คำแนะนำในการเบรคฉุกเฉินสำหรับรถที่มี ABS ให้ได้ระยะเบรคสั้นที่สุด
1. กระแทกแป้นเบรคให้สุดแป้นให้เร็วที่สุด วิธืนี้ปฏิบัติค่อนข้างง่ายเนื่องจากเป็นวิธีที่ใกล้เคียงกับปฎิกิริยาตอบสนองปกติของผู้ขับขี่ทั่วไปกรณีฉุกเฉินอยู่แล้ว
2. อย่าตกใจเมื่อแป้นเบรคสั่นและมีเสียงดังครืดๆขณะ ABS ทำงานและคงแรงกดแป้นเบรคให้สุดแป้นไว้ตลอดการเบรค
3. สามารถเลี้ยวเพื่อหลบหลีกอุบัติเหตุได้ในขณะเบรค โดยประสิทธิภาพการเลี้ยวจะลดลงไปบ้างเนื่องจากมีการลื่นไถลของยาง 15-25%
4. ระวังอันตรายที่อาจมาจากด้านหลังรถขณะเบรคด้วย อาจจำเป็นต้องผ่อนแรงเบรคลงเมื่อหลีกเลี่ยงอันตรายได้แล้วหรือเลี้ยวหลบเพื่อลดอันตรายจากด้านหลัง เพราะรถข้างหลังอาจชลอความเร็วได้ไม่เท่าเรา
5. วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในทุกๆสภาวะสำหรับรถที่ใช้ระบบ ABS ไม่ว่าจะเป็นพื้นถนนต่างๆ,แห้ง/เปียก,สภาพถนนในแต่ละล้อแตกต่างกัน,ทางตรง/ทางโค้ง รวมถึงกรณีพื้นถนนที่ไม่อัดแน่นเช่นถนนกรวด,ทรายดัวย แต่กรณีนี้หากรถสามารถเลือกปิดการทำงานของระบบ ABS ได้ก็จะสามารถเบรคแบบให้ล้อล็อคเพื่อให้ได้ระยะเบรคสั้นกว่าเมื่อเปิดระบบ ABS ได้ แต่ก็มีข้อเสียเรื่องการสูญเสียความสามารถในการควบคุมทิศทาง และสำหรับสภาพถนนที่แตกต่างกันเช่นแห้ง/เปียกต้องไม่ลืมว่าระยะเบรคสั้นที่สุดอาจต่างกันได้กว่าเท่าตัวและปรับเพิ่มความระมัดระวังตามสภาวะที่แตกต่าง
6. สังเกตุว่าไฟเตือนระบบ ABS ที่หน้าปัทม์ติดเมื่อบิดกุญแจในตำแหน่งติดเครื่องก่อนตำแหน่งสตาร์ทและดับภายในประมาณ 3 วินาทีซึ่งเป็นการแสดงว่าระบบ ABS ทำงานปกติ หากไฟเตือนไม่ติดเลยหรือติดค้างหรือติดขึ้นในขณะขับขี่แสดงว่าระบบ ABS ผิดปกติ แต่ไม่ได้หมายความว่าระบบเบรคเสียไปด้วยเพียงแต่ต้องเปลี่ยนวิธีเบรคเป็นแบบไม่มีABS(ควบคุมแรงเบรคให้อยู่ใกล้จุดที่ล้อเริ่มล็อคที่สุด)
7. ควรฝึกเทคนิคการเบรคแบบนี้ให้คุ้นเคยกับวิธีการเบรคและการทำงานของ ABS รวมถึงการเลี้ยวขณะเบรคบ้างจะได้ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อถึงเวลาฉุกเฉินจริง แต่ต้องแน่ใจว่าไม่มีรถอื่นรอบข้างโดยเฉพาะข้างหลัง ใช้ความเร็ว 40-50 km/h ก็เพียงพอสำหรับการฝึก
จะเห็นว่าจริงๆแล้ววิธีปฏิบัติไม่ยากเลย เพียงแต่ข้อมูลข้อเท็จจริงนี้ที่ยังไม่เป็นที่รู้/เข้าใจอย่างกระจ่างในหมู่ผู้ขับขี่ในวงกว้าง หวังว่าทุกท่านที่ได้รู้เทคนิคนื้แล้วเมื่อถึงคราวที่เหตุฉุกเฉินมาถึงจะสามารถนำไปใช้เพื่อให้สามารถหลีกเลี่ยงหรือบรรเทาผลของอุบัติเหตุลงได้ ถึงอย่างไรก็ตามขอให้ตระหนักว่าเทคนิคนี้เป็นมาตรการเชิงแก้ไขเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นแล้วเท่านั้น มาตรการหลักในการป้องกันอุบัติเหตุคือการหลีกเลี่ยง/ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างหากโดยการขับขี่อย่างปลอดภัยและระแวดระวัง/คาดการณ์อันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากรอบด้านตลอด