ทำความเข้าใจกันก่อนว่าเครื่องยนต์ต้องการความร้อนที่คงที่ครับ อยู่ที่ระดับ 85-92 องศา จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดีที่สุด ถ้าต่ำกว่านี้ สูงกว่านี้ เครื่องก็อาจพังได้ รถจึงต้องมีหม้อน้ำมาระบายความร้อน โดยมีวาล์วน้ำ เป็นตัวกักน้ำให้อยู่ในอุณหภูมิที่คงที่ หมายถึงว่า 85-92 องศา วาล์วจะเปิดให้น้ำร้อนระบายออกเข้าหม้อน้ำแล้วน้ำที่มีความเย็นในหม้อน้ำจะไหลเข้าเครื่องเพื่อระบายความร้อนของเครื่อง ถ้าความร้อนต่ำกว่าระดับ 85 องศา วาล์วน้ำก็จะปิดกักน้ำเอาไว้
สาเหตุที่พบส่วนใหญ่ของปัญหาเครื่องร้อน
*-วาล์วน้ำทำงานผิดปกติ (ค้าง/ไม่เปิด)
*-น้ำในหม้อน้ำไม่เพียงพอที่จะระบายความร้อน (หม้อน้ำรั่ว)
*-การระบายน้ำระบายความร้อนของหม้อน้ำไม่ดี (หม้อน้ำตัน)
*-พัดลมหม้อน้ำชำรุด (หมุนเบา/ไม่หมุน/น้ำมันฟรีปั้มหมด)
*-ฝาหม้อน้ำชำรุด (ฝาหม้อน้ำจะมีสปริงวาล์วอยู่คอยปรับแรงดันน้ำถ้าร้อนจัด)
*-ดัดแปลงขนาดของเครื่องยนต์ (หม้อน้ำสัดส่วนไม่เหมาะสมกับเครื่องยนต์)

     ข้อควรจำเมื่อพบว่าความร้อนขึ้นผิดปกติให้หยุดรถข้างทาง(อย่าดับเครื่องทันที)รอให้ความร้อนลดลงถึงระดับปกติก่อนแล้วค่อยดับเครื่องยนต์ ตรวจหาสาเหตุของความร้อนขึ้น อย่าไปแตะต้องกับหม้อน้ำหรือฝาหม้อน้ำ ดูระดับน้ำในหม้อน้ำจากระดับหม้อพักน้ำพลาสติค ถ้าต้องเปิดฝาหม้อน้ำควรหาผ้าหนาๆผืนใหญ่ชุบน้ำให้เปียกชุ่ม โปะลงไปที่ฝาหม้อน้ำ ค่อยๆคลายฝาหม้อน้ำทีละนิด ระวังอย่าหมุนที่เดียวสุดเกลียว ให้แรงดันไอน้ำระบายออกมาทีละนิดจนหมด แล้วถึงยกฝาหม้อน้ำขึ้นได้

     ถ้ายังมีน้ำอยู่ในหม้อน้ำบ้าง ค่อยๆเต็มน้ำลงไปทีละนิด หยุดรอซักพักประมาณ 1 นาที แล้วค่อยเติมอีกนิด แล้วหยุดรออีก แล้วเติมอีกนิด ทำอย่างนี้สลับไปเรื่อยๆจนเต็ม (ห้ามเติมน้ำเย็นลงไปเด็ดขาด) แค่นี้คุณก็สามารถขับรถคู่ใจของคุณไปหาอู่หรือศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุดเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบรถคุณอีกครั้งนึง แต่!!ควรเตรียมน้ำไว้ที่รถอีกจำนวนหนึ่งเพราะอาจเกิดเหตุการเดิมซ้ำ คอยมองที่เกจ์วัดระดับความร้อน ถ้าเริ่มขึ้นสูงกว่าปกติ ก็จอดข้างทาง แล้วเปิด”ฝาหม้อพักน้ำ”(“ฝาหม้อพัก”นะครับไม่ใช่ฝาหม้อน้ำ) เติมน้ำลงไปจนเต็ม แล้ววิ่งต่อไปแค่นี้คุณก็จะแก้ปัญหาเครื่องร้อนด้วยตัวคุณเองได้แล้วครับ