10 เทคนิคเลือกซื้อรถมือสอง

นิตยสารรถ weekly

     ตลาดรถมือสองทุกวันนี้อาจซบเซาลงไปบ้าง คนส่วนใหญ่อาจหันไปสนใจ Eco Car ซึ่งราคาพอๆ กับรถมือสองเกรดเดียวกัน แต่รถมือสองก็ยังเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการเซฟงบประมาณหรือใจรักในการใช้รถมือสอง  


1.คำนวณงบประมาณที่คุณสามารถจ่ายได้ อย่าลืมค่าจดทะเบียน, ค่าประกันภัย, และค่าบำรุงรักษากรณีเกิดเหตุฉุกเฉินด้วยล่ะ ถ้าต้องการสินเชื่ออย่าลืมเลือกอัตราที่ดีที่สุด ปรึกษาบริษัทสินเชื่อใกล้บ้านก็ได้


2. ทำวิจัยสักนิด
ก่อนซื้อรถยนต์มือสองต้องทำรีเสิร์ชรถรุ่นที่ชอบ ราคาตลาด ราคากลาง จากทางเว็บไซต์หรือตามโชว์รูมขายรถต่างๆ ระวังรถที่ราคาถูกกว่าท้องตลาดมากโดยไม่มีเหตุผล เช็ครายละเอียดให้ถ้วนถี่ ก่อนตัดสินใจซื้อ


3. เลือกรถที่เหมาะกับเรา
เลือกรถยนต์มือสองจากประเภทหรือราคาที่เหมาะกับเราจริงๆ หาข้อมูลผ่านรีวิวกูรูเกี่ยวกับรถยนต์มือสองรุ่นที่ต้องการ เช็คข่าวรถใหม่ หากมีรุ่นใหม่ออกมาแทนตัวที่ต้องการ ราคาจะได้ถูกลง


4. ติดต่อพนักงานขาย
ลิสต์คำถามในใจ ถามให้มากที่สุด เช่น รถยนต์มือสองนี้ใช้มานานเท่าไหร่แล้ว, วิ่งรอบไมล์เท่าไหร่, มีอาการรวนอะไรบ้าง


5. สถานที่นัดดูรถ
ถ้าเป็นรถยนต์มือสองที่เจ้าของขายเอง ให้นัดดูรถยนต์มือสองที่บ้านเจ้าของรถ อย่านัดพบนอกสถานที่ ตรวจดูเลขทะเบียนให้แน่ใจว่าเป็นที่อยู่เดียวกับบ้าน


6. เช็คประวัติรถยนต์
เช็คประวัติรถยนต์มือสองให้แน่ใจว่ารถไม่ถูกขโมย, หรือติดไฟแนนซ์, หรือโดนชนจนสภาพเครื่องยนต์เสียหาย


7. ตรวจสภาพรถ
เช็ครถทุกรายละเอียดด้วยตัวเองหรือหาช่างที่มีประสบการณ์ไปพร้อมคุณ เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดทั้งโครงสร้างภายนอกและระบบเครื่องยนต์ภายใน ดีที่สุดถ้าเป็นไปได้ ยกรถขึ้นเพื่อตรวจศูนย์ถ่วงและกลไกต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ค้นพบปัญหาความเสียหายที่เคยเกิดขึ้น
- การตรวจเช็คสภาพรถยนต์มือสองต้องทำเวลากลางวันเสมอ ไม่ควรตรวจขณะฝนตกหรือที่มืด ซึ่งจะทำให้มองไม่เห็นร่องรอย, สนิม, ฝุ่นหรือปัญหาต่างๆ
- ตรวจเช็คใต้รถ, ฝากระโปรงห้องเครื่องและใต้พรมว่ามีสิ่งสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอม เช่น รอยเชื่อมต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารถเคยถูกชนมาแล้ว
- ตรวจเช็คฝาครอบตัวกรองน้ำมันหากพบสารที่่มีลักษณะหนืดข้นคล้ายมายองเนส อาจเป็นตัวบ่งชี้ว่าหัวปะเก็นมีปัญหา ซึ่งก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายตามมาหากต้องทำการเปลี่ยนภายหลัง
- ตรวจดูยางให้มั่นใจว่าอยู่ในสภาพดีดอกยางไม่เลือน
- ก้มลงดูล้อด้านหน้าแต่ละข้างตามความยาวของรถ ล้อหน้าทั้งสองข้างต้องอยู่ตรงกับล้อหลัง หากไม่ตรงอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุภายหลัง จากลักษณะโครงสร้างที่บิดเบี้ยว
- เช็คช่องว่างระหว่างหน้าต่างรถยนต์ว่าเท่ากันหรือไม่ หากไม่เท่ากัน สันนิษฐานว่าอาจมีการยกเครื่องใหม่หรือรถยนต์เคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
- ภายในรถ ตรวจเช็คให้แน่ใจว่าเข็มขัดนิรภัยทำงานถูกต้อง, พวงมาลัย, แผงหน้าปัดรถยนต์ ทำหน้าที่ได้ดี เบาะด้านหน้าเคลื่อนที่ได้สะดวกและสวิทช์ต่างๆ ทำงานถุกต้อง
- สตาร์ทรถขณะเครื่องเย็น จะสามารถเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน เช่นสตาร์ทติดยากหรือมีควันมากเกินไป


8. ทดลองขับรถยนต์มือสอง
- ก่อนออกรถหมุนพวงมาลัยจากล็อคให้แน่ใจว่าไม่มีเสียงครูดหรือเสียงอื่นๆ ดังออกมา
- ทดสอบเบรคมือ ให้ดึงเบรคมือขึ้นและออกรถให้เบาที่สุด รถควรจะหยุดทันที
- เสียงเครื่องยนต์แปลกไปหรือไม่ อย่าให้เซลดึงความสนใจจากการฟังเสียงเครื่องยนต์ด้วยการพูดคุยหรือเปิดวิทยุ
- ทดลองขับบนพื้นผิวถนนที่แตกต่างกันให้มากที่สุด
- ใช้เกียร์ทั้งหมดและเช็คขณะเปลี่ยนเกียร์มีความต่อเนื่อง
- ต้องมั่นใจว่าคันเหยียบคลัทช์ สบกันระหว่างส่วนบนและส่วนกลางของคันเหยียบ


9. ต่องรองราคารถยนต์มือสอง
ราคาก็คือราคา แต่จะลดลงได้จากการต่อรองเสมอ
- ลิสต์รายการข้อเสียที่พบจากรถยนต์มือสอง คำนวณว่าราคาที่ต้องบวกเพิ่มจากการซ่อม เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่
- จากจุดนี้ให้ต่อรองราคากับเซล
- ถามเซลว่าให้ราคาดีที่สุดได้เท่าไหร่ แล้วเสนอราคาที่ต่ำกว่าจากนั้นไม่ต้องพูดอะไร เซลจะค่อยๆ ลดราคาตามที่คุณต้องการหรือขยับราคาให้ใกล้เคียง


10. การชำระเงิน
- ต้องมั่นใจว่าเอกสารต่างๆ ครบถ้วน และต้องได้รับเอกสารต้นฉบับทั้งหมด ไม่ใช่สำเนา เอกสารจดทะเบียน, บริการ, ประวัติต่างๆ
- หากทำการชำระเงินหรือมัดจำใดๆ ต้องได้รับใบเสร็จพร้อมรายละเอียดของผู้ขารยบนใบเสร็จ
- ไม่ควรจ่ายเงินโดยที่ไม่เห็นรถ หรือไม่ได้รับใบเสร็จพร้อมรายละเอียดยืนยัน