วิธีการป้องกันการโจรกรรมรถยนต์ รถหายต้องทำอย่างไร ?

นิตยสารรถ Weekly

รถหาย ให้รีบแจ้งรายละเอียด แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุ ทราบโดยเร็ว หรือโทรหมายเลขพิเศษ "1192" (ศปร.ตร.) ตลอด24ชั่วโมง เพื่อความรวดเร็ว ในการติดตามสกัดจับคนร้าย และเพื่อความรวดเร็วในการกระจายข่าวสาร, ข้อมูลของรถที่ถูกโจรกรรม ไปยังหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง คือ ตำรวจทางหลวง, ตำรวจตระเวนชายแดน, ตำรวจภูธรภาค 1-9, กองบัญชาการตำรวจนครบาล, สถานีตำรวจภูธรตามแนวชายแดน, กองกำลังบูรพา, กองกำลังป้องกันชายแดน จันทบุรีและตราด

วิธีที่โจรใช้โจรกรรมรถยนต์


ก่อนโจรกรรม ฝ่ายโจรกรรมรถ หรือ แก๊งค์ หรือ คนร้ายลักรถจะต้องทราบ ความต้องการ ของฝ่ายผู้สั่งซื้อ หรือนายหน้าส่งออก ว่าต้องการรถอะไร ยี่ห้อ รุ่น ขนาด สี หรือที่เรียกกันว่า "ใบสั่ง" ฝ่ายโจรกรรมรถ ก็จะออกตระเวน ไปในที่ต่าง ๆ เพื่อหารถตาม ใบสั่ง ส่วนมาก จะหาในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เพราะมีรถตามที่ต้องการมาก วิธีการโจรกรรม มีอยู่หลายวิธี ทั้งวิธีการเก่าๆ และที่ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่ ผสมผสานกัน หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า คนร้ายได้ศึกษาวิธีการ และกลไกการป้องกัน การโจรกรรมรถ ของเจ้าของ และฝ่ายเจ้าหน้าที่ทุกวิถีทาง วิธีการโจรกรรมรถของคนร้าย พอประมวลได้ดังนี้


งัดหูช้าง : คนร้ายจะใช้เครื่องมืองัดหูช้างออก แล้วเอามือล้วงเข้าไปเปิดสลักหรือค้นล็อกประตู เปิดประตูรถเข้าไป แล้วใช้ไขควงงัดกระปุกกุญแจสตาร์ทออก ต่อไฟตรง เพื่อติดเครื่องยนต์แล้วขับหลบหนีไป


ใช้กุญแจปลอม : คนร้ายจะทำกุญแจเลียนแบบกุญแจของรถชนิดที่ต้องการลัก ไว้หลาย ๆ ขนาด (รอยหยัก) แล้วเลือกลองใช้ทุกดอกที่ทำไว้ ถ้าเปิดประตูรถได้ คนร้ายก็จะเปิดประตูแล้วติดเครื่องยนต์ขับหลบหนีไป


ลอกแบบกุญแจ : คนร้ายจะใช้วิธีสร้างความสนิทชิดชอบกับเด็กบริการล้างอัดฉีดรถ ตามสถานบริการจำหน่ายน้ำมัน แล้วว่าจ้างให้เอาดินน้ำมัน พิมพ์แบบกุญแจรถของจริง ตามที่มีผู้สั่งซื้อไว้ โดยมีค่าจ้างในการจัดทำ คันละ 200 - 250 บาท โดยเด็กบริการล้างอัดฉีด จะเก็บแบบพิมพ์กุญแจดินน้ำมัน พร้อมจดหมายเลขทะเบียน รถคันนั้น ไว้ให้ด้วย ต่อจากนั้น คนร้ายจะไปว่าจ้าง ร้านทำกุญแจทั่วไป ทำกุญแจปลอมตามแบบพิมพ ์ในราคาดอกละ 10 - 20 บาท เมื่อได้กุญแจแล้ว ก็จะออกตระเวน ติดตามรถคันดังกล่าว เพื่อโจรกรรม


