การดูแลรักษาเครื่องยนต์รถยนต์มือสองเป็นสิ่งสำคัญซึ่งต้องใช้การลงทุนสูง แต่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเชื้อเพลิง และเป็นการยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ของรถยนต์มือสอง ปัญหาทั่วไปที่มักพบกับเครื่องยนต์รถยนต์มือสองคือความร้อนเกินอัตรา ซึ่งอาจต่อยอดให้เกิดปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ความร้อนขึ้นสูงฉับพลัน, เครื่องยนต์เกิดเสียงรบกวน, เครื่องยนต์หนืดทำงานช้า, และปัญหากินเชื้อเพลิงมากกว่าปกติ ปัญหาดังกล่าวยังเชื่อมโยงไปถึงการทำงานของส่วนประกอบอื่นๆ บนรถอีกด้วย ออโต้ซีดส์มีคำแนะนำในการดูแลรักษาเครื่องยนต์รถยนต์มือสองง่ายๆ ที่คุณก็สามารถทำเองได้ 10 ข้อดังนี้
1. น้ำมันเครื่องเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับเครื่องยนต์ของรถยนต์มือสอง ทำให้การขับเคลื่อนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ควรเปลี่ยนทุกๆ 4,000 ถึง 9,000 กิโลเมตร และเช็คระดับน้ำมันเพื่อเติมทุกครั้งที่ลดน้อยลง
2. เช็คระบบกรองอากาศ หากพบฝุ่นหรือสิ่งแปลกปลอมในตัวกรองอากาศ ให้รีบเปลี่ยนทันที เพราะอาจเป็นสาเหตุให้ฟังค์ชั่นเครื่องยนต์หยุดชะงักได้
3. เมื่อตัดสินใจเปลี่ยนอะไหล่เครื่องยนต์ ต้องมันใจว่าใช้อะไหล่แท้ อะไหล่ปลอมไม่มีความน่าเชื่อถือซึ่งไม่เข้ากับเครื่องยนต์ของรถยนต์มือสอง และอาจทำให้เครื่องยนต์ของรถยนต์มือสองเกิดความเสียหายได้
4. ใช้เชื้อเพลิงพลังงานสะอาด เติมเชื้อเพลิงเสถียรสามารถช่วยป้องกันน้ำมันเก่าตกค้างได้
5. เพื่อการทำงานของเครื่องยนต์ของรถยนต์มือสองที่ดีเยี่ยม ควรเช็คสภาพแบ็ตเตอร์รี่เป็นระยะๆ
6. กล่องแบ็ตเตอรี่ควรปราศจากฝุ่นละอองหรือสิ่งอุดตัน หากพบการรั่วไหลหรือฝุ่นละอองบริเวณพื้นผิวกล่องแบ็ตเตอรี่ ให้รีบเปลี่ยนทันที
7. เครื่องยนต์รถประกอบด้วยสายพานราวริ้นซึ่งขับเคลื่อนเครื่องยนต์และประกอบด้วยสายพานเซอร์เพนไทม์ ซึ่งขับเคลื่อนปั๊มต่างๆ และอะไหล่ภายในรถยนต์ หากพบว่าเก่าหรือขาดให้เปลี่ยนทันที เพราะอาจเป็นสาเหตุให้เครื่องยนต์หยุดชะงัก
8. ตรวจเช็คน้ำมันเบรค, น้ำมันเครื่อง, สารหล่อเย็นเครื่องยนต์, น้ำมันพวงมาลัย, และน้ำมันเกียร์ ให้อยู่ในระดับที่มีการกำหนดไว้ ระดับน้ำมันต่างๆ มีส่วนช่วยยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์ของท่าน
9. ตรวจเช็คสภาพปลั๊กหัวเทียน ว่าเมื่อไหร่ต้องทำการเปลี่ยน ปลั๊กหัวเทียนที่เสียหายอาจเป็นสาเหตุให้เครื่องยนต์มีปัญหา และยังเป็นการป้องกันค่าซ่อมแซมอื่นๆ ที่จะตามมาอีกด้วย
10. หากพบว่าเครื่องยนต์มีเสียงรบกวน ให้นำรถเข้าศูนย์เพื่อตรวจกลไกภายใน เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องยนต์ได้รับการซ่อมแซมที่ถูกต้อง