รู้เอาไว้ระดับน้ำท่วมแค่ไหน ปลอดภัยเมื่อขับ

นิตยสารรถ Weekly

1. ระดับความสูงของน้ำ 10 - 30 เซนติเมตร


ความสูงของระดับน้ำ 10 - 30 เซนติเมตร ถ้าจะให้เปรียบให้เห็นภาพก็ประมาณขอบฟุตบาทตามถนน หรือ ถ้าจะวัดกับความสูงของคน ก็จะอยู่ประมาณเลยตาตุ่มขึ้นมาจนถึง กลางหน้าแข้ง ซึ่งระดับน้ำในขนาดนี้ "รถเล็ก (รถเก๋ง รถกระบะ)" ยังสามารถวิ่งได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรถเก๋งอาจมีปัญหาเล็กน้อย เพราะคุณ อาจได้ยินน้ำกระเพื่อมอยู่ที่ใต้ท้องรถ แต่คุณก็ยังคงขับต่อไปได้เรื่อย ๆ โดยยังไม่มีปัญหาใด ๆ


 


2. ระดับความสูงของน้ำ 20 - 40 เซนติเมตร


ความสูงของระดับน้ำ 20 - 40 เซนติเมตร ถ้าจะให้เปรียบให้เห็นภาพก็สูงในระดับเทียบเท่ากับขอบประตูของรถเก๋งทั่วไปที่มีระยะสูงจากพื้น 150-170 ม.ม. หรือ หากวัดกับความ สูงของคนก็ประมาณหัวเข่าขึ้นไปจนถึงต้นขา ซึ่งระดับน้ำขนาดนี้ รถเก๋งจะไม่สามารถวิ่งได้แล้ว เพราะท่อไอเสียนั้นจะจมน้ำอยู่ตลอดเวลา แต่รถ ขนาดใหญ่ เช่น รถเมล์ รถทหารยังสามารถวิ่งได้ ส่วนรถกระบะนั้นก็ยังพอวิ่งได้


 


3. ระดับความสูงของน้ำ 40 - 60 เซนติเมตร


ระดับความสูงของน้ำ 40 - 60 เซนติเมตร ระดับน้ำขนาดนี้ รถกระบะทั่วไปนั้นอาจสามารถวิ่งได้อยู่ แต่ก็ต้องลุ้นพอสมควร โดยที่สำคัญคือต้องระวังเรื่องคลื่นของน้ำ ซึ่งอาจลอย มากระทบตัวรถจนทำให้น้ำสูงขึ้นมาชั่วขณะ แต่อาจเข้าตัวเครื่องยนต์ได้ ซึ่งระดับน้ำขนาดนี้ก็ต้องปิดระบบปรับอากาศขณะขับเท่านั้น


 


4. ระดับความสูงของน้ำ 60 - 80 เซนติเมตร


ระดับความสูงของน้ำ 60 - 80 เซนติเมตร บอกได้เลยว่าเป็นอันตรายกับรถทุกประเภทแน่นอน ไม่เว้นแม้กระทั่งรถใหญ่ทั้งหลาย เพราะน้ำอาจมีสิทธิไหลเข้ากรองอากาศได้ ง่ายกว่า เพราะถ้าน้ำไหลเข้ากรองอากาศแล้ว สามารถทำให้เครื่องยนต์หยุดชะงักและสร้างความเสียหายต่อระบบต่าง ๆ ได้ ดังนั้น หากรู้ว่าจะต้อง ขับลุยน้ำความสูงขนาดนี้ ก็ให้หาอะไรมาปิดตัวถังด้านหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้ากรองอากาศ แต่ที่สำคัญ คือ พยายามอย่าขับปะทะคลื่น โดยตรง และขับช้า ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงเครื่องดับกลางคัน โดยระดับความสูงของน้ำขนาดนี้ คงต้องใช้เรือในการสัญจรไปมาแล้ว