สร้างกุญแจ : คนร้ายจะทำกุญแจในแบบและรูปทรงต่าง ๆ โดยไม่มีรอยหยัก ของรถตามชนิดที่ต้องการ (ระบุไว้ในใบสั่งซื้อ) แล้วเอาน้ำหมึกอินเดียอิ้งค์สีดำ ทาไว้ปล่อยให้แห้งสนิท เมื่อพบรถที่ต้องการ คนร้ายจะเอากุญแจแบบรูปทรงที่ทำไว้ สอดเข้าไปในรูกุญแจประตูรถ แล้วบิดหมุน เพื่อให้เกิดร่องรอย ที่น้ำหมึกอินเดียอิ้งค์ ดึงเอากุญแจออก นำไปเซาะร่อง ตามรอยที่ปรากฏอยู่ เมื่อวัดทำกุญแจเรียบร้อยแล้ว คนร้ายก็จะออกติดตามรถคันนั้น เมื่อสบโอกาสจะทำการโจรกรรมทันที


ใช้ลวดเกี่ยวปุ่มล็อกประตูรถ : รถบางชนิดไม่มีหูช้าง คนร้าย จะใช้วิธีดึงกระจกที่บานประต ูให้เผยอเพียงเล็กน้อย และถ้าเจ้าของปิดกระจกไม่สนิท ก็ยิ่งเป็นโอกาส ให้เกิดความสะดวก แก่คนร้ายมากขึ้น ต่อจากนั้น คนร้ายจะใช้ลวด ทำเป็นห่วงที่ปลาย สอดเข้าไป ดึงปุ่มล็อกประตูออก เปิดประตูเข้าไปในรถ ต่อไฟฟ้าสายตรง สตาร์ทเครื่องยนต์แล้วขับ หลบหนีไป


ใช้ไขควงฉาก : คนร้าย จะทำไขควงชนิดหน้าแบน ขนาดยาวประมาณ 1 ฟุต (รวมความยาวของด้าม) ที่ตอนปลายไขควง ตรงความยาวประมาณ 1 ใน 3 ของความยาวไขควง ดัดงอเป็นมุมฉาก ใช้ปลายไขควง สอดเข้าไปในรูกุญแจประตูรถ งัดอย่างแรง กระปุกกุญแจประตู จะแตกและหลุดออกมา สามารถเปิดประตูรถ เข้าไปต่อไฟฟ้าสายตรง เพื่อติดเครื่องยนต์ แล้วขับหลบหนีไป


งัดฝาถัง น้ำมัน : มีรถหลายชนิดฝาถังน้ำมันอยู่ภายนอก และกุญแจเปิดฝาถัง น้ำมัน กุญแจเปิดประตูรถ และกุญแจติดเครื่องยนต์ ใช้ดอกเดียวกัน คนร้ายจะใช้กุญแจเลื่อนขนาดใหญ่ งัดเอาฝาน้ำมัน ไปทำกุญแจ โดยอาศัยร่องรอย จากรูกุญแจของฝาถังน้ำมัน เมี่อทำเสร็จแล้ว จะได้ทั้งกุญแจไปไขประตูรถ และติดเครื่องยนต์


ใช้น้ำกรด : คนร้ายจะใช้น้ำกรดใส่ขวด และมีลูกยางหรือเข็มฉีดยาพร้อมหลอด ดูดน้ำกรดจากขวดน้ำ ไปหยอดหรือฉีด เข้าไปในรูกุญแจประตูรถ น้ำกรดจะเข้าไปทำลายช่อง กุญแจ ทำให้สามารถเปิดประตูเข้าไปในรถได้ แล้วใช้วิธีต่อไฟฟ้าสายตรง เพื่อติดเครื่องยนต์ ขับหลบหนีไป


เปิดกระจกหลังรถ : คนร้าย จะใช้ไขควง งัดยางขอบกระจกหลังรถออก แล้วเปิดกระจกออกด้วยแรงดึง ซึ่งกระทำด้วยความชำนาญ คนร้ายหรือลูกมือที่ใช้วิธีการนี้ จะเคยเป็นช่างถอด หรือใส่กระจกมาก่อน เมื่อถอดกระจกออกได้แล้ว จะมุดตัวเข้าไปในรถ แล้วใช้วิธีต่อไฟฟ้าสายตรง เพื่อติดเครื่องยนต์ แล้วขับรถหลบหนีไป


ใช้เหล็กเขี่ยสลักล็อกประตู : คนร้าย จะทำเหล็กเป็นลักษณะแบนหรือกลม หรือใช้ไขควงตัวเล็ก ๆ แหย่เข้าไปในรู ใต้หูจับเปิดรถ แล้วเขี่ยสลักล็อกประตูรถ เปิดประตูเข้าไปในรถ ใช้วิธีต่อไฟฟ้าสายตรง เพื่อติดเครื่องยนต์ ขับหลบหนีไป


ใช้กุญแจพิเศษ : คนร้ายจะใช้เหล็กที่แข็งเป็นพิเศษ ทำเป็นหยักหรือร่องถี่ๆ มีขนาดความหนาเท่ากับกุญแจรถทั่ว ๆ ไป กุญแจพิเศษนี้มีความแข็งมากเป็นพิเศษ เมื่อใส่เข้าไปในรูกุญแจประตูรถแล้วบิดด้วยความแรง ความแข็งของกุญแจพิเศษจะงัดร่อง ในกุญแจประตูรถให้หักหรือไม่อยู่ในสภาพเดิม สามารถเปิดประตูเข้าไปในรถได้ ต่อไฟฟ้า สายตรงเพื่อติดเครื่องยนต์แล้วขับหลบหนีไป


ใช้คีมบิดยวงกุญแจ : คนร้าย จะใช้คีมที่มีความเหมาะสม ในการคีบยวงกุญแจ ประตู อาศัยแรงบีบที่แน่น และมั่นคง บิดด้วยความแรงดึงเอายวงกุญแจประตูรถออกไป แล้วนำไปจ้าง ช่างทำกุญแจปลอม เพื่อโจรกรรมรถคันนี้ต่อไป


ใช้กลอุบายรับจ้างขับรถ : คนร้ายจะใช้วิธีการง่าย ๆ โดยไปรับจ้างเป็น คนขับรถตามสำนักงานจัดหางาน เมื่อได้รถแล้วก็จะขับรถให้นายจ้างประมาณ 6 - 7 วัน ได้โอกาสก็จะขับรถหลบหนีไป


จี้หรือชิงรถซึ่งหน้า : คนร้ายประเภทนี้ จะใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ปฏิบัติการครั้งละ 2 คน (ขับขี่ 1 คน และซ้อนท้าย 1 คน) ติดตามสะกดรอยรถ ตามใบสั่ง เมื่อเจ้าของรถหรือเหยื่อขับรถคนเดียว ไปจอด หรือผ่านไปในเส้นทางที่เปลี่ยว หรือลับตาคน คนร้ายก็จะใช้วิธีขับรถจักรยานยนต์ ไปเฉี่ยวรถของเหยื่อ เมื่อเหยื่อ ซึ่งเป็นเจ้าของรถหยุด รถลงตรวจสอบความเสียหาย คนร้าย จะใช้อาวุธปืนหรือมีดปลายแหลม จี้ให้ลงจากรถ และส่งกุญแจรถให้ คนร้ายก็จะขับขี่รถเอาไปซึ่งหน้า ทิ้งผู้เสียหาย (เจ้าของรถ) ไว้ในที่ เกิดเหตุ


มอมยาคนขับรถยนต์รับจ้าง : คนร้าย จะแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ขั้นตอน ขั้นแรก คนร้ายซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง จำนวน 4 - 5 คน จะไปว่าจ้างรถยนต์ (ตามใบสั่ง ที่ต้องการ) เพื่อไปเที่ยวน้ำตก หรือสถานท่องเที่ยว ในต่างอำเภอหรือจังหวัด เสร็จงาน ก็จะจ่ายเงินให้คนขับตามปกติ ขั้นที่สอง เป็นห้วงระยะเวลา 4 - 5 วัน จากขั้นแรก คนร้ายชุดเดิม จะว่าจ้างรถไปเที่ยวเหมือนเดิม แต่จะนัดหมายกับคนร้ายพวกเดียวกัน 1 - 2 คน ไปรอ ณ. จุดที่กำหนดเพื่อรอรับรถ ใกล้บริเวณจุดที่กำหนด คนร้ายที่เป็นผู้หญิง จะพยายามหาโอกาส ในช่วงที่คนขับรถ รับประทานอาหารร่วมกัน ใส่ยานอนหลับ หรือยาชนิดอื่นที่ทำให้มึนเมาหมดสติลงไปในเครื่องดื่ม หรืออาหาร เพื่อมอม คนขับรถให้หมดสติ ต่อจากนั้น ก็จะส่งคนขับรถไปนอนที่โรงแรม ซึ่งได้จองไว้ล่วงหน้า แล้วนำกุญแจรถให้กับคนร้าย ซึ่งรออยู่แล้วขับรถหลบหนีไป วิธีการนี้ค่อนข้างจะ เป็นวิธีใหม่ในการโจรกรรมรถ


รถยนต์ที่มีล็อคพวงมาลัยอัตโนมัติ : คนร้ายจะใช้เท้าถีบและใช้มือดึงพวงมาลัย ให้สลักล็อคพวงมาลัยหักหรือหลุด


รถยนต์ที่ใช้โซ่ล่ามพวงมาลัยกับคันเบรค : คนร้ายจะใช้กรรไกรตัดเหล็กขนาด ใหญ่และคมตัดโซ่หรือทำลายกุญแจโดยการใช้น้ำกรดหยอดลงในรูกุญแจ แล้วใช้เหล็กงัดทำลายกุญแจ


รถยนต์ที่มีอุปกรณ์ล็อคคลัชและเบรค : คนร้ายจะใช้วิธีทำลายกุญแจ แบบใช้ น้ำกรดหยอด หรือเหล็กงัด หรือใช้วิธีตัดแผ่นรองเท้าที่คันคลัชและเบรคออก


รถยนต์ที่ติดตั้งสัญญาณส่งเสียง : คนร้ายจะศึกษาล่วงหน้าว่าเจ้าของรถทำไว้ อย่างไร เช่น ติดตั้งสัญญาณไว้ที่ประตู ถ้าเปิดประตูสัญญาณจะดัง คนร้ายก็จะใช้วิธี ทุบกระจกประตู หรือถอดกระจกหลังรถเพื่อเข้าไปในรถโดยไม่ต้องเปิดประตู


รถยนต์ตัดสวิทซ์หรือตัดวงจรไฟฟ้า : คนร้ายก็จะใช้วิธีศึกษาการใช้ของเจ้าของ รถมาก่อนทำการโจรกรรม ถ้าไม่สามารถทำได้ คนร้ายจะมีลูกมือเป็นช่างไฟฟ้า ทำงานในอู่ซ่อมรถมาก่อนเป็นผู้ดำเนินการต่อวงจรใหม่ โดยไม่ต้องคำนึงถึงสวิทซ์ ติดวงจรลับที่ทำไว้

วิธีป้องกันการโจรกรรมรถยนต์


ซื้อรถใหม่ : หากท่านมีรถใหม่ ควรติดตั้งอุปกรณ์ กันขโมยเพิ่มเติม เช่น เปลี่ยนกุญแจใหม่ ติดตั้ง ชุดล็อคเกียร์ ล็อคครัช ล็อคพวงมาลัย และสัญญาณกันขโมย คนร้ายชอบขโมยรถใหม่ๆ เนื่องจาก ขายต่อได้ง่าย มีราคาสูง โดนเฉพาะ บรรดารถ ยอดนิยมต่างๆ อาทิ รถปิคอัพ รถขับเคลื่อน 4 ล้อ และรถเก๋งรุ่นใหม่ๆ เมื่อเจ้าของรถได้รถมาใหม่ มักยัง ไม่ติดตั้งอุปกรณ์กันขโมย เมื่อจอดไว้ใน ที่ไม่ปลอดภัย คนร้ายฉวยโอกาส โจรกรรมรถ ไปได้โดยง่ายๆ


ซื้อรถมือสอง : เมื่อท่านจะ ตกลงซื้อรถเก่า จากเจ้าของ หรือจากผู้ขาย ตามเต็นท์ขายรถ ต้องขอ หมายเลขเครื่อง หมายเลขตัวถัง และสำเนาทะเบียนรถ มาตรวจสอบ กับทะเบียนรถ ในท้องถิ่นที่ รถนั้นจดทะเบียน ไว้เสียก่อน เพราะอาจเป็นรถ ที่ไม่ถูกต้อง หรือขโมย มาสวมทะเบียน เมื่อซื้อรถมาแล้ว ควรต้องเปลี่ยนกุญแจ และติดตั้งอุปกรณ์ กันขโมยเช่นเดียวกับ รถใหม่ พึงระมัดระวัง ระลึกอยู่เสมอว่า คนร้ายจ้องรอโอกาส ขโมยรถของ ท่านอยู่


จอดรถต้องระวัง : การจอดรถไม่ว่าจะจอดในที่ ส่วนบุคคล ที่สาธารณะ แม้จอดทิ้งไว้ ระยะสั้นหรือ นานเพียงใด เพื่อไปทำธุระ หรือทำงาน ก็ตาม ไม่ควร จอดไว้ห่างไกล ควรมีคนเฝ้า ดูแลหรือยาม รปภ. ก่อนทิ้งรถ ควรไปตรวจสอบ การล็อคกุญแจประตู และใช้ อุปกรณ์ กันขโมย ให้ครบถ้วน อย่าทิ้งทรัพย์สิน สิ่งของมีค่า ไว้ในรถ ล่อตาคนร้าย บางครั้งรถ ไม่หายแต่ ของหาย


จอดรถในบ้าน - นอกบ้าน :
- จอดรถในบ้านต้องเอาท้ายรถออกนอกบ้าน ล็อครถและใช้อุปกรณ์กันขโมย
- ติดตั้งโคมไฟให้ส่องสว่างให้มองเห็นทั้งในและนอกรั้วบ้านหากจำเป็นต้องจอดรถนอกบ้าน ควรจอดชิดขอบทางหน้าบ้าน ให้มองเห็นได้ ล็อคกุญแจและอุปกรณ์กันขโมย
- ควรร่วมมือกับเพื่อนบ้านใกล้เคียงช่วยกันจ้างยามรักษาความปลอดภัย คอยดูแล และให้ทุกคนในบ้านช่วยกันดูแล ซึ่งกันและกันด้วย


หากมีความจำเป็นต้องจอดรถยนต์ไว้บนถนนหน้าบ้าน : ควรมียาม รักษาความ ปลอดภัย เผ้าดูแลรถ ตลอดเวลา โดยประสาน ความร่วมมือ กับเพื่อนบ้าน ใกล้เคียง ที่ใช้รถ และจอดรถไว้ ในลักษณะเดียวกัน เพื่อช่วยเหลือกัน ในเรื่องค่าจ้าง ของยามรักษา ความปลอดภัย


ข้อควรระวังในการจอด
- อย่าจอดรถทิ้งไว้ค้างคืนบนถนน ไม่ว่าจะมีเครื่องป้องกันการโจรกรรมรถชนิดใดก็ตาม
- อย่าทิ้งกุญแจรถไว้ที่รถ เมื่อจอดรถลงไปทำธุระไม่ว่ากรณีใดก็ตาม


ระวังการนำรถไปซ่อม-รับบริการ :
- แก็งค์คนร้ายอาจจะเป็นช่างซ่อมรถหรือผู้ให้บริการตามอู่ซ่อมรถ หรือสถานบริการบำรุงรักษารถ มีความชำนาญระบบกลไก ของรถ อาจลักลอบทำกุญแจผี หรือทำลายระบบกันขโมย แล้วติดตามไปโจรกรรมรถของท่านในภายหลัง จึงควรระมัดระวัง
- ควรอยู่ดูแลการซ่อมหรือการบริการอื่นๆ อย่างใกล้ชิด
- หากจำเป็นต้องทิ้งรถไว้ให้ซ่อม หรือบำรุงรักษา จะต้องเป็น ผู้คุ้นเคยหรือ ไว้ใจได้เท่านั้น


กุญแจรถ เรื่องสำคัญ : มีรถบางชนิด ใช้กุญแจ รถดอกเดียวกัน สำหรับเปิด ประตู ติดเครื่องยนต์ เปิดลิ้นชัก และฝาน้ำมัน ดังนั้นเมื่อ ฝาน้ำมันหาย อาจเป็นไป ได้ว่าคนร้าย ได้นำไปเพื่อ ทำแบบ สร้างกุญแจปลอม สำหรับ นำมาใช้ใน การโจรกรรม ฉะนั้น หากฝาถังน้ำมันหาย ควรรีบเปลี่ยนกุญแจ ที่ใช้กับรถ เสียใหม่ โดยใช้ กุญแจที่ใช้ เฉพาะแห่งเท่านั้น และเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ


ระวัง การใช้อุปกรณ์กันขโมย : เมื่อติดตั้งอุปกรณ์ กันขโมยแล้ว การใช้ อุปกรณ์ ต้องเก็บ เป็นความลับเฉพาะ ผู้ที่ไว้ใจได้ เพราะอุปกรณ์ บางอย่าง ใช้รหัสเฉพาะ หรือ สัญญาณรีโมท การไปจอกรถ ในที่ต่างๆ จึงควรระวัง คนร้าย อาจคอย สังเกตวิธีการ ใช้อุปกรณ์ กันขโมย ของท่านและ ติดตาม ไปหา โอกาส โจรกรรมรถ ของท่าน ในภายหลัง


รถคุณถูกติดตามจะทำอย่างไร : กรณีสังเกตรู้ว่า มีผู้ขับรถ ติดตาม รถท่านให้สันนิษฐานว่า เป็นคนร้าย ไว้ก่อน เพราะอาจ ตามไป ฉวยโอกาส ขโมยรถ เมื่อท่านจอดรถ ทิ้งไว้ ในที่ไม่ปลอดภัยหรือ อาจประทุษ ร้ายต่อ ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของท่าน ดังนั้น เมื่อรู้ว่า ถูกติดตาม จึงควรป้องกัน โดยพยายาม ขับรถ เข้าไปใน เขตชุมชน ขอความ ช่วยเหลือ และแจ้งเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ที่ใกล้ที่สุด โดยด่วน


จดจำตำหนิรูปพรรณ : ท่านควรจดจำ ข้อมูล รายละเอียด เกี่ยวกับรถของท่าน ไว้ให้มากที่สุด โดยเฉพาะ ตำหนิ รูปพรรณ พิเศษอื่นๆ โดยถ่าย เอกสาร ทะเบียนรถ เก็บไว้ รวมทั้ง ถ่ายรูปรถ ของท่าน ให้ปรากฏรอยตำหนิ พิเศษ เก็บรักษา ไว้เป็น หลักฐาน กรณีรถหาย จะได้นำมาแจ้ง ให้ตำรวจ ตรวจสอบ สกัดจับ ได้อย่างรวดเร็ว ทันการณ์ หากรถ ของท่าน ยังไม่มีตำหนิ ควรทำขึ้นไว้ใน จุดที่ผู้อื่น ไม่สามารถ สังเกตเห็น และจดจำ ไว้ให้แม่นยำ


รถจักรยานยนต์ต้องล็อคล้อล่ามโซ่ : เนื่องจากมีสถิติ รถจักรยานยนต์ หายมากที่สุด เพราะคนร้าย ขโมยไปได้ง่าย หรือยกขึ้น รถอื่น ได้สะดวก การจอด รถจักรยานยนต์ นอกจากจะ ล็อคกุญแจคอ กุญแจล้อแล้ว ควรล่ามโซ่ ไว้ให้แข็งแรงด้วย และอย่า จอดทิ้งไว้ ในที่เปลี่ยว หรือที่