ในการขับรถในที่จราจลแออัดทำให้เราต้องเหยียบเบรคอยู่บ่อย ๆ การเหยียบเบรคย้ำ ๆ บ่อย ๆ นี่เองที่ทำให้เกิดอันตรายต่อเราได้และผู้ร่วมทางกับเราได้ ดังนั้นก่อนที่จะเบรครถเราควรต้องดูสิ่งที่อยู่รอบตัวรถเราให้ดี และควรรู้ว่าเวลาไหนควรเตะเบรคเบา ๆ เพื่อชะลอ เวลาไหนควรที่จะเหยียบเพื่อหยุด เราขอแนะนำเทคนิควิธีเหยียบเบรคอย่างถูกต้องและเหมาะสมครับ
เรื่องการขับๆเบรคๆ เป็นเรื่องที่เราหลายคนเคยเจอ แต่ก็ไม่มีอะไรดีเยี่ยมเท่ากับได้เรียนรู้พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ ที่ล่าสุดเราก็มีโอกาสได้ไปสัมผัสจากรุ่นพี่ท่านหนึ่งระหว่างการเดินทางท่อง เที่ยวช่วงวันหยุดยาว จนรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุของพฤติกรรมที่อาจจะเป็นอันตรายต่อเพื่อนร่วมทางและ ตัวผู้ขับขี่คนดังกล่าวเอง
พฤติกรรมการขับรถแบบ " ขับๆเบรคๆ" เป็นพฤติกรรมที่ผิดอย่างยิ่งในการขับรถแม้คุณอาจจะเถียงว่ากรมการขนส่งออกใบ อนุญาตให้มีสิทธิในการขับขี่ถูกต้อง ทว่าความจริงแล้วมันไม่ได้เกี่ยวกับกรมขนส่งแต่เป็นเรื่องที่ควรรู้ในการขับ ขี่ ซึ่งคนเหล่านี้ต้องการที่จะรักษาระดับความเร็วให้คงที่ตามต้องการ เพียงแต่พวกเขาไม่รู้วิธีการรักษาความเร็วที่ถูกต้อง
"การรักษาระดับความเร็ว" นั้น เป็นเรื่องสำคัญขั้นพื้นฐานในการขับขี่ ที่ว่าด้วยการรักษาระดับความเร็วที่ต้องการของผู้ขับขี่ให้เป็นไปตามความ ต้องการในการเดินทาง ซึ่งนอกจากจะทำให้การขับขี่ราบลื่นและไม่ชวนเหนื่อยล้าของทั้งผู้โดยสารและ ตัวผู้ขับเองแล้ว ข้อสำคัญที่สุดของเรื่องนี้คือตัวเลขประหยัดน้ำมันที่จะดีขึ้นทันตาเห็น
หลายคนมีวิธีรักษาระดับความเร็วที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพยายามคงที่ความเร็วในการเดินทางซึ่งตามปกติแล้ว เราควรคันเร่งเป็นตัวกำหนดความเร็วที่สำคัญ และวันนี้เรามี 4 ข้อแนะนำมาบอกกล่าว ที่น่าจะช่วยให้คุณเลิกพฤติกรรมขับๆเบรค
1.จำไว้ "เบรคมีไว้หยุดและชะลอ" เท่านั้น จากที่สังเกตเกี่ยวกับการขับขี่ของคนที่มีพฤติกรรมขับๆเบรคๆ นั้น ข้อสำคัญที่เราเห็นได้ชัดคือคนเหล่านี้เชื่อมั่นในเบรคมากกว่าการควบคุมรถ ด้วยคันเร่ง ซึ่งถือว่าเป็นความคิดที่ผิดเพราะเบรคนั้นมีไว้เพื่อหยุดรถ หรือลดความเร็ว แต่แม้เราจะบอกว่ามันใช้ ลดความเร็วก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะใช้ควบคุมความเร็วได้ผล เพราะ ทุกครั้งที่คุณเหยียบเบรกไฟเบรกด้านท้ายรถจะติดตามไปด้วย ทั้งยังเป็นการสั่งให้เครื่องยนต์ทำงานช้าลงด้วยการดูดลมจากไอดีไปใช้เพื่อ เสริมแรงกดเบรก ซึ่งอาจจะทำให้คุณเสี่ยงโดยเฉพาะในภาวะฉุกเฉิน
