**การดูแลกำลังและอัตราเร่ง**
1 รักษาเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดี หัวเทียนหรือหัวฉีดที่สกปรกจะลดประสิทธิภาพน้ำมันได้ถึงร้อยละ 30 และทำให้สมรรถนะของรถยนต์ลดลง
2 ตรวจสอบว่าหัวเทียนสะอาดและเปลี่ยนใหม่อยู่เสมอ หัวเทียนที่สึกหรอหรือหัวเทียนที่มีระยะจุดประกายไม่เหมาะสม จะทำให้มีโอกาสเกิดการจุดประกายไฟที่ไม่สม่ำเสมอมากขึ้น ส่งผลให้อัตราเร่งไม่คงที่และการขับขี่ที่กระตุกกระชากไม่นุ่มนวล
3 ไม่บรรทุกของหนักโดยไม่จำเป็นในกระโปรงรถ น้ำหนักที่เพิ่มเข้ามาในรถจะเพิ่มภาระให้แก่เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อน ส่งผลให้อัตราเร่งช้าลง น้ำหนักเพิ่มที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 45 กก. จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 2
4 นำรถยนต์เข้าตรวจเช็คสภาพอย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไส้กรองอากาศอยู่ในสภาพดี เนื่องจากความสกปรกที่สะสมอยู่อาจลดอัตราเร่งได้กว่าร้อยละ 10
**การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง**
5 ในการใช้น้ำมันแต่ละลิตร ไส้กรองอากาศจะต้องกรองอากาศถึง 10,000 ลิตร การเปลี่ยนไส้กรองอากาศที่อุดตันจะช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึงร้อยละ 10
6 ที่ความเร็ว 110กม./ชม. รถยนต์เผาผลาญน้ำมันมากกว่าการขับขี่ที่ความเร็ว 90กม./ชม. ถึงร้อยละ 25
7 ความลู่ลมของรถยนต์เป็นหนึ่งในการประหยัดน้ำมันเช่นกัน ควรขับขี่รถยนต์โดยเปิดกระจกและเอารางใส่ของบนหลังคาออกเมื่อขับขี่ที่ความเร็วมากกว่า 60 กม./ชม. ยิ่งรูปทรงที่ลู่ลมมากจะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากถึงร้อยละ 10
8 ตรวจสอบลมยางอย่างสม่ำเสมอ ลมยางอ่อนทุกๆ 2 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 1 และทำให้สึกหรอเพิ่มขึ้น
9 ขับขี่ให้นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ การขับขี่แบบกระตุกกระชากทำให้ประหยัดน้ำมันได้น้อยลงถึงร้อยละ 45
10 ล้างและเคลือบเงารถยนต์อย่างสม่ำเสมอ รถยนต์ที่มีความเรียบบื่นมากขึ้น ช่วยประหยัดนำมันเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 6 ที่ความเร็วบนทางด่วน
**การปล่อยไอเสีย**
11 การขับขี่แบบกระตุกกระชากและการขับเร็ว (เกินกว่า 100 กม./ชม.) จะสิ้นเปลืองน้ำมันและก่อให้เกิดมลพิษมากกว่า การขับขี่แบบกระตุกกระชากทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 10%
12 ผลการสำรวจความคิดเห็นของช่างเครื่องยนต์ชี้ให้เห็นว่า รถยนต์ที่ได้รับการบำรุงรักษาดีจะมีอายุการใช้งานยืนยาวกว่ารถยนต์ที่ไม่ได้รับการดูแลถึง 50 %
13 พยายามลดการใช้เครื่องปรับอากาศทุกครั้งที่มีโอกาส เช่นช่วงเวลากลางคืนควรเปิดแอร์เบาๆ
14 อย่า"ย้ำ" หรือเหยียบคันเร่งขณะที่ติดเครื่อง เครื่องยนต์รุ่นใหม่ส่วนใหญ่มีเครื่องวัดจุดสตาร์ทเย็นที่ตั้งไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเร่งเครื่อง
**การขับขี่อย่างมั่นใจ**
15 รักษาลมยางให้อยู่ในระดับที่ผู้ผลิตแนะนำ ลมยางอ่อนจะสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 3% และทำให้ยางสึกหรอเร็วขึ้น
16 น้ำมันเครื่องคือสิ่งหล่อเลี้ยงชีวิตที่สำคัญของเครื่องยนต์ จึงต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะก่อนเดินทางไกล
17 ไม่จำเป็นต้องอุ่นเครื่องยนต์ในตอนเช้าก่อนออกรถ แต่การขับอย่างนุ่มนวลคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
**สมรรถนะที่นุ่มนวล**
18 วาล์วไอดีที่สกปรกจะลดสมรรถนะเครื่องยนต์ ที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์ 2000 รอบ/นาที วาล์วไอดีในเครื่องยนต์ 4 สูบรุ่นใหม่ ซึ่งมี 4 วาล์วต่อ 1 สูบ จะเปิดและปิด 130 ครั้งต่อนาที
19 รักษาเครื่องยนต์ให้มีสมรรถนะสูงสุด การจุดประกายไฟที่ไม่สม่ำเสมอจะลดประสิทธิภาพน้ำมันเชื้อเพลิง 30% ควรเปลี่ยนไส้กรองตามที่แนะนำไว้ในคู่มือ
20 หัวฉีดน้ำมันที่สกปรกจะลดสมรรถนะเครื่องยนต์ ที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์ 2000 รอบ/นาที รถยนต์ 4 สูบจะฉีดน้ำมัน 65 ครั้งต่อนาที