รองผบช.น.เตรียมขอความร่วมมือทุกภาคส่วนแก้ปัญหาจราจร หลังสื่ออังกฤษสำรวจพบ กทม. เป็นเมืองรถติดอันดับ1โลก ลั่น21ต.ค.ผิด-จับ-ปรับเข้ม
พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ดูแลงานจราจร เปิดเผยถึงมาตรการแก้ปัญหารถติดในพื้นที่กรุงเทพฯว่า บช.น. จะขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาความน่าอายด้านการจราจร สืบเนื่องจากว่า สำนักข่าว บีบีซี อังกฤษ ได้สำรวจ 10 ยอดอันดับรถติดที่สุดในโลกระบุว่า "กทม.รถติดเป็นอันดับหนึ่ง" จึงควรต้องแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ดังนั้นการแก้ไขปัญหาการจราจรใน กทม. จึงเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนจะต้องลงมาร่วมกันแก้ใขปัญหาอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง เพื่อลบสถิติน่าอายออกไปจากประเทศไทย
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวอีกว่า ในส่วนของ งานจราจร บช.น.ได้เริ่มต้น ดีเดย์ แล้วเริ่มจาก 16 โครงการเร่งด่วนโดยเริ่มที่การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นและเด็ดขาด รวมถึงจะประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วนมาร่วมกันโดยเข้าไปแก้ไขปัญหาในถนน 10 สาย ได้แก่
1.ถนนลาดพร้าว
2.ถนนพระราม4
3.ถนนสุขุมวิท
4.ถนนรัชชาภิเษก
5.ถนนรามคำแหง
6.ถนนพหลโยธิน
7.ถนนสาธรเหนือ-ใต้
8.ถนนราชดำเนินกลางต่อเนื่องบรมราชชนนี
9.ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
10.ถนนวิภาวดีต่อเกษตรนวมินทร์
ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 21 ต.ค.นี้ เน้นจับจริง แก้ไขจริงและได้ประกาศในปี2557 ให้เป็นปีแห่งการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เริ่มตั้งแต่ 21 ต.ค.นี้ เช่นเดียวกัน
"นอกจากนี้จะจัดระบบการเปรียบเทียบปรับอิเล็กทรอนิกส์รองรับการทำงานการบังคับใช้กฎหมายเข้มข้นอีกด้วย ซึ่งน่าจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรได้ 10เปอร์เซ็นต์ ในระยะที่ 1 ดังกล่าวข้างต้น ระยะที่ 2 ซึ่งจะใช้รองรับระบบการบังคับใช้กฎหมายให้สมบูรณ์คือ ศาลจราจร /การจัดระบบการเหลื่อมเวลา การใช้รถในถนน ซึ่งจะต้องนำเสนอรัฐบาล โดยด่วนซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาการจราจรได้15 เปอร์เซ็นต์ ระยะที่3 ปัญหาที่จะแก้ได้อย่างเบ็ดเสร็จคือ ต้องผลักดันเสนอรัฐในการจัดระบบขนส่งมวลชนไฟฟ้าหรือใต้ดิน ให้เต็มระบบโดยเร็วเพื่อแก้ไขปัญหาจราจรในอนาคต รวมทั้งจะต้องจัดการปรับพฤติกรรมการมาใช้รถของขนส่งมวลชน และจัดระบบที่จอดรถเอกชนเข้ามาช่วยจะแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว ซึ่งจะแก้ปัญหาจราจรได้ 80-100เปอร์เซ็นต์" รอง ผบช.น.กล่าว
ทั้งนี้ สำหรับ 10 ลำดับ ประเทศรถติดที่สุดในโลก จากการสำรวจ ของสำนักข่าว บีบีซี ประเทศอังกฤษ คือ
1.กรุงเทพฯ ประเทศไทย
2.กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
3.ไนโรบี้ ประเทศเคนย่า
4.กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์
5.เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย 6.เมืองกัมปาลา ประเทศยูกันดา
7.เมืองเล็กซิงตัน รัฐเคนตักกี้ สหรัฐฯ
8.เมืองออสติน รัฐเท็กซัส สหรัฐฯ
9.กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
10.เมืองดาก้า ประเทศบังกลาเทศ