การดูแลรักษารถประจำวัน

นิตยสารรถ weekly

     สำหรับผู้ใช้รถทุกท่าน การดูแลรักษาเครื่องยนต์ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการยืดอายุการใช้งานรถของคุณ ปรกติเราต้องตรวจตราดูแลรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ อาจจะสัปดาห์ละครั้งสำหรับการดูแลอย่างละเอียด แต่ถ้าเป็นไปได้ถ้าเราหมั่นดูแลรถของเราทุกวันก็จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ในปัจจุบันถึงแม้จะมีศูนย์ให้บริการดูแลรักษารถตามสถานที่ต่างๆ ตรวจเช็คระยะตลอดทุกๆ 10,000 กิโลเมตร แต่คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่ารถของคุณนั้นจะไม่เกิดปัญหาระหว่างทาง ทางที่ดีที่สุดคือความไม่ประมาท ควรจะหมั่นตรวจสอบอยู่เป็นระยะๆ เมื่อเกิดปัญหาจะได้ไม่บานปลายจนต้องเสียเงินไปอีกหลายพันจนถึงเป็นหมื่นๆบาท การดูแลรักษารถยนต์นั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่ยุ่งยากและเสียเวลามากเลย เรามีข้อควรปฏิบัติอย่างง่ายสำหรับการดูแลรักษารถยนต์ประจำวันของคุณมานำเสนอครับ


ประการที่1
ที่จะต้องตรวจก็คือ ลมยาง ตรวจง่ายๆ ด้วยสายตาว่ามันแฟบอ่อนหรือเปล่า ดูทุกเส้นนะครับ เพระถ้าลมยางของแต่ละล้อไม่เท่ากันจะมีผลต่อการทรงตัวของรถ ทำให้เบรกปัด, วิ่งส่าย, รถแถไปด้านหนึ่ง เป็นที่มาของการเกิดอุบัติเหตุด้วย อาจจะทำให้อายุของยางสั้นลง จึงต้องควักกระเป๋าก่อนถึงเวลาอันควรด้วยนะครับ เพราะฉะนั้น ถ้าพบว่าแรงดันลมไม่เท่ากันต้องตรวจเติมให้เรียบร้อย


ประการที่2
ที่ต้องตรวจนั้นคือ ตรวจดูรอยหยดรั่วของน้ำและน้ำมันต่างๆใต้ท้องรถ ซึ่งก้มดูด้วยสายตาทำได้ง่ายๆครับ ถ้าพบว่ารั่วที่ล้อและเป็นน้ำมันเบรก จะต้องงดใช้งาน รีบปรึกษาช่าง และเมื่อตรวจพบว่าน้ำระบายความร้อนรั่วหยดให้หาที่มาของการรั่ว ถ้าเป็นข้อต่อก็ไขควงกวดอัดให้แน่น และถ้าพบรอยรั่วของน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์หรือน้ำมันเฟืองท้ายก็อย่างนิ่งนอนใจ เมื่อมีเวลาจะต้องนำไปปรึกษาช่างเพื่อทำให้รอยรั่วนั้นๆหมดไป ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อกลไกดังกล่าวของรถยนต์นะครับ คราวนี้มาดูห้องเครื่องกันบ้างครับคือเครื่องยนต์และอุปกรณ์ในห้องเครื่องยนต์


ประการที่3
คือการดูแลน้ำระบายความร้อน วิธีดูก็ไม่ได้ยุ่งยากเลยนะครับ เพียงตรวจโดยการเปิดฝาหม้อน้ำออก ถ้าพบว่าน้ำพร่องน้อยลงไปก็ใช้น้ำสะอาดเติมลงไปให้เต็ม สำหรับรถบางคันนะครับ ลองสังเกตุดูว่าถ้ามีขวดพลาสติกที่เก็บน้ำอยู่และมีท่อเล็กๆต่อไปถึงหม้อน้ำ ก็ไม่ต้องเปิดฝาหม้อน้ำนะครับ ให้ดูระดับน้ำที่ขวดเก็บน้ำสำรองแทน ถ้าน้ำยังอยู่ในระดับที่กำหนดก็ไม่ต้องเติม แต่ถ้าต่ำก็ให้เปิดฝาขวดเก็บน้ำสำรอง แล้วเติมน้ำสะอาดให้เต็มนะครับ เรื่องดูแลน้ำระบายความร้อนอย่าละเลย เพราะจะทำให้เครื่องยนต์ของท่านเสื่อมสภาพเร็วได้นะครับ


ประการที่4
ดูแลตรวจเติมระดับน้ำมันเครื่องนะครับ เพราะถ้าน้ำมันเครื่องพร่องหรือแห้งจะทำให้เกิดการสึกหรอภายในเครื่องยนต์ วิธีตรวจระดับน้ำมันเครื่องก็ไม่ยุ่งยากอะไรเลย เพียงแต่ดึงเหล็กวัดออกมาเช็ดทำความสะอาดแล้วใส่กดลงไปยังตำแหน่งของมันให้สุดจากนั้น ดึงออกมาตรงๆในแนวดิ่ง ระดับน้ำมันจะสักเกตได้จากรอยคราบน้ำมันที่เกาะอยู่ปลายเหล็กวัด น้ำมันจะต้องอยู่ระหว่างกลางขีดที่มีอักษร L (Low) และ F (Full) ถ้าต่ำจาก L ก็ให้เติมให้อยู่ในระดับเท่าเดิม และไม่ควรเติมจนเกินอักษร F เพราะจะทำให้ควันขาวจากน้ำมันเครื่องเข้ามาห้องเผาไหม้ และซคลเพลาข้อเหวี่ยงรั่วนะครับ ซึ่งก็ไม่เป็นผลดีต่อเครื่องยนต์เลย


ประการที่5
การตรวจเติมน้ำมันเบรกในกระบอกเก็บน้ำมันเบรกที่แม่ปั้มเบรก ถ้ามีระดับสูงก้ไม่ต้องเติมนะครับแต่พ้าพร่องต่ำกว่าขีดที่กำหนดให้เติมจนได้ระดับที่ถูกต้อง การเติมน้ำมันเบรกมีข้อควรระวังก็คือ อย่าให้น้ำมันเบรกหกราดโดนสีรถจำทำให้สีเสียหาย และถ้าหก ห้ามเช็ดนะครับ ให้ใช้น้ำราดให้เจือจาง เพราะจะทำให้สีเสียหายเป็นแผลทางยาวไปตลอดแนวที่เช็ด สำหรับน้ำมันเบรกนั้น ถ้าพร่องมากๆทุกวัน จะต้องรีบนำรถไปปรึกษาช่างนะครับ "เพราะเบรกคือชีวิต" มีชีวิตของใครบ้างหรือครับ ก็ชีวิตของท่าน และผู้ที่โดยสารมากับท่านรวมถึงผู้ร่วมใช้รถใช้ถนนกับท่านด้วย


ประการสุดท้าย
การบำรุงรักษาประจำวัน คือกระบอกคลัตช์น้ำมันจะต้องมีการตรวจเติมน้ำมันให้อยู่ในระดับที่ถูกต้อง กระบอกดังกล่าวอยู่ข้างๆกระบอกน้ำมันเบรกและน้ำมันที่เติมก็คือน้ำมันเบรกนั่นแหละ อย่าละเลยครับ เพราะถ้าน้ำมันหมดจะเข้าเกียร์ไม่ได้ นั่นคือรถวิ่งไม่ได้นั่นเอง


++เพียงท่านเสียสละเวลาเพียง 15 นาทีต่อวัน หมั่นดูแลรักษาสภาพเพียงเท่านี้ รถของท่านก็จะอยู่ไปกับเราได้อีกนานครับ และคราวหน้าผมจะมาพูดถึงเรื่อง ข้อควรปฏิบัติก่อนการสตาร์รถยนต์ครับ++