เติมลมตามสเปคของรถที่กำหนด โดยศึกษาได้จากคู่มือของรถนั้นๆ เวลาเติม ลมยาง ควรเติมตอน ยาง ไม่ร้อนเกินไป หากต้องการวิ่งทางไกล นานๆ ควรเพิ่มลมยางอีกประมาณ 3 - 5 PSI ( ปอนด์/ตร.นิ้ว ) หมั่นเช็ค ลมยาง เป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
ความดันลมยาง สำหรับรถเก๋งและรถกระบะ
รถเก๋ง ความดันสูงสุด ไม่ควรเกิน 36 PSI ( ปอนด์ / ตารางนิ้ว ) ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของรถนั้นๆ ด้วย เช่น ...
- การเติมลมล้อ ของรถเก๋งขนาดเล็ก ความดันลมยาง ประมาณ 25 - 30 PSI ( ปอนด์ / ตารางนิ้ว )
- การเติมลมล้อ รถเก๋งขนาดกลางถึงใหญ่ ความดันลมยาง ประมาณ 30 - 35 PSI ( ปอนด์ / ตารางนิ้ว )
- การเติมลมยาง สำหรับรถกระบะ ความดันลมยาง ไม่ควรเกิน 65 PSI ( ปอนด์ / ตารางนิ้ว )
ผลของการเติมลมยางรถยนต์
ผลของ การเติมลมยาง มากเกินไป
บริเวณของกึ่งกลางของหน้ายางจะสึกหรอได้ง่าย การรับแรงและการยืดหยุ่นด้อยลง เมื่อมีการรับน้ำหนักหรือการกระแทก ก็อาจทำให้เกิดการระเบิดของยางได้ง่าย การทรงตัวและการเกาะถนน ไม่ดีเท่าที่ควร
ผลของการเติมลมยาง น้อยเกินไป
บริเวณไหล่ยาง จะสึกเร็วกว่าปกติ แก้มยางทำงานหนัก สึกหรอได้ง่าย การหมุนหรือบังคับ พวงมาลัย ได้ยากขึ้น การทรงตังของรถในขณะขับขี่ด้อยลง
นอกจากนี้หาก ดอกยาง สึกเป็นช่วงๆ คล้ายฟันเลื่อย สันนิฐานปัญหาอาจเกิดจากศูนย์ของล้อมีความผิดปกติ ดังนั้นจึงขอให้ท่านเจ้าของรถ ใช้ความระมัดระวัง และต้องเข้าใจ ในการ เติมลม ทุกครั้ง ถึงแม้เราจะไม่ได้เติมเองแต่อย่างน้อยก็ควรบอก เด็กปั๊ม ให้เติมลมยางได้ตามมาตรฐานที่กำหนด ก็จะเป็นผลดีต่อ ล้อแม็ก ยาง และรวมไปถึงความปลอดภัยแก่ตัวเราด้วย