2.ควบคุมคันเร่ง เรื่องง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเอง ข้อ สำคัญในการขับรถนั้นเราหลายคนอาจจะรู้ดีว่า คันเร่งคือตัวเร่งที่ทำให้รถพุ่งทะยานไปข้างหน้า แต่นอกจากมันจะทำให้รถขับเคลื่อนแล้วนั้น เรายังต้องรู้จักควบคุมให้พอเหมาะพอดีในการเดินทาง ซึ่งคุณต้องรู้จักเร่งและผ่อนอย่างเหมาะสม ยิ่งในการเดินทางไกลหากใช้คันเร่งน้อยเท่าไร โดยที่ความเร็วยังคงที่ตามความต้องการนั้นหมายความว่า คุณกำลังขับประหยัดมากขึ้นเท่านั้น
3.ขับๆเบรคๆ ทำแบบนี้มีแต่ข้อเสีย หลาย คนอาจจะไม่ทราบ แต่เชื่อหรือไม่ครับว่า พฤติกรรมการขับขี่ ด้วยวิธีเร่งๆพอถึงความเร็วก็เบรคแล้วก็เร่งอีกนั้น ล้วนมีแต่ข้อเสีย โดยเฉพาะการสึกหรอของชิ้นส่วนต่างๆเร็วกว่ากำหนด เช่นเบรก เครื่องยนต์ และระบบระบบส่งกำลัง สำหรับรถเกียร์อตโนมัติ นอกจากนี้ทำให้เกิดความร้อนสะสมโดยไม่จำเป็น ซึ่งทันทีที่คุณเลิกพฤติกรรมดังกล่าวก็จบว่าการสึกหรอต่างๆน้อยลง เปลี่ยนผ้าเบรค ช้าลง หและยังมีอัตราประหยัดน้ำมันที่น่าประทับใจขึ้นอีกด้วย
4.นึกถึงจิตใจเพื่อนร่วมทาง..ที่คุณเป็นอยุ่มันอันตราย เรา เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอการขับขี่แบบขับๆเบรคๆ มามากมาย แต่ถ้าวันนี้ท่านผู้อ่านคนใดทำพฤติกรรมดังกล่าวอยู่นั้น เราอยากให้ท่านลองปรับเปลี่ยน โดยนึกถึงเพื่อนร่วมเดินทางท่านอื่นๆ เป็นสำคัญ
ข้อสำคัญที่อันตรายที่สุดของพฤติกรรม "ขับๆเบรคๆ" นั้น คือการสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้ขับขี่ท่านอื่นๆที่ทันทีที่คุณเหยียบเบรค ไฟเบรคด้านท้ายจะติดขึ้นเพื่อบอกเป็นสัญญาณหยุด ทั้งๆที่จริงๆความต้องการของคุณเพียงแค่รักษาระดับความเร็ว แล้วลองนึกดูสิครับว่า ถ้าเป็นคุณตามหลังรถที่ขับแล้วไฟเบรคเดี๋ยวติด เดี๋ยวดับตลอดทาง ..คุณจะอารมณ์เสียหรือไม่
ทั้ง 4 เหตุผล สำคัญนี้ น่าจะพอบอกได้ว่าทำไมพฤติกรรมขับๆเบรคๆ ถึงเป็นอันตรายทั้งต่อตัวคุณเองและเพื่อนร่วทาง ซึ่งความจริงแล้วทั้งหมดนี้ไม่ได้มีข้อดีเลยสักอย่างและเพียงวันนี้คุณ รู้จักเรียนรู้ "การรักษาความเร็ว" ที่ถูกต้อง คุณก็ช่วยให้ถนนในวันนี้น่าขับขี่มากยิ่งขึ้น