับเคลื่อน 2ล้อ หน้า(ในรถเก๋ง),ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง(ในรถกระบะหรือในรถเก๋ง บางรุ่น),ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ PART TIME (บางเวลา) หรือขับ เคลื่อนแบบ 4 ล้อ FULL TIME (ตลอดเวลา) ระยะทางที่ใช้มา ทั้งหมดจนถึงปัจจุบัน(เลขไมล์หรือเลขกิโลเมตร) หากรถของ ท่านยังมีประกันภัยอยู่ควรแจ้งให้ทราบด้วย บอกวันที่ออกรถ มาด้วยนะครับหากรถของท่านซื้อมาจากห้าง ซึ่งข้อมูลของรถ ยนต์นั้นท่านสามารถดูได้จากทะเบียนรถยนต์ หรือดูได้จาก NAME PLATE ของรถยนต์ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะติดตั้งอยู่ภาย ในห้องเครื่องยนต์ หรือตามที่คู่มือการใช้รถระบุไว้ว่าติดตั้งอยู่ ที่ใด
ข้อมูลของผู้ขาย เช่น ชื่อผู้ขาย,เบอร์โทรศัพท์ ไม่ว่าจะเป็น เบอร์บ้าน,เบอร์ที่ทำงาน,เบอร์มือถือ หรืออีเมล์ ข้อมูลเหล่านี้ ลงไว้เพื่อให้ผู้ที่สนใจจะซื้อรถยนต์มือสองของท่าน สามารถที่จะติดต่อซื้อ
ขายหรือติดต่อขอดูรถของท่านได้อย่างสะดวกและไม่พลาดโอกาสทองในการติดต่อซื้อขาย
3. การให้ข้อมูลทางด้านบวกหรือด้านลบ
การให้ข้อมูลทางด้านบวก เช่น รถยนต์มือสองของท่านได้มีการติดตั้งวิทยุยี่ห้อดังมา ระบุลงไปเลยครับว่ายี่ห้ออะไร มีการเปลี่ยนขนาดของแม็กซ์หรือยางใหม่ มีการติดตั้งแร็กเก็บของบนหลังคาเพิ่มเติม พึ่งจะติดฟิล์มกันแสงอย่างดีมีใบรับประกัน มีคู่มือการใช้รถยนต์มือสอง มีการพ่นกันสนิมและเคลือบสีรถตามคู่มือ มีการนำรถยนต์มือสองเข้าศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอ ตามระยะทางที่คู่มือกำหนด เป็นต้น ซึ่งการบอกข้อมูลในด้านบวกของรถนั้น เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับรถของท่าน การให้ข้อมูลทางด้านลบ เช่น รถของท่านโดนชนมาตรงไหนบ้าง มีการทำสีหรือเปล่า ฟิล์มลอกหรือไม่ เคยมีการโหลดเตี้ย หรือยกสูงมาหรือเปล่า ซึ่งการบอกข้อมูลในด้านลบนี้ จะแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของผู้ขาย เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นภายหลังหากมีการซื้อ-ขายรถกันเกิดขึ้น
4. ภาพรวมหรือข้อจำกัดความที่น่าสนใจ
การให้ข้อจำกัดความที่น่าสนใจของรถ เช่น “รถใช้น้อย เข้าศูนย์บริการเช็คทุกระยะทางที่กำหนด” หรือถ้าเป็นรถที่ ผู้หญิงใช้ก็อาจจะบอกได้ว่า “รถผู้หญิงใช้ ดูแลรักษาอย่างดี” อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งการให้คำจำกัดความเหล่านี้ ก็เพื่อเป็นการ ดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อ ให้มาสนใจรถที่ท่านต้องการจะขาย ในเบื้องต้นก่อน ประกอบกับภาพถ่ายที่ถ่ายได้อย่างดี ก็จะยิ่ง เพิ่มความสนใจให้กับผู้ที่กำลังต้องการจะซื้อรถของท่าน มากยิ่งขึ้น
5. การตั้งราคาในการขาย
อันนี้สำคัญครับ การตั้งราคาในการขาย ท่านควรดูจาก ราคากลางของตลาดเป็นหลัก หรือจะดูราคากลางจากเว็บไซต์ ต่างๆเกี่ยวกับราคาของรถยนต์มือสองก็ได้ ซึ่งการตั้งราคานั้นนอก
จากราคากลางแล้วท่านต้องดูสภาพของรถที่จะขาย ตั้งราคา
ตามสภาพความเป็นจริงของตัวรถด้วย เพราะถ้าท่านตั้งราคาไว้
สูงเกินสภาพความเป็นจริงก็อาจจะทำให้ผู้ที่กำลังสนใจรถของ
ท่านหมดความสนใจและมองผ่านไปเลยก็ได้ ถึงแม้ว่ารถของ
ท่านอาจจะมีข้อดีอยู่หลายอย่างก็ตาม แต่ถ้าสภาพรถของท่าน
ดีและราคาเหมาะ สม ถึงแม้ว่าราคาจะสูงกว่าราคากลางอยู่บ้าง ท่านก็สามารถตั้งราคาตามนั้นได้ โดยท่านอาจจะอ้างอิงราคา
ขายจากช่วงที่สูงสุดของรถรุ่นนั้น ซึ่งช่วงราคาของการขายจะ
มีทั้งช่วงราคา สูงสุด และราคาต่ำสุดระบุอยู่