ในปัจจุบันการใช้รถยนต์ไม่เป็นเพียงพาหนะที่ใช้ในการเดินทางเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายคนยังใช้เป็นรถโชว์ รถแต่งเพื่อความสวยงาม

    ดังนั้นการดูแลรักษารถยนต์อยู่ในสภาพที่สวยงามถือว่ามีความสำคัญไม่ใช่น้อย แม้ว่าสีที่พ่นรถออก
มาจากโรงงานในปัจจุบัน จะมีประสิทธิภาพสูง แต่ด้วยความที่สภาพอากาศบ้านเรา มีมลภาวะค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะ
เป็น ฝุ่นละออง ควัน ไอเสีย สารเคมีในอากาศ ฯลฯ
    การเคลือบสีจึงมีส่วนช่วยในการปกป้องสีรถ ไม่ให้หมอง เก่า ด้าน หรือสีแตกก่อนเวลาอันควร อีก
ทั้งยังช่วยป้องกันรอยขีดข่วน รอยขนแมว และความร้อนจากห้องเครื่องและแสงแดด ที่สามารถทำลายสีรถ
ตลอดจนยังสามารถป้องกันคราบสกปรกต่างๆ ที่เกิดจากขี้นก ยางไม้ น้ำค้าง ยางมะตอยได้
    ทั้งนี้การเคลือบสีรถ ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก่อนที่จะเข้าสู่การเคลือบสีนั้น คุณจะต้องล้างรถให้สะอาดเสีย
ก่อน แต่ไม่ต้องเช็ดให้แห้ง เอาแค่พอหมาดๆ จากนั้นก็เทน้ำยาเคลือบสี ลงบนผ้านุ่มที่มีน้ำหมาดๆ จากนั้นจึงเริ่ม
เช็ดโดยวน เป็นก้นหอยให้ทั่วบริเวณตัวรถ ทิ้งน้ำยาไว้ตามระยะเวลาที่ระบุไว้ข้างกระป๋อง (ส่วนมากแล้วจะให้ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที)
    อย่างไรก็ตาม หากคุณมีเวลา อาจจะทิ้งไว้ทั้งวันก็ได้ เรียกว่า เคลือบเช้าเช็ดเย็นก็ได้ แบบว่ายิ่งนานยิ่งดี แต่คงไม่ต้องถึงขนาดข้ามวันข้ามคืน จากนั้นก็ใช้ผ้านุ่มๆ เช็ดน้ำยาออกให้หมด เป็นอันเสร็จ รถคุณจะมีสีที่ดูเงางาม แวววาว
    แม้ว่าการเคลือบสีจะเป็นการป้องกันสีรถ ไม่ให้ดูหมองๆ แต่ในความเป็นจริงอาจจะทำให้สีหมองเร็วขึ้นก็ได้เพราะ อาจจะมีความสกปรก ฝังอยู่ถ้าเคลือบบ่อยๆ ก็จะทำให้ครบสกปรกเพหล่านั้นฝังตัวติดแน่นขึ้น และถ้าเกิดละอองสี หรือยางมะตอย เมื่อเคลือบสีสิ่งเหล่านี้จะคอยกัดผิวสีรถคุณได้
   

สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่า ควรจะนำรถไปขัดสีตามศูนย์บริการต่างๆ บ้าง เพื่อจัดสิ่งสกปรกที่ฝังแน่นอยู่บนหน้าแลคเกอร์ของสีรถออกไป ทำให้รถเป็นประกายสวยใส ด้วยตัวของแลคเกอร์ที่แท้จริง
    แล้วมีคำถามต่อไปว่าเมื่อไรควรจะขัดสีรถ คำตอบก็คือประมาณ 4-6 เดือนก็พอ จากนั้นเคลือบสีด้วยตนเองที่บ้าน ประมาณเดือนละครั้ง หรือขึ้นอยู่กับความสะดวก
    ปิดท้ายจริงๆ ถ้าว่างลองหยิบถังน้ำ ผ้า แชมพู ล้างรถและเคลือบสีไปด้วยเลย ได้ทั้งออกกำลังกายและรถใหม่เอี่ยมจากฝีมือของคุณเอง ทั้งประหยัดเงินและน่าภูมิใจ...จริงๆ นะจะบอกให้