ข้อดี ข้อด้อย ของอีโคคาร์ ในตลาดเมืองไทย ณ ตอนนี้

นิตยสารรถ weekly

     หลายๆคนที่กำลัง ติดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือก รถอีโคคาร์ คันใหนดี ผมไปเจอ บทความหนึ่ง จากพันทิพย์ ของเรานี่เอง เลยเอามาฝากกันรถ อีโคคาร์ ที่กำหนดว่า เครื่องยนต์ต้องไม่เกิน 1200 cc ทำให้หลายๆคนคิดว่า น่าจะประหยัดน้ำมันได้มากเลยทีเดียว และ การใช้งานในเมือง ก็น่าจะคล่องตัวกว่ารถคันใหญ่ มาลองดูกันว่า อีโคคาร์ แต่ละรุ่นในตลาดตอนนี้นั้น หลังจากผ่าน สมรภูมิ การใช้งานมาระยะหนึ่งแล้ว ความคิดความเห็น กับรถแต่ละคันเป็นอย่างไรกัน จึงขอสรุปตามนี้ก่อน สำหรับคนที่จะไปจอง eco car อาจจะพอเป็นประโยชน์ได้บ้าง

1 Suzuki Swift


เป็นรถที่ภาพรวมดีที่สุดแล้ว แล้วตอนแข่ง battle นำมาเป็นที่หนึ่งกระจุย ความสนุกในการขับเต็มพิกัด เรียกได้ว่าทิ้งห่างคู่แข่งในด้านความสนุกหลายขุม เหมาะสำหรับคนรักการท่องเที่ยว ขับทางไกล หรือหารถขับสนุกๆ ในวันหยุด แต่ด้วยเนื้อที่ที่ไม่ใหญ่นักในตอนหลัง ต้องคำนวณให้ดีว่าให้ความสำคัญกับเบาะหลังแค่ไหน สำหรับเกียร์ CVT นั้น ขับช้าๆ ไม่สนุก ถ้าเป็นคนขับรถช้าๆ อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเลือก Swift ส่วนเกียร์ ธรรมดา Swift ดีที่สุดในทุกๆ รุ่นที่เป็นเกียร์ ธรรมดา และถือว่าเป็นรถ Must buy ถ้าอยากขับสนุกแบบเกียร์ธรรมดา การเกาะถนนไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น สามารถขับโลดโผนได้เต็มที่ เป็นรถที่ขับแล้วอยากขับอีก ข้อเสียมีหนึ่งข้อ รุ่นเกียร์ CVT ออกตัวช้ามาก เป็นข้อเสียข้อเดียวที่มี

2 Nissan March



เป็นรถที่ออกแบบมาสำหรับผู้หญิงมากที่สุด เข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงที่สุด โดดเด่นเรื่อง option และของจุกจิกต่างๆ การขับขี่เน้นในแบบสบายๆ ตัวรถพยายามทำให้คนขับรู้สึกผ่อนคลาย การบังคับควบคุม และช่วงล่างจึงไม่ได้เซ็ตมาให้เป็นแบบรถแข่ง จะเป็นคนละมุมกับ Swift ถ้าขับสบายและเน้น option March รุ่น EL และ VL นั้นน่าสนใจที่สุด ส่วนเกียร์ธรรมดาไม่แนะนำ ส่วนรุ่น E CVT นั้นธรรมดาเกินไป เมื่อขาด option March ก็จะขาดสเน่ห์ไปในทันที แต่รถที่เน้นความสบายในกลุ่ม eco car นี้มีเพียงสองรุ่นก็คือ March และ Almera รุ่นที่ไร้ option สำหรับ Almera ยังคงตอบโจทย์ได้ดี เลือกไม่ยาก สำหรับกลุ่มรถที่เน้นความสบาย สำหรับการเกาะถนน ถ้าขับแบบปกติสามัญไม่มีปัญหา แต่ไม่เหมาะกับการขับขี่แบบโลดโผน

3 Mitsubishi Mirage


 


