ตำรวจแจง ติดไฟซีนอน ไม่ผิดกฏหมาย

นิตยสารรถ Weekly

ผู้บังคับการตำรวจจราจรแจงข้อกฎหมายพ.ร.บ.จราจรทางบก ไฟหน้ารถ-ไฟท้าย -ไฟเลี้ยว ติดไฟซีนอนไม่ผิดหากตั้งระดับไฟ ตามที่กฎหมายกำหนด พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสะอาด ผู้บังคับการตำรวจจราจร กล่าวถึงการกวดขันจับกุมการดัดแปลงไฟหน้ารถยนต์ให้มีความสว่าง กว่าปกติรวมถึงการติดไฟซีนอนที่ผิดกฎหมาย รบกวนการขับรถของผู้อื่นจนเป็นต้นเหตุให้เกิดคดีไล่ยิงกันได้รับบาดเจ็บว่า ตำรวจจราจรมีความเข้มงวดตรวจตราในเรื่องนี้อยู่แล้ว รวมถึงตั้งด่านตรวจ รถยนต์ที่ผิดกฎหมาย หากพบก็ดำเนินคดีทันที ซึ่งการติดสัญญาณไฟซีนอนนั้นต้องดูตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 11 ด่วยว่า ในเวลาที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอที่จะมองเห็นคน รถหรือสิ่งกีดขวางในทางได้โดยชัดแจ้งภายในระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตร ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถในทางต้องเปิดไฟ หรือใช้แสงสว่างตามประเภท ลักษณะ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง "ผบก.ตร.กล่าวและว่า รายละเอียดต่างๆ ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 พ.ศ.2522 ออกตามความ พ.ร.บ.จราจรฯ มีดังนี้


ข้อ 1 รถทุกชนิดที่อยู่ในความควบคุมของกฎหมายว่า ด้วยการขนส่งทางบกต้องมีโคมไฟตามประเภท และลักษณะที่กำหนดตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก

ข้อ 2 รถยนต์ต้องมีโคมไฟหน้ารถและโคมไฟท้ายรถ มี 3 ประเภท คือ


1.โคมไฟแสงพุ่งไกล ให้ติดหน้ารถข้างละหนึ่งดวงสูงจากพื้นทางราบถึงจุดศูนย์กลางดวงโคมไม่น้อยกว่า 0.6 เมตร แต่ไม่เกิน 1.35 เมตร โคมไฟทั้งสองข้างต้องอยู่ในระดับเดียวกันใช้ไฟแสงขาวมีกำลังไฟเท่ากันไม่เกินดวงละ 50 วัตต์ มีแสงสว่างให้เห็นพื้นทางได้ชัดเจนในระยะไม่น้อยกว่า 100 เมตร ศูนย์รวมแสงต้องไม่สูงกว่าแนวขนานกับพื้นทางราบ และไม่เฉไปทางขวา ในกรณีที่เป็นรถยนต์สามล้อ ให้ใช้โคมไฟประเภทนี้เพียงดวงเดียวโดยติดไว้ที่กลางหน้ารถ


2. โคมไฟแสงพุ่งต่ำ ให้ติดหน้ารถข้างละหนึ่งดวง สูงจากพื้นทางราบถึงจุดศูนย์กลางดวงโคมไม่น้อยกว่า 0.6 เมตร แต่ไม่เกิน 1.35 เมตร โคมไฟทั้งสองข้างต้องอยู่ในระดับเดียวกันใช้ไฟแสงขาวมีกำลังไฟเท่ากันไม่เกินดวงละ 50 วัตต์ มีแสงสว่างให้เห็นพื้นทางได้ชัดเจนในระยะไม่น้อยกว่า 30 เมตร ศูนย์รวมแสงต้องอยู่ต่ำกว่าแนวขนานกับพื้นทางราบไม่น้อยกว่า 2 องศา หรือ 0.2 เมตร ในระยะ 7.5 เมตร และไม่เฉไปทางขวา ในกรณีที่เป็นรถยนต์สามล้อ ให้ใช้โคมไฟประเภทนี้เพียงดวงเดียว โดยติดไว้ที่กลางหน้ารถ


3.โคมไฟเล็ก ให้ติดหน้ารถอย่างน้อยข้างละหนึ่งดวง โดยให้อยู่ด้านริมสุด แต่จะล้ำเข้ามาได้ไม่เกิน 0.4 เมตร โคมไฟทั้งสองข้างต้องอยู่ในระดับเดียวกัน ใช้ไฟแสงขาวหรือแสงเหลือง มีกำลังไฟเท่ากันไม่เกินดวงละ 10 วัตต์ และต้องมีแสงสว่างสามารถมองเห็นได้จากระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตรโคมไฟแสงพุ่งไกลโคมไฟแสงพุ่งต่ำ และโคมไฟเล็ก จะรวมอยู่ในดวงเดียวกันก็ได้

พล.ต.ต.อุทัยวรรณ กล่าวต่อว่า ในส่วนของโคมไฟท้ายรถ มี 3 ประเภท คือ



1. โคมไฟท้าย ให้ติดท้ายรถอย่างน้อยข้างละหนึ่งดวง โคมไฟทั้งสองข้างต้องอยู่ในระดับเดียวกันใช้ไฟแสงแดดมีกำลังไฟเท่ากัน และมีแสงสว่างสามารถมองเห็นได้จากระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตร


2.โคมไฟหยุด ให้ติดท้ายรถอย่างน้อยข้างละหนึ่งดวง โคมไฟทั้งสองข้างต้องอยู่ในระดับเดียวกัน ใช้ไฟแสงแดดมีกำลังไฟเท่ากันและมีแสงสว่างสามารถมองเห็นได้จากระยะไม่น้อยกว่า 30 เมตร


3.โคมไฟส่องป้ายทะเบียนรถ ให้ติดท้ายรถ ใช้ไฟแสงขาวส่องที่ป้ายทะเบียนรถมีแสงสว่างสามารถมองเห็นเครื่องหมาย หรือตัวอักษรและตัวเลขได้ชัดเจนจากระยะไม่น้อยกว่า20 เมตร แต่ต้องมีที่บัง
มิให้แสงพุ่งออกไปทางท้ายรถโคมไฟท้าย โคมไฟหยุด และโคมไฟส่องป้ายทะเบียนรถต้องส่องแสงสว่างพร้อมกับโคมไฟหน้ารถ แต่โคมไฟหยุดต้องส่องแสงสว่าง เมื่อใช้ห้ามล้อเท้า
ผบก.จร. กล่าวอีกว่า หากมีการติดไฟซีนอนที่มีสีขาวออกเหลืองจนถึงขาวปกติ และตั้งระดับไฟตามที่กฎหมายกำหนด ก็ไม่น่าที่จะผิดกฎหมาย ส่วนการติดไฟซีนอนของรถฟอร์จูนเนอร์คันดังกล่าว
จะเข้าข่ายผิดกฎหมายจราจรในส่วนนี้หรือไม่ต้องตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งหากผิดมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท