การเลือกใช้วัสดุสำหรับเบาะรถยนต์ รวมถึงข้อดีข้อเสีย

นิตยสารรถ weekly

อันว่าเบาะรถยนต์นั้นก็มีหลายชนิดอยู่ขอแยกเป็นชนิด ๆ ไปก็ละกันเกิดของคุณตรงกับอันใหนเลือกอันนั้นไปเลย


1) เบาะหนังแท้


- ไม่อมความร้อน


- มีผิวสำผัสที่รู้สึกดีกว่าวัสดุชนิดอื่น


- ดูหรูหรา ภูมิฐาน


- มีความคงทนสูง (ถ้าใช้และดูแลอย่างถูกวิธี)


- รักษายากกว่าวัสดุตัวอื่น


- อาจเกิดเสียงดัง ออดแอดอันเกิดจากการเสียดสีของผิวสัมผัส


-เก็บความชื้นได้ดีกว่าหนังเทียม โดยทั่วไปคุณสมบัติของผ้าที่ถือว่าดีมีความคงทนถาวรที่สุดชนิดหนึ่งก็คือ หนังแท้ทั้งยังให้ความรู้สึกที่หรูหรามากกว่าผ้าชนิดอื่นแต่ราคาก็แพงกว่าอยู่มาก เรามาดูวิธีดูแลรักษากันนะครับ


- อย่าให้ถูกแสงแดดนาน ๆเพราะจะทำให้ผ้ากรอบได้เร็วกว่าปกติอันเนื่องมาจากรังสี UV


- พยายามอย่าโดนน้ำหรือความชื้นเพราะผ้าหนังแท้ มีคุณสมบัติซึมน้ำได้พอสมควรและที่สำคัญเมื่อหนังเกิดความชื้นขึ้นจะทำให้ตัวแบททีเรียที่ฝังอยู่ข้างใน ออกมาเดินเพ่นพ่านส่งกลิ่นอับ


-อย่าเช็ดเบาะด้วยน้ำยาเคลือบเบาะบ่อยนักควรใช้เท่าที่จำเป็นเพราะว่าเมื่อเราเช็ดไปแล้วนั้นน้ำยาต่าง ๆที่เราใช้เช็ดจะเข้าไปฝังอยู่ภายในทำให้ผ้านุ่ม ดูเหมือนใหม่ (ฟังดูดีจังนะครับ)แต่เมื่อใดที่สารดังกล่าวเสื่อมก็จะกลายเป็นสารที่มีความหนืดสูงซึ่งจะทำให้ผ้าแข็งขึ้นทำให้ต้องทาซ้ำใหม่เพื่อให้กลับมานิ่มเหมือนเดิม โดยจริง ๆ แล้วนั้นบางบริษัทที่มีรถยนต์ระดับหรูหราเขาจะใช้ Vaseline ทา บาง ๆจะทำให้ผ้าไม่กรอบง่ายแต่ต้องทาบ่อย ๆเพราะเขาจะติดอยู่แค่ผิวนอก หลุดออกได้ง่ายหน่อย แหมถ้าอยากจะใช้เบาะหนังแท้ให้สวยก็ต้องรักษากันหน่อยละครับ

2) เบาะหนังเทียม


- รักษาง่ายกว่าวัสดุตัวอื่น


- ไม่เก็บความชื้น


- อมความร้อน


- ผิวสัมผัสสบายไม่อบ


- ไม่ทนทานเท่าวัสดุตัวอื่น ๆวิธีการรักษาของวัสดุตัวนี้ไม่ยุ่งยากจัดได้ว่าง่ายที่สุดก็ได้ครับลองมาฟังดูแลัวจะรู้ว่าง่ายจริงๆ


- อย่าให้โดนแดดบ่อยนักอันนี้เป็นเหมือนกันทุกอย่างแหละครับโดยบ่อย ๆ เสื่อมเร็วอย่างเช่นยางต่าง ๆ เนี่ยเสื่อมเร็วกว่าเมืองนอกตั้งเยาะ นำเข้าก็แพง ภาษีโหดร้ายเลยต้องทน ๆ เอา


- ถ้าเบาะเลาะก็ใช้ผ้าชุบน้ำให้แล้วบิดพอหมาดเช็เเหมือนกับที่เช็ดแผงประตูหรือแผงหน้าปัทแหละครับคุณสมบัติไม่ต่างกันเท่าใหร่


-สำหรับเบาะชนิดนี้ก็ยังอุตส่าห์มีน้ำยามาเคลือบเงาอีกบางทีน้ำยาเคลือบเงาแพงกว่าค่าผ้าเสียอีกนะครับอย่างครั้งก่อนผมไปที่ห้างดังแห่งหนึ่ง ต้องการจะซื้อสินค้าประเภทรักษาเครื่องหนังเลยเข้าไปถามที่พนักงานขายสิ่งแรกที่เขาแนะนำให้เป็นน้ำยาเคลือบเงาเบาะรถยนต์ราคา พันกว่าบาท พอเห็นว่าผมเริ่มไม่สนในก็แนะนำตัวที่ถูกลงมา เหลือ 700บาท ผมก็เลยถามว่าแล้วที่ถูกกว่านี้มีใหมเขาตอบว่าใช้ยี่ห้ออื่นที่ทำในไทยแล้ว จะทำให้ผ้าแฉะ แหมอยากก้านคอเจ้าหมอนั่นจริง ๆของไทยไม่นิยมผมเลยซื้อให้เห็นเสียเลย แหมก็แค่ประมาณ 70 บาทเองถูกกว่าตั้งเยาะใช้ได้เหมือนกัน

3) เบาะกำมะหยี่,เบาะผ้า


- ไม่อมความร้อน


- มีผิวสำผัสที่รู้สึกดีกว่าหนังเทียม


- ดูหรูหรา ภูมิฐานรองมาจากหนังแท้


- มีความคงทนสูง (ถ้าใช้และดูแลอย่างถูกวิธี)


- รักษายาก


- เก็บความชื้นได้ดี


- มีกลิ่นอับง่าย

วิธีการดูแลรักษาที่เห็นจะยากที่สุด ก็เป็นเรื่องของความสะอาดเพราะ เป็นวัสดุที่มีความสามารถเก็บสิ่งสกปรกต่างๆ ในตัวเองได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะของเหลวที่ใหลซึมเข้าสู่เนื้อในแล้วละก็ตัวผ้าจะเป็นด่างในทันที่โดยส่วนมาก วัสดุชนิดนี้ที่นำมาใช้ในรถยนต์นั้นมักจะใช้สีเข้ม เพื่อเป็นการเลี่ยงสีไม่ให้เห็นสิ่งสกปรกด้านใน


วิธีการดูแลรักษามีอยู่ 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ


กลุ่มที่ 1 เพิ่งซื้อรถยนต์มาใหม่หรือเปลี่ยนผ้าเบาะใหม่ ในกลุ่มนี้สามารถหาซึ้สเปรฉีดกันน้ำฉีดก่อนเพื่อเคลือบผิวผ้าไม่ให้อมน้ำได้ง่ายนักแล้วก็พยายามอย่าให้ถูกน้ำบ่อยๆ ละครับ ถึงแม้ว่าจะป้องกันแล้วก็อาจพลาดได้ จริงป่าว


กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่ใช้มาได้ซักระยะแล้วมีวิธีดังนี้ครับ ถ้าขยันพอก็ถอดเบาะต่าง ๆที่ต้องการจะล้างนำมาไว้กลางแดดแล้วใช้ผ้าชุบน้ำผงซักฟอก แล้วมาขัด ๆ ถู ๆสลับกับผ้าแห้ง สะอาด ๆจนกว่าสีจะค่อย ๆ จางลงเรื่อยๆ แล้วก็จะสะอาดเองแล้วก็นำไปตากแดดให้แห้งสนิทจึงค่อยนำไปไว้ในรถอย่างเดิม เป็นอันเรียบร้อย