การบำรุงรักษาเครื่องยนต์ และบำรุงรักษารังผึ้งหม้อน้ำ

นิตยสารรถ weekly

การบำรุงรักษาเครื่องยนต์

เครื่องยนต์จะทำงานได้ดีและมีอายุการใช้งานยาวนาน ขึ้นอยู่กับการใช้และบำรุงรักษาที่ถูกวิธี ตามคู่มือของบริษัทผู้ผลิตกำหนด และผู้ใช้หรือผู้ควบคุมเครื่องจะต้องเอาใจใส่ดูแลตลอดจนแก้ไขข้อบกพร่องเล็กน้อย ตั้งแต่เริ่มแรกการเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นไม่มากหากละเลยความเสียหายจะเกิดขึ้นมากเป็นทวีคูณ ผู้ควบคุมเครื่องที่ดี ควรมีความรู้เกี่ยวกับเครื่องยนต์นั้นบ้างพอสมควรจะโดยมีพื้นฐานการศึกษาเดิม มีประสบการณ์มาก่อน ควรมีการอบรม ชี้แจงเพิ่มเติมให้รู้จักและเข้าใจในเครื่องยนต์เพิ่มขี้น และอีกประการหนึ่งที่ผู้ควบคุมควรมีคือ การรู้จักสังเกตสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ สาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้เครื่องยนต์ชำรุดสึกหรอ หรือเสียหายเร็วกว่ากำหนดคือ ระบบการหล่อลื่น น้ำมันเครื่องที่ใช้ในการหล่อลื่น ควรใช้ตามคู่มือของบริษัทผู้ผลิต กำหนดให้ใช้เฉพาะเครื่องยนต์นั้น ๆ น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ดีเซลจะต้องมีประสิทธิภาพในการหล่อลื่นที่ดีกว่า น้ำมันหล่อลื่นที่ใช้กับเครื่องยนต์เบนซินเพราะเครื่องยนต์ดีเซลทำงานในลักษณะที่หนักกว่าเครื่องยนต์เบนซินแลพยายามใช้น้ำมันหล่อลื่นที่ถูกต้อง และสวะอาดเท่านั้น อย่าใช้น้ำมันหล่อลื่นจากถังที่ตั้งทิ้งไว้โดยไม่ปิดฝา เพราความชื้นและฝุ่นละอองในอากาศจะทำให้มีน้ำและฝุ่นทรายปนอยู่ ถึงแม้ว่าได้เลือกใช้น้ำมันหล่อลื่นที่ดีแล้ว การใช้งานจะเกิดความร้อนสูงตะกอนจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงรวมตัวกับน้ำมันหล่อลื่นทำให้เสื่อมคุณภาพลงหากยังทนใช้ต่อไปจะเกิดการสึกหรอสูงหรืออาจเกิดการชำรุดเสียหายไดจึงมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นตามกำหนดเวลาที่บริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์กำหนดโดยให้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

การบำรุงรักษารังผึ้งหม้อน้ำ

รังผึ้งหม้อน้ำ ทำหน้าที่ควบคุมการระบายความร้อนจากห้องเผาไหม้เครื่องยนต์ ให้อยู่ในอุณหภูมิใช้งาน (Working Temporature) ระหว่าง 160 – 180 ฟ. มีลักษณะบอบบางและราคาแพง หากได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง หรือถูกวัสดุแข็งเพียงเล็กน้อย รังผึ้งหม้อน้ำก็จะชำรุดเสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขนส่งเครื่องสูบน้ำไปปฏิบัติงานในท้องถิ่น หากไม่ได้รับการเอาใจใส่ดูแลจากผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว รังผึ้งหม้อน้ำมักชำรุดเสียหายก่อน ที่จะนำเครื่องสูบน้ำไปใช้งาน ทำให้เกิดความยุ่งยากเสียเวลาในการซ่อมแซม แต่อย่างไรก็ตามหากผู้เกี่ยวข้องมีความรับผิดชอบ ก็สามารถป้องกันแก้ไขมิให้รังผึ้งหม้อน้ำเกิดการชำรุดเสียหายได้


ข้อควรระวัง
1. ต้องตรวจดูระดับน้ำทุก ๆ ครั้งก่อนติดเครื่องยนต์ ปกติระดับน้ำต้องอยู่ระหว่างคอหม้อน้ำ
2. ควรเติมน้ำที่สะอาดลงไปในหม้อน้ำเท่านั้น เพื่อป้องกันมิให้หม้อน้ำ หรือทางเดินของหลอดรังผึ้งหม้อน้ำเกิดการอุดตัน
3. ตรวจดูรอยรั่วตามที่ต่าง ๆ เช่น ท่อยางหม้อน้ำ รังผึ้ง ปั๊มน้ำ ฯลฯ หากมีรอยรั่วซึมให้ทำการซ่อมแซมแก้ไขทันที
4. ตรวจดูสายพาน อย่าให้หย่อนหรือตึงเกินไป ปกติต้องอยู่ระหว่าง ?” – 1”
5. ตรวจดูครีบที่รังผึ้งหม้อน้ำอย่าให้พับงอปิดช่องทางลม หรือสกปรกเต็มไปด้วยดินโคลนและคราบน้ำมัน เพราะจะทำให้ระบายความร้อนยาก เครื่องยนต์จะร้อนจัด หากครีบพับงอให้ใช้ใบเลื่อยหรือโลหะบาง ๆ ดัดให้ตรง ถ้าครีบสกปรกให้ทำความสะอาด ใช้ลมหรือไอน้ำร้อนที่มีความดันสูงพ่นย้อนทิศทางลมเข้า
6. พัดลมระบายความร้อนต้องอยู่ในสภาพที่ดี ไม่แตกหัก หรือบิดงอเสียศูนย์จะทำให้ปั๊มน้ำชำรุด
7. อย่าติดเครื่องยนต์โดยมิได้ปิดฝาหม้อน้ำเป็นอันขาด เพราะจะทำให้เกิดตะกรันในรัง
ผึ้งและภายใน เครื่องยนต์ เนื่องจากน้ำในรังผึ้งหม้อน้ำระเหยออกได้ง่าย เครื่องยนต์จะร้อนจัด เพราะระบายความร้อนยาก
8. เกย์วัดความร้อนต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ หากเสียใช้การไม่ได้ให้จัดการเปลี่ยนใหม่
9. อย่าปิดฝาหม้อน้ำเพื่อตรวจเช็คระดับน้ำในขณะที่เครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูง หรือกำลังทำงานอยู่ เพราะกำลังดันของไอน้ำจะทำให้เกิดอันตรายได้                                                10. หากน้ำในหม้อน้ำเกิดแห้งลงในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน และมีอุณหภูมิสูง อย่าดับเครื่องยนต์และเติมน้ำในทันที ให้ติดเครื่องเดินเบาสักระยะหนึ่ง พอให้อุณหภูมิเครื่องยนต์ลดลง แล้วค่อย ๆ เติมน้ำที่สะอาดลงไปทีละน้อยด้วยความระมัดระวัง                                                                                                                                                           11. ถ่ายน้ำทิ้งเมื่อเห็นว่าน้ำในหม้อน้ำสกปรก เช่น มีสนิม หรือคราบน้ำมัน การถ่ายน้ำมันให้ติดเครื่องเดินเบา พร้อมกับนำน้ำสะอาดมาเติมที่หม้อน้ำให้เต็มอยู่เสมอ ในขณะที่ก๊อกถ่ายน้ำมันกำลังเปิดอยู่ การทำเช่นนี้เพื่อให้น้ำมีการหมุนเวียนถ่ายสิ่งสกปรกทิ้งไปตามน้ำด้วย