หลายท่านคงมีประสบการณ์เกี่ยวกับอุบัติเหตุมาบ้าง คนส่วนใหญ่มักใส่ใจกับกฎหมายที่เกี่ยวกับกับรถ แต่สิ่งหนึ่งที่เรามักจะละเลยคือการปฎิบัติต่อคนเจ็บอย่างถูกต้อง ถูกวิธี สิ่งแรกเมื่อคุณขับรถชนคน คือลงไปดูเหตุการณ์เพื่อประเมินสถานการณ์ เพื่อให้คุณตั้งสติได้ว่าขั้นตอนต่อไปควรทำอย่างไร ถ้าเขาบาดเจ็บไม่มาก หมายถึงสามารถเดิน พูดคุยได้ ก็ให้รอประกันมาเคลียร์ แต่ถ้าเขาบาดเจ็บปานกลาง คือ กระดูกหัก เป็นแผลเหวอะหวะในบริเวณที่ไม่สำคัญ ก็หาวิธีส่งไปโรงพยาบาลได้ แต่ถ้าถึงขั้นหมดสติ บาดเจ็บในตำแหน่งสำคัญ หรือ ไม่แน่ใจว่ารอดหรือไม่ ต้องรอรถพยาบาลอย่างเดียวครับ อย่าเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บเองเด็ดขาด แจ้งประกันในทันที ถ้าคุณทำประกันภัยไว้กับบริษัทใด ไม่ว่าประกันชั้นหนึ่งหรือประกันบุคคลที่สาม คุณควรจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบในทันที ดังนั้น คุณจะต้องมีเบอร์ของบริษัทประกันภัย หรือ โรงพยาบาล หรือ สถานีตำรวจหลายๆ แห่งไว้ในรถ
หาคู่คิด ถ้าคุณคิดว่า เหตุการณ์ร้ายแรงเกินกว่าที่คุณจะรับมือได้ ให้ติดต่อผู้ใกล้ชิดโดยด่วน เพื่อให้เขาเดินทางมาสมทบโดยเร็ว บอกจุดให้ชัดเจน หรือ แจ้งเขาให้ทราบว่า คุณจะเดินทางไปไหนในจุดหมายต่อไป ให้เปิดมือถือไว้ตลอดเวลาเพื่อการติดต่อ และให้โทรบอกสถานการณ์เป็นระยะๆ อย่าให้ขาดการติดต่อแม้ว่าจะไม่มีความคืบหน้าใดๆ ก็ตาม ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ถ้าผู้บาดเจ็บมีอาการหนักปานกลาง คือ บาดเจ็บในที่ไม่สำคัญ แต่ต้องรีบพาไปพบแพทย์โดยด่วน ให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยด้วยความระมัดระวังขึ้นรถของคุณ(หากยังพอขับได้) โดยอาศัยไทยมุงหรือคนแถวนั้น ช่วยกันหามขึ้นรถ โดยปกติ รถที่จะยอมจอดรับก็จะเป็นแท็กซี่ สามล้อและรถกระบะ อย่าเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บหนักด้วยตนเอง ในกรณีที่มีการบาดเจ็บในตำแหน่งที่สำคัญ เช่น ศีรษะ..คอ..สันหลัง ห้ามเคลื่อนย้ายเองโดยพลการ ไม่ว่าคนเจ็บจะร้องโอดโอย ขอให้ช่วยอย่างใดก็ตามแต่ คุณทำได้ดีที่สุด คือ อธิบายสถานการณ์ให้เขาเข้าใจ และเรียกรถพยาบาลโดยด่วน ให้ความช่วยเหลือเหมือนเขาคือญาติสนิทของคุณ การที่คุณขับรถชนเขา ถือว่า คุณได้ทำร้ายร่างกายและจิตใจไม่ใช่เฉพาะตัวผู้บาดเจ็บเท่านั้น แต่ยังหมายถึงครอบครัวอันเป็นที่รักของเขาทุกคนด้วย ดังนั้น..แม้ว่าเขาจะไม่ได้เดินข้ามทางม้าลาย เขาวิ่งตัดหน้า ถือว่า คุณขับรถโดยประมาททั้งสิ้น ไม่มีวันที่จะเป็นฝ่ายถูกกฎหมายได้เลย การผ่อนหนักเป็นเบาที่ดีที่สุดก็คือ เขาและครอบครัวเห็นใจใน
ความเอื้ออาทรของคุณ และยินยอมให้เรื่องจบไปโดยง่าย (แต่ไม่ได้หมายความว่า คุณพ้นผิด) การไปเยี่ยมเยียนอย่างสม่ำเสมอพร้อมของฝากในระหว่างที่เขารักษาตัวและคดี ความยังดำเนินอยู่ ก็สำคัญมาก เพราะบันทึกประจำวันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากมีข้อความว่า "ผู้ขับขี่ได้บรรเทาทุกข์เบื้องต้นอย่างใส่ใจและครบถ้วนจนทำให้ผู้บาดเจ็บพอ ใจในระดับหนึ่ง" สำคัญมากครับ เพราะเมื่อถึงตอนศาลอ่านพบ มันทำให้ศาลพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า "จำเลยได้สำนึกผิดและให้การช่วยเหลือด้วยดีมาโดยตลอด"
ยอมรับสารภาพผิดเพื่อให้คดีจบเร็วขึ้นและได้รับการลดหย่อนโทษ "ขับขี่โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ (สาหัสหรือตาย)" มีโทษทัณฑ์ตามลำดับ คือ ตัดแต้ม..ยึดใบอนุญาต..ปรับ..ทั้งจำทั้งปรับ ถ้าคุณสู้คดี โอกาสที่จะชนะมีแต่น้อยมาก และหากไม่ชนะอย่าลืมว่า เขาจะเรียกคุณเบิ้ลเท่าตัวเลยทีเดียว ถ้าคุณมั่นใจ 90 % ก็สู้คดีได้ แต่อย่าลืมว่าคุณเป็นผู้กระทำ เขาเป็นผู้ถูกกระทำให้ได้รับความเดือดร้อน พิการ ความรู้สึกทางด้านจิตใจ ตรงนี้เองที่คนที่เป็นผู้กระทำอดรนทนไม่ไหว ต้องเป็นฝ่ายยอมรับผิด เหตุเพราะสงสาร
กรณีเสียชีวิต แล้วคุณยอมรับผิด มาตรการที่ดีที่สุดคือ เจรจาค่าทำขวัญกับญาติของเขาให้จบไปถ้าคุณมีประกันภัย จะมีวงเงินคุ้มครองตรงนี้อยู่แล้ว แต่ญาติผู้ตายมักเรียกร้องเกินกว่าที่ประกันภัยจะยอมชดใช้ ก็อยู่ในวิจารณญาณของคุณ ถ้าคุณยอมจ่ายส่วนที่เกินแล้วเรื่องจบ ตำรวจนัดคู่กรณีมาบันทึกความตกลง ญาติผู้เสียหายยอมแล้ว โทษทางกฏหมายก็ไม่ถึงขั้นจำคุก
กรณีพิการตลอดชีวิต ถ้าตกลงค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาลกันได้ที่เงินก้อนหนึ่ง ก็ให้ไปทำความตกลงกันบนโรงพักที่เจ้าหน้าที่ เขาจะได้ไม่มาเรียกร้องค่าเสียหายกับคุณตลอดชีวิตข้อควรจำ แม้จะพูดจากันเข้าอกเข้าใจดี ก็อย่าตกลงกันเอง ให้เจ้าหน้าที่บันทึกไว้เป็นหลักฐานเสมอ มิฉะนั้น คุณอาจจะต้องเสียใจในภายหลังเมื่อคนที่ดูเหมือนง่าย กลายเป็นคนที่เขี้ยวลากดินที่สุดเท่าที่คุณเคยเจอมา ถ้าตกลงกันไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำสำนวนส่งฟ้องศาล ก็แล้วแต่ว่า ศาลจะพิจารณาตัวเลขที่เหมาะสมอย่างไร โดยดูจากสภาพความพิการ ฐานะทางการเงินของทั้งสองฝ่าย ยิ่งสู้คดีกันยาวๆ คนเจ็บก็จะยิ่งเสียเปรียบครับ ไม่มีโอกาสที่จะได้เปรียบมากขึ้นๆ ส่วนตัวคุณผู้ขับรถชนคนพิการ มีสภาวะทางจิตที่ต้องเยียวยาไม่แพ้กัน คนขับรถทุกคนไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุกับตนเองและผู้อื่น แต่เวลาที่อยู่หลังพวงมาลัย ไม่เคยมีใครคิดว่า ตนเองจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับตนเองและผู้อื่น