สำหรับการดูรถยนต์มือสองนั้นมีขั้นตอนคัดเกรดมี 3 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสภาพสีรถ พ่นด้วยแห้งเร็ว หรือสีแห้งช้า ตรวจสภาพตัวถังรถยนต์ เคยชนหนัก พลิกค่ำ ตัดต่อ หรือดัดแปลง
ตรวจดูสีรถ ดูรอยตะเข็บ ดูรอยอาร์ค ดูรอยต่อ ดูรูปทรงรถ ดูแชสซีส์ หัวแชสซีส์ รอบคัน ทั้งภายนอก ภายใน หากยังไม่พบร่องรอยการชน จะเน้นดูบริเวณตำแหน่งที่ซ่อนเร้น เพราะปัจจุบันนี้มีการนำเข้าอะไหล่ หัวเก๋ง ท้ายเก๋ง หรือทั้งคัน จากญี่ปุ่น โดยผู้ค้าอะไหล่เก่าเซียงกง นำเข้ามาขายกันหลายรุ่น หลายยี่ห้อ
ขั้นตอนที่ 2 การทดลองขับ
2. ทดลองขับในทางเรียบตรงๆ ปล่อยมือออกจากพวงมาลัย ถ้ารถยังวิ่งได้ตรงอยู่ในเลนถนนเป็นเวลา 10-20 วินาที โดยไม่กินซ้ายหรือขวา ก็ถือว่าใช้ได้
3. ทดลองขับเข้าโค้ง เลี้ยวโค้ง สังเกตุความนิ่ง การสั่นของรถ เสียงจากช่วงล่าง การโยก-โคลงตัวของรถขณะเข้าโค้ง
4. ทดลองระบบเบรค ยังทำงานปกติอยู่หรือไม่ โดยการเหยียบเบรคกระทันหัน รถมีอาการอย่างไร ขับเลียเบรค มีเสียงหอนจากจานเบรค มีหรือไม่ ทั้งที่มีและไม่มีABS
5. ทดสอบการขับขี่ขณะขึ้น-ลงคอสะพาน ลองใช้ความเร็วสูงๆ ดูอาการโยนตัวของรถ มากน้อยแค่ไหน ซึ่งบางคันถ้าโช๊คอัพเสีย รถจะยุบตัวไม่พร้อมกัน จะรู้สึกว่าโคลงๆ หรืออาจวิ่งเป๋กินไปอีกเลนนึง ทำให้ควบคุมรถลำบาก หากอยู่ในภาวะกระชั้นชิด หรือคับชัน ค่อนข้างจะอันตรายทั้งตัวผู้ขับขี่ และผู้ใช้รถบนถนนคนอื่น โอกาสเกิดเป็นอุบัติเหตุได้ง่าย
6. ระบเกียร์อัตโนมัติ การปรับเปลี่ยนเกียร์ในขณะขับขี่มีความนุ่มนวลอย่างไร มีอาการกระตุก กระชากหรือไม่ ตั้งแต่เริ่มออกตัว ไปจนถึง ขับด้วยความเร็วสูงๆ ระบบเกียร์ทำงานครบทุกเกียร์หรือไม่ มีการปรับเปลี่ยนสอดรับความเร็วที่เปลี่ยนไปมากน้อยอย่างไร
ขั้นตอนที่ 3 ตรวจเช็คระบบต่างๆในรถยนต์ ใช้งานเป็นปกติหรือไม่
ออฟชั่นแต่ละรุ่นจะแตกต่างกันไป หลักใหญ่ จะตรวจดูอะไรบ้าง
1. ถุงลมนิรภัยเคยระเบิดมาก่อนหรือไม่ กุญแจรถ มีครบทุกดอกหรือไม่ รีโมท เซ็นทรัลล็อก ทำงานปกติหรือไม่ ตรวจดูปริมาณน้ำมันเครื่องจากเข็มวัด ตรวจดูน้ำมันเกียร์จากเข็มวัดทั้งระบบเกียร์ธรรมดาและเกียร์ออโต้ ยางอะไหล่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ เครื่องมือติดรถยนต์มือสองอยู่ครบหรือไม่ เช่น ประแจตัวใหญ่ขันล้อ แม่แรงยกรถ ตัวขันแม่แรง ไขควง ประแจตัวเล็ก ฯลฯ
4. ระบบแอร์ ความเย็นในห้องโดยสาร การปรับลดอุณหภูมิได้หรือไม่ เสียงคอมฯแอร์ เย็นแล้วตัดหรือไม่ ทดลองปรับช่องทางเดินลมของแอร์ใช้งานได้ทุกตัวหรือไม่ (บางรุ่นจะควบทิศทางลมแอร์ด้วยระบบไฟฟ้า)
5. ระบบพวงมาลัย ตรวจดูช่วงฟรีของพวงมาลัย พวงมาลัยหนัก-เบาเกินไปหรือไม่อย่างไร เมื่อเลี้ยวซ้าย-ขวา หมุนพวงมาลัยจนสุดหรือไม่สุดก็ได้ พวงมาลัยมีการคืนตัวดีหรือไม่ เวลาหักเลี้ยวมีเสียงหรือไม่ และดูปริมาณน้ำมันเพาเวอร์ในกระปุกจะอยู่ในห้องเครื่อง ตรวจดูลมยางประกอบไปด้วย ลมยางอ่อนไป แข็งไป มีผลต่อการขับขี่และการหมุนของพวงมาลัย
ผู้ที่ซื้อรถมือสองทุกคน ย่อมคาดหวังจะได้ที่สมบูรณ์ที่สุดมาใช้งาน แต่ก็คงตระหนักในระดับหนึ่งว่า รถยนต์มือสองเป็นรถที่ถูกใช้งานมาแล้ว อะไหล่ที่เป็นส่วนประกอบของรถเมื่อถูกใช้งานไป เช่น ผ้าเบรค ยางรถยนต์ สายพาน ลูกหมาก โช๊คอัพ เครื่องยนต์ จะสึกหรอไปตามอายุ และสภาพการใช้งาน ซึ่งเหล่านี้ไปทดแทนด้วยราคาที่ถูกกว่า รถใหม่ป้ายแดง
อะไหล่บางชิ้น เมื่อครบกำหนดตามอายุการใช้งาน จำเป็นต้องเปลี่ยน
อายุของรถมือสอง ถ้ายังไม่เกิน 2-3 ปี อาจยังมีประกันกับศูนย์ ซึ่งสามารถเคลมอะไหล่ได้ เกินจากนี้ ก็พ้นการรับประกัน
อะไหล่บางตัวก็ยากที่จะมองเห็นด้วยตาเปล่า เช่น สายพานราวลิ้น ปั้มน้ำ วาวล์น้ำ หรือชิ้นส่วนที่อยู่ภายในเครื่องยนต์ รวมถึงช่วงล่าง(จะมองไม่เห็น ถ้าไม่ขึ้นแม่แรงดู) อะไหล่บางชิ้นรู้ได้จาก จำนวนระยะทางที่ใช้งาน เช่น สายพานราวลิ้น ยางรถยนต์ สายพานแอร์ สายพานเครื่อง ผ้าเบรค ยางรถยนต์ ฯลฯ อะไหล่บางชิ้นรู้ด้วยระยะเวลาของการใช้งาน เช่น ท่อยางต่างๆ ในห้องเครื่อง เช่น ท่อยางหมอน้ำ ยางแท่นเครื่อง ยางแท่นกียร์ ลูกปืนล้อ เป็นต้น