อยู่ใน category เดียวกับ Swift นั่นก็คือเป็นรถที่มีการยึดเกาะ และมีการบังคับควบคุมพวงมาลัยที่ดีกว่ารถบ้านทั่วไป ซื้อหาง่ายไม่ต้องรอแบบ Swift แต่ว่าการขับขี่ยังห่างชั้นจาก Swift อยู่มาก ด้านความสนุกในการขับขี่ สูสีกับ Brio สามารถขับไปเที่ยวเล่นหาความสนุกได้ทั้งคู่ Mirage รุ่นท๊อปน่าสนใจที่มีจอ Navi และระบบ Push start เพิ่มความสบายในการใช้งาน แต่ตัวรถยังมีปัญหาเรื่องเสียงมากถึงมากที่สุด ผู้ใช้จะต้องปรับตัวให้ชิน ส่วนเครื่องเสียงมีปัญหา ฟังไม่ค่อยได้ยิน ถ้าเพิ่ม volume ก็จะมีปัญหาเรื่องเสียงอื้ออึง ทั้งนี้ทั้งนั้นสามารถขับให้ชินได้และไม่จำเป็นต้องเปิดวิทยุดังจนเป็นอันตรายต่อหู ตำแหน่งการนั่งดีทั้งหมด วางขาซ้ายได้ดี การออกแบบดีกว่า March ทุกอย่าง อารมณ์ในการขับสำหรับผู้ชายก็ดีกว่าทั้งหมด ส่วนผู้หญิงเรายังแนะนำให้มอง March เพราะพวงมาลัยที่หนักของ Mirage ยังไม่ได้จำเป็นสำหรับคุณผู้หญิง ถ้าคุณไม่ใช่ คนที่ขับเร็วแบบหนักหน่วงจริงๆ สำหรับ Mirage เหมาะกับผู้ซื้อ ที่เป็นผู้ชาย หูแข็งแรงทนทาน ใจรักการขับขี่แบบสนุกสนาน มีเท้าที่หนัก เพราะใน eco car ทุกรุ่น Mirage คันเร่งต้านกับเท้าที่สุด สามารถซื้อได้ทุกรุ่นไม่มีปัญหา เกียร์ธรรมดาก็พอใช้ได้ สำหรับคนชอบ option ต้องเลือกรุ่นที่มี push start เท่านั้น รุ่นอื่นเราไม่แนะนำ สำหรับการเกาะถนน ให้ระวังการเข้าโค้งที่ไม่มั่นคงนัก และอาการส่ายของยางในความเร็วสูง

4 Honda Brio


 


ข้อเสียเรื่องกระจกหลังก็ยังเป็นข้อเสียจริงๆ เมื่อฝ่าฝน กระจกหลังจะมีน้ำเกาะเต็มไปหมดภายในเวลาไม่เกิน 2 นาที ถ้าถนนเต็มไปด้วยฝุ่นหรือโคลน กระจกหลังก็จะถูกเคลือบภายใน 10-15 นาที ไม่มีปาฎิหารย์เรื่องน้ำยาเคลือบกระจก หรือมีเทคนิคหลบเลี่ยงใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้การขับกลางคืนมีปัญหา มีทัศนวิสัยที่น่าอึดอัด ภายในของ Brio ไม่มีปัญหา นั่งสบายแน่นอน เพราะรูปทรงเท่าๆ กับ Jazz ที่ถูกตัดเนื้อที่สัมภาระท้ายไปเท่านั้นเอง การขับขี่สามารถขับได้อย่างเข็ดฟัน ได้อารมณ์สนุก เสียงดังมากเหมือนกัน ดังรองๆ จาก Mirage เล็กน้อย เครื่องยนต์ดีที่สุด ไม่มีอาการสั่นแบบอีก 4 รุ่น สามารถบังคับควบคุม เรียกพลกำลังออกมาได้ทันใจ แต่ถูกล็อคความเร็วไว้ต่ำมาก ทำลายความสนุกได้อย่างชะงัด ทั้งๆ ที่เป็นรถที่ทำออกมาเพื่อให้ขับสนุก เครื่องยนต์ 1.2 เครื่องนี้น่าประทับใจ และน่าไปใส่ใน Jazz ก็ยังไหว ภายในนั่งสบายหมด แต่ที่วางขาซ้ายของคนขับมีปัญหาในการวางขาอย่างมาก เพราะไม่มีความพอดี และพื้นผิวทำให้ฝ่าเท้าเกิดอาการชาไปจนถึงเจ็บแปล๊บๆ พวงมาลัยไวมากที่สุด เหมาะกับคนที่โฟกัสกับการขับ หรือเหมาะกับผู้ชายขับเช่นเดียวกับ Mirage แนะนำซื้อรุ่น S สำหรับคนที่ชอบ eco car ของ Honda เพราะรุ่น V ยัง
ไม่มีอะไรน่าสนใจ การเกาะถนนดีพอๆ กับ Mirage มีเรื่องการ lift บ้าง เข้าโค้งเร็วๆ โยนตัวบ้าง

5. Nissan Almera



ถ้าคุณกำมือมาเพื่อซื้อรถหนึ่งคัน ซึ่งเงินในมือของคุณมีค่ามาก หามายากลำบากด้วยน้ำพักน้ำแรง และไม่ได้ซื้อรถไว้ เพื่อเป็นเครื่องโอ้อวดฐานะ หรือซื้อมาขับเล่นๆ แก้เซ็ง Almera คือคำตอบหนึ่งเดียวเท่านั้นในขณะนี้ จนกว่าจะมี Mirage sedan หรือ Swift sedan มาเป็นคู่แข่ง Brio Amaze นั้นเลือกซื้อได้ที่รุ่น S มี verdict คล้ายกับ Brio แต่ถ้ามองแค่ Brio กับ Brio Amaze ตัว Amaze ชนะ Brio ขาดลอย สำหรับ Almera ถ้าเน้นการใช้งาน มีรุ่นต่างๆ ให้เลือกหลายรุ่น ส่วนถ้าเน้นความหรูหราซักหน่อย และมีความสบายไปด้วยในตัวก็จะมี 2 รุ่นท๊อป การขับขี่เป็นแนวเรียบๆ ตรงไปตรงมา แบบเดียวกับ March ไม่เหมาะในการเข้าโค้งแรงๆ หรือการขับแบบโลดโผน ที่จริงใน eco car ทั้ง 5 รุ่น มีเพียง Swift รุ่นเดียวที่ขับแล้ว เข้าโค้งเนียนที่สุด นิ่งที่สุดแม้จะขับเลย 170 กม./ชม.ไปแล้วก็ตาม ส่วน Almera เป็นรถที่มีพื้นฐานของซีดานครบ มีรูปร่างใหญ่ เนื้อเหล็ก วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ option ต่างๆ ครบถ้วนตามเงินที่เสียไป ด้านการขับขี่มันอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ แต่ไม่ได้ดีกว่าใคร หรือแย่กว่าใครมากนัก สำหรับผู้ที่ชอบรถขับสนุกหรือชอบเข้าโค้งหนักๆ ให้ข้าม March / Almera ไปได้เลย มันไม่ได้ถูกเซ็ตอัพมาเพื่อการนั้น

    สรุป ทั้ง 5 รุ่น สามารถเลือกได้ง่ายๆ สบายๆ ให้ตรงกับความต้องการของคุณ โดยทุกๆ รุ่นนั้นมีสเน่ห์ของมันอยู่ ผมชอบทุกๆ รุ่น และยัง ไม่เห็นรุ่นไหนน่ารังเกียจเลย ถ้าเป็นคนง่ายๆ ก็ขับได้ทุกรุ่นตามที่กล่าวมา อาจจะมีบางอย่างเป็นจุดเสียบ้าง บางจุดก็สามารถที่จะพอแก้ไขได้ ที่สำคัญคือทั้ง 5 รุ่น ต่างก็ขับแล้วประหยัดน้ำมัน ยังมีในส่วนของ service การบริการและศูนย์บริการ ที่ต้องมาคำนึงถึงอย่างหนักด้วย เหมือนกัน ตรงส่วนนี้อาจจะกลายเป็น Honda > Nissan > Mitsubishi > Suzuki ไป


   สำหรับ Swift ที่รอนานจนเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ที่จะซื้อ จนทำให้การเลือกซื้อ eco car ไม่ใช่เรื่องที่สนุกเท่าไหร่ เพราะเลือกไม่ได้ดั่งใจนี่แหล่ะ ตอนนี้ดู Brio และ Brio Amaze ตีตื้นขึ้นมาเป็นตัวเลือกแข่งกับ March และ Almera แล้ว ส่วน Mirage ดูจะเป็นตัวเลือกกลางๆ ที่น่าดึงดูดที่สุด อย่างที่บอกไปแล้ว เกณฑ์จริงๆ ในการเลือกนั้นมีอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าอารมณ์หรือเหตุผลจะมากกว่ากันก็เท่านั้นเอง