ระบบล็อคความเร็วการขับขี่ หรือที่เรียกว่า Cruise Control ที่ติดตั้งมาในรถยนต์หลายรุ่น เพื่อช่วยให้การขับขี่ระยะทางไกลๆ มีความสะดวกสบายมากขึ้น เชื่อไหมครับว่า Cruise Control ยังสามารถช่วยประหยัดน้ำมันในการเดินทางมากขึ้นด้วย หากเรารู้จักฟังก์ชั่นนี้ดีพอ

     หลักการขับขี่รถให้ประหยัดน้ำมัน พื้นฐานของการขับรถให้ประหยัดน้ำมัน ข้อสำคัญนั้น คือ การขับขี่ด้วยความเร็วคงที่ที่สุด แต่เท้าของเราไม่สามารถบังคับคันเร่ง ให้ใช้ความเร็วคงที่ได้เพราะความเหนื่อยและเมื่อยล้าที่เกิดจากการขับขี่ ทางค่ายรถยนต์จึงมีระบบ Cruise Control เข้ามาช่วยเรา แต่จะใช้ให้ถูกต้องได้อย่างไรมาชมกันครับ

1.ต้องเริ่มจากรู้ถึงสภาวะการใช้งานที่เหมาะสมของระบบ Cruise Control เนื่องจากระบบนี้เป็นระบบที่ล็อคความเร็วอัตโนมัติ การใช้งานให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดนั้น คือ การใช้เมื่อคุณเดินทางระยะทางที่ไกล สามารถขับด้วยความเร็วคงที่ได้นานๆ

2. ระบบ Cruise Control โดยทั่วไปแล้วจะติดตั้งให้ใช้งานง่าย บางรุ่นอาจจะอยู่หลังพวงมาลัยด้านขวา แต่กับรถรุ่นใหม่ที่มาพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นนั้นมันจะอยู่ที่บนพวงมาลัย โดยสังเกตคำว่า Cruise หรือเป็นแบบสัญลักษณ์ โดยเราควรจะศึกษาวิธีการจากคู่มือให้ดีก่อนใช้งานจริง เพราะแต่ละรุ่นจะมีวิธีการใช้ไม่เหมือนกัน

3. วิธีการใช้เบื้องต้นทำความเร็วเท่าที่ต้องการ กดเปิดสวิทช์ตามระบบ Cruise Control แล้วเลือกความเร็วที่เหมาะสมซึ่งไม่น่าเกิน 110 กม./ชม. และไม่ต่ำกว่า 60 กิโลเมตร จากนั้นกดปุ่ม Set ที่อยู่ใกล้ๆกัน ระบบจะทำการล็อคความเร็ว ที่ใช้อยู่ทันที

4. เวลาต้องการเพิ่มหรือลดความเร็ว ระบบ Cruise Control ส่วนใหญ่แล้ว ใช้ปุ่ม + / - หรืออาจจะเป็น ACC / Coast โดยเมื่อต้องการเพิ่มความเร็วให้กดบวก และกดลบเมื่อต้องการลดความเร็ว แต่ถ้าการใช้มือไม่ทันใจ การใช้คันเร่งช่วย เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ และเมื่อคุณปล่อยคันเร่งรถก็จะมาอยู่ในความเร็วที่ Set ไว้ก่อนหน้านี้ แต่ถ้าต้องการล็อคความเร็วที่เพิ่ม ให้กด Set

5. ยกเลิก Cruise Control เมื่อคุณต้องการยกเลิกระบบนั้นโดยปกติแล้วจะมี 2 วีธีสำคัญ คือ 1 แตะเบรค ซึ่งระบบ Cruise Control จะทำการยกเลิกการล็อคความเร็วอัตโนมัติทันที หรือ หากต้องการใช้ความละมุนละม่อม ก็ให้ดูที่ข้างๆปุ่มเซทจะมีเขียนคำว่า Cancel

ระบบ Cruise control นั้นไม่ใช่เรื่องยาก ในการใช้งาน แต่สิ่งที่สำคัญ คือ คุณต้องเรียนรู้วิธีใช้งานของระบบและสภาวะที่เหมาะสมในการใช้งาน เพื่อช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และลดความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไกล