รถยนต์ในปัจจุบันที่วิ่งอยู่บนท้องถนนนั้น มีมากมาย มีทั้งเก่า ทั้งใหม่ ปะปนกันไป อายุการใช้งานก็แตกต่างกันไป แล้วแต่สภาพของรถคันนั้นๆ
การดูแลรักษานั้นก็แล้วแต่ละคนว่าจะดูแลรถยนต์ของตัวเองได้ดีแค่ไหน ต้องหมั่นตรวจเช็คตามเวลาของมัน อะไหล่ของรถยนต์ทุกส่วนต่างต้องการ การดูแลรักษาเพื่อให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้อย่างยาวนาน เพราะฉะนั้น ถ้าอุปกรณ์หรืออะไหล่ทุกส่วนได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ก็ทำให้รถของเราได้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ถ้ากล่าวถึงการทำความสะอาดอะไหล่ส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญ และคนส่วนใหญ่ไม่ได้คำนึงถึงสักเท่าไหร่ เพราะเป็นส่วนที่คนจะมองข้ามไปหรือไม่สนใจนั่นก็คือ การล้างเกียร์ เกียร์เป็นส่วนที่ถูกใช้งานมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเกียร์ธรรมดา เกียร์ออโตเมติก จะมีการสึกหรอมากที่สุด ถ้าจะถามว่าทำไมต้องล้างเกียร์ ก็คือ เพราะในเกียร์จะมีแผ่นคลัชหลายชิ้นมาก มันจะเป็นคาร์บอนและจะทำให้เกิดแผ่นสีดำเป็นผง เจ้าสิ่งนี้เองที่จะทำให้เกียร์สกปรกและเสื่อมสภาพถ้าปล่อยให้มันผงคาร์บอนเกาะหนาจนเกินไป การดูแลรักษานั้นจะต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ การถ่ายน้ำมันเกียร์นั้นต้องดูจากกระบุกน้ำมันเกียร์บริเวณห้องเครื่องตรงฝากระโปรงหน้ารถว่าสีของน้ำมันเปลี่ยนไปจากเดิมหรือเปล่า
หรือมีการพร่องของน้ำมันเกียร์หรือไม่ และอีกอย่างที่สำคัญก็คือต้องล้างไส้กรองภายในห้องเกียร์ ถ้าจะถามว่าขั้นตอนและวิธีการของการล้างเกียร์นั้นมีอะไรบ้าง ก็คือ ถ้าเป็นรถทั่วไปจะมีกรองเกียร์อยู่ใต้แท็งค์ เราก็ต้องลื้อออกมาเพื่อทำความสะอาดหรือล้างไส้กรอง แต่ถ้าสกปรกมากอาจจะต้องถึงขั้นเปลี่ยนเลยก็ได้ ส่วนไม้วัดน้ำมันเกียร์จะอยู่ด้านบน รถแต่ละรุ่นจะไม่เหมือนกันอาจจะแตกต่างกันแค่ตำแหน่งการวางของมันว่าจะอยู่ด้านไหน แต่กรองเกียร์จะอยู่ด้านล่างต้องถอดแท็งค์ออกมา แล้วจะมีไส้กรองอยู่ด้านใน
ส่วนขั้นตอนการล้างเกียร์นั้นต้องเข้าไปดูใต้ท้องรถจะมีน๊อต ถ่ายน้ำมันออกแล้วก็ต้องถอดน๊อตรอบแท็งค์ และถอดไส้กรองออกมา แล้วมาดูถ้ามันดำต้องสังเกตดูช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็กๆ ที่ดูดน้ำมันเข้าไปว่ามีสิ่งสกปรกอยู่หรือเปล่า เพราะว่าถ้ามีสิ่งสกปรกอยู่เวลาดูดน้ำมันเข้าไปก็จะติดสิ่งสกปรกเข้าไปด้วยทำให้ระบบเกียร์มีปัญหา เรื่องของอาการที่จะบ่งบอกว่าเกียร์สกปรกสมควรแก่การทำความสะอาดก็คือ การเปลี่ยนเกียร์จะกระตุก กระชากไม่นิ่มนวล ถ้าเกียร์ธรรมดาไม่เกี่ยวกัน อาการนี้จะใช้เฉพาะเกียร์ออโตเมติกเท่านั้น แต่ถ้าเป็นเกียร์ธรรมดานั้นตรวจสอบได้คือ เวลาเข้าศูนย์บริการหรือปั๊มน้ำมันสามารถตรวจสอบได้คือดูวันน้ำมันดำหรือไม่ แต่จริงๆ แล้วควรถ่ายน้ำมันเกียร์ตามระยะที่กำหนดไว้แค่นี้ก็สามารถทำได้ง่ายๆ
ส่วนการล้างเกียร์กับการถ่ายน้ำเกียร์จะไม่แตกต่างกันนัก เพียงแต่ว่าการล้างเกียร์นั้นต้องถอดแท็งค์ออกมาเพ่อดูกรองน้ำมันด้วย แต่ถ้าถ่ายน้ำมันเกียร์ก็เพียงแต่ไขน๊อตด้านล่างแล้วถ่ายน้ำมันเกียร์ได้เลยไม่ยุ่งยาก อีกอย่างวิธีการสังเกตุว่าถึงเวลาหรือยังถ้าล้างไปแล้ว ครั้งต่อไปจะต้องล้างอีกเมื่อไหร่ ให้สังเกตุจากการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ 1 รอบถ้าสีน้ำมันยังไม่ดำจนเกิดไปก็ไม่ต้องถอดมาล้าง ให้ดูจากไม้วัดน้ำมันเกียร์ทำลักษณะการเช็ดว่าน้ำมันเครื่องควรเปลี่ยนหรือยัง ก็คือ การยกไม้วัดน้ำมันขึ้นมาเช็ดดูว่าสีของน้ำมันเป็นอย่างไร จะคล้ายๆ กันการดูสีของน้ำมันเครื่อง รถแต่ละยี่ห้อจะมีการล้างเกียร์จะแตกต่างกันบ้างเช่น รถยุโรป รถญี่ปุ่น นั้นมีลักษณะที่คล้ายกัน แต่มี HONDA นี่แหล่ะจะแตกต่างจากประเภทอื่น คือ ตัวแท็งค์จะอยู่ด้านในต้องยกเกียร์ออกมา และจะล้างลำบากกว่ายี่ห้ออื่น ควรเข้าศูนย์และอู่ที่มีความชำนาญเพื่อให้รถของคุณได้ทำโดยช่างที่มีความสามารถในด้านนี้จริงๆ
ก็ได้ทราบกันไปแล้วกับการล้างเกียร์ออโตเมติก ว่าเราจะทำอย่างไรกับมันถ้ากรณีนี้เกิดกับตัวเราเอง การล้างเกียร์บางคนมองข้ามไปโดยที่ไม่ทราบว่าต้องล้างด้วยหรือ ส่วนมากเน้นไปกับการถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก เปลี่ยนคลัช เป็นต้น ในกรณีนี้สำคัญไม่แพ้สิ่งที่กล่าวมาข้างต้น รถแต่ละคันมีความเสื่อมของอุปกรณ์หรืออะไหล่ด้วยกันทั้งนั้น แล้วแต่ว่าคุณจะรักษาและดูแลมันดีแค่ไหน ถ้าคุณใส่ใจกับรถคันเก่งของคุณ มันก็จะอยู่กับเรานานๆ