ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ หมวดการคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก และหมวดความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ เกี่ยวกับการยกเว้นทั่วไป ระบุว่า หากบุคคลที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดตั้งแต่ 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป มาขับขี่รถยนต์คันเอาประกันภัยจนเกิดอุบัติเหตุ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลภายนอกแล้ว ความเสียหายที่เกิดต่อบุคคลภายนอกนั้นก็จะไม่ได้รับความคุ้มครอง อย่างเช่น ผู้เอาประกันภัยไปเที่ยวงานสงกรานต์ ดื่มสุราไปบ้าง และขับรถยนต์คันเอาประกันภัยกลับ บ้าน ระหว่างทางขับรถไปชนรถจักรยานยนต์ซึ่งขับขี่ข้างทาง คู่กรณีผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บและรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย รวมทั้งรถประกันภัยได้ รับความเสียหายด้วย เรื่องถึงสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้เอาประกันภัยมีปริมาณแอลกอฮอล์ ในเส้นเลือด 162 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
กรณีนี้บริษัทประกันภัยสามารถ ปฏิเสธความรับผิดชอบในการชดใช้ค่าเสียหายทั้ง หมดที่เกิดขึ้นได้ ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยภาคสมัครใจ ซึ่งเป็นข้อยกเว้นซึ่งระบุทั้งหมดความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอกและหมวดความ คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ กรณีที่ผู้ขับขี่ในขณะขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดไม่น้อยกว่า 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งบริษัทประกันภัยไม่ต้องรับผิดชอบค่าสินไหมทดแทนคู่กรณีที่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายของรถจักรยานยนต์ของคู่กรณีและรถประกันภัย ตามเงื่อนไขความคุ้มครองกรมธรรม์ภาคสมัครใจ ซึ่งเป็นผลให้ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบค่าเสียหายในการเกิดอุบัติเหตุ เคลมนี้ทั้งหมด
ข้อ ยกเว้น นี้ นำปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดมาเป็นตัวกำหนด ฉะนั้นหากไม่มีการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดแล้ว บริษัทก็ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดได้ แม้ผู้ขับขี่จะมีพฤติกรรมที่น่าเชื่อว่าเมาสุราก็ตาม อย่างไรก็ตาม การตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเล้นเลือดสามารถดำเนินการได้หลายวิธี เช่น การใช้วิธีเป่าลมหายใจ (BREATH ANALYZER TEST) การตรวจจากปัสสาวะ การตรวจจากเลือด เป็นต้น ส่วนกรมธรรม์ประกันภัยภาคบังคับ (พรบ.) หรือที่เรียกว่าประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จะให้ความคุ้มครองต่อผู้ประสบภัยจากรถทุกกรณี รวมทั้งกรณีเมาสุราด